พูด (หวังดี)..ปีละหน?

คอลัมน์ ผสมโรง

สันต์ สะตอแมน

มาถูกทางแล้วขอรับ..

ผมหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับการสวมบท “เตมีย์ใบ้” ในห้วง 3-4 วันที่ผ่านมาน่ะ!

ซึ่งการที่นายกฯ ลุงตู่วางตัวสงบนิ่ง ปิดปาก ระงับอารมณ์ฉุนเฉียว ไม่ตอแยกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนั้น ภาพ-บุคลิกผู้นำก็ดูจะโดดเด่น สง่า น่าเลื่อมใส ศรัทธา..

ซ้ำยังจะไม่ไปเติมเชื้อเติมไฟให้บรรยากาศการเมืองรุ่มร้อนขึ้นตามความต้องการของอีกฝ่าย และนี่หากคนในซีกรัฐบาลได้เอาตามอย่างท่านนายกฯ ช่วยกัน “สงบปากสงบคำ” ลงด้วย..

ก็ยิ่งจะช่วยให้การเมือง สังคม-ประเทศ ได้เกิดความสงบ..“บิ๊กแดง” ก็จะได้ไม่ต้องเปิดการแสดง “เดี๋ยวไมโครโฟน2” ให้เปลืองน้ำลาย!

นี่..พูดถึงนายกฯลุงตู่ ก็พอดีได้อ่านที่อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี บรรยายในหัวข้อ “ประชาชน พรรคการเมือง ทหารไทย ติดกับดักก่อวิกฤติใหม่ประเทศไทย” เมื่อวันวาน

โดยท้ายบรรยาย อาจารย์ได้พูดถึง “งานที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ควรทำ” ว่า.. “รัฐบาลประยุทธ์ในช่วงรัฐประหารมีผลงานจับต้องได้จำนวนหนึ่ง คือโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ และการรักษาความสงบไม่ให้มีการชุมนุมประท้วง

ส่วนการปฏิรูประบบไม่เกิด การสร้างความสมานฉันท์ก็ไม่เกิด รัฐบาลประยุทธ์ซึ่งมาจากเลือกตั้งจะยิ่งทำงานลำบากกว่าเดิมมาก เพราะโดยโครงสร้างรัฐบาลจะอยู่รอดต่อไปได้ ต้องจัดสรรผลประโยชน์มาให้ทุกกลุ่มการเมือง

ซึ่งในที่สุดจะต้องพึ่งพากลุ่มทุนใหญ่ ดังนั้นภารกิจหลักของรัฐบาลในช่วงหน้าก็คือจะกลายเป็นการดำเนินนโยบายโครงการให้กับกลุ่มทุนใหญ่ เป็นรัฐบาลทหารเพื่อกลุ่มธุรกิจใหญ่นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าคนจำนวนมากยังต้องการให้ประเทศได้มีรัฐบาลบริหารงานไปอีกสักระยะหนึ่ง

ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ควรปรับปรุงวิธีการทำงาน เพราะการควบคุมประสานพรรคร่วมลำบากยากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ควรตั้งเป้าหมายระยะยาว แต่ต้องทำให้ได้ผลจริงจังสักสองสามเรื่องก็พอ

อย่างแรก คือ โฟกัสการแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ที่ผมเคยเรียก “รวยกระจุก จนกระจาย กลางกระจ้อน” (กระจ้อน = แคระ แกร็น) อย่างจริงจัง

เพราะปัญหาความเลื่อมล้ำมีสูง คนจน คนชั้นกลางก็ลำบากจริง ๆ การแก้ปัญหานี้จริง ๆ ทำได้ยากแต่นายกก็ต้องทุ่มเททำ

อย่างที่สอง คือ การเพิ่มคุณภาพของคนในทุกวัยในด้านการศึกษาพัฒนาทักษะใหม่ อาชีพใหม่สำหรับเศรษฐกิจแบบ disruptive ที่เกิดขึ้นรวดเร็วในหลาย ๆ ด้าน

ต้องใช้อำนาจบารมีตัวนายก ฯ ประยุทธ์เองลงมือแก้ปัญหาเอง การแก้ปัญหาครบทั้งต้นน้ำปลายน้ำ เช่นต้องมีการประกันรายได้การงานให้ และควรทำแบบเลือกสรรเฉพาะส่วน

เพราะการปฏิรูปทั้งระบบใหญ่โตเกินไป ไม่สามารถทำได้จริง ถ้าทำเช่นนี้ ก็จะเป็นการเลือกลำดับความสำคัญได้ถูกต้องใกล้เคียงมากที่สุด”

ครับ..นายกฯ ลุงตู่จะเชื่อ-ไม่เชื่อก็สุดแท้ แต่ขอร้องว่า อย่าสวนอาจารย์ธีรยุทธเลยนะ..

นานปี..อาจารย์จะออกมาพูด (หวังดี) แค่ครั้ง!

Written By
More from pp
ศาลให้ประกัน “ลูกเกด ชลธิชา” คดี 112 หลังตัดสินคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา
27 พฤษภาคม 2567 – ศาลจังหวัดธัญบุรี นัดอ่านคำพิพากษา นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี ในคดีมาตรา 112 จากกรณีการชุมนุมที่หน้าศาลจังหวัดธัญบุรี...
Read More
0 replies on “พูด (หวังดี)..ปีละหน?”