นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีมติอนุมัติดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในโครงการประกันรายได้ปี 2563/64 ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะที่ผ่านมา ส.ส. พรรคเพื่อไทยในหลายพื้นที่ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั้งข้าวและผู้ปลูกข้าวเหนียว
ซึ่งได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากราคาข้าวตกต่ำมาก โดยเฉพาะราคาข้าวเปลือกเหนียว จากเดิมราคาจะอยู่ที่ตันละ 11,000-12,000 บาท แต่ปัจจุบันราคาตกลงอยู่ที่ ตันละ 6,000 บาท ไม่เกิน 7,000 บาท
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงแม้ราคาข้าวลดต่ำลง เกษตรกรไม่อยากขายก็ไม่ได้ เพราะไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ที่ผ่านมาเกษตรกร จำเป็นต้องขายข้าวที่มีอยู่ด้วยน้ำตา เพราะเป็นการขายขาดทุน แต่หากไม่ขายก็ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินประทังชีวิต
นายจักรพล กล่าวด้วยว่า การดำเนินการของรัฐบาลในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนล่าช้ามาก ทั้งๆที่ราคาประกันจะต้องออกมาตั้งแต่เดือนตุลาคมของทุกปี เพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวของเกษตรกร ซึ่งหลายครอบครัวประสบปัญหารายได้ เพราะที่ผ่านมารัฐทอดทิ้ง ไม่ให้ความสำคัญ ทำให้เกษตรกรต้องขายผลผลิตที่มีอยู่ออกไป แม้ขาดทุนก็ต้องขาย
“หากรัฐบาลมีความจริงใจและมองเห็นความสำคัญที่จะช่วยเกษตรกรอย่างแท้จริง รัฐบาลทราบดีอยู่แล้วว่า สินค้าเกษตรใดจะออกช่วงไหน รัฐต้องบูรณาการแผนงานในการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งประเทศ รวมทั้งมีการวางแผนงานในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ มีแนวทางที่ชัดเจน ทั้งการลดต้นทุน การเพาะปลูก การจัดการสินค้า การผลักดันให้มีระบบเกษตรแม่นยำ รวมทั้งการหาตลาดรองรับ ไม่ทำงานแบบขายผ้าเอาหน้ารอด เพราะภาระทั้งหมดจะไปตกที่เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ผู้มีอำนาจควรที่จะศึกษาแผนงานที่รัฐบาลที่ผ่านมาทำไว้ แล้วปรับมาเป็นนโยบาย สมัยรัฐบาลเพื่อไทยเกษตรกรมีความสุขกว่ารัฐบาลปัจจุบัน ที่ยิ่งทำเกษตรยิ่งจน” นายจักรพล กล่าว