เปิดไทม์ไลน์ 16 ตุลา ‘หมอเอก’ ก้าวไกล ยืนยัน สลายชุมนุมผิดหลักการสากล เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ร้องรัฐสภาตรวจสอบข้อเท็จจริง ผู้เกี่ยวข้องต้องเปิดเผยสารเคมีที่ใช้กับประชาชน

“หมอเอก” นพ .เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส. เขต 1 จังหวัดเชียงราย อภิปรายว่า รัฐบาลประยุทธ์ได้อ้างการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และอ้างถึงการปฏิบัติตามกฎสากลเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองในการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ต.ค.63 ที่ผ่านมาจากการประกาศใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง

แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฎคือ ตลอดระยะเวลาที่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนได้ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา นับเป็นระยะเวลากว่า 4 เดือนเศษ

แต่กลับไม่มีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด -19 จากการชุมนุมแม้แต่รายเดียว ซึ่งการที่รัฐบาลยิ่งอ้างกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ยิ่งเป็นการอ้างที่ไม่สมเหตุสมผล และทำให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของระบาดวิทยาแม้แต่น้อย

“อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมในการสลายการชุมนุมในวันที่ 16 ต.ค. เหตุการณ์ในวันนั้นคือ เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้ชุมนุมได้ทยอยเดินทางเข้าในพื้นที่แยกปทุมวัน ราวๆ 17.40 น. ผู้ชุมนุมเข้าเต็มพื้นที่แยกปทุมวัน

ระหว่างนั้นเวลา 18.35 น. หน่วยตำรวจเดินเข้าหากลุ่มผู้ชุมนุม และเริ่มประกาศให้ผู้ชุมนกลับบ้าน จากนั้นเพียง 10 นาทีก็เริ่มมีการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดใส่แนวผู้ชุมนุมที่มีเพียงร่มและเสื้อกันฝน วิธีการการสลายการชุมนุมแบบนี้จึงจะไม่สมสัดส่วนกันระหว่างความรุนแรงของผู้ชุมนุมและความรุนแรงจากการปราบปราม ซึ่งทุกคนย่อมรู้ดีว่า ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเพียงนักเรียน นักศึกษา แต่รัฐบาลกลับเลือกใช้วิธีรุนแรงในการเข้าควบคุม”

นพ.เอกภพ ยังระบุอีกว่า ผลจากการฉีดน้ำดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเลือดออกในช่องท้องจากการถูกเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดใส่ มีเด็กอายุเพียง 5 ขวบได้รับผลกระทบจากการฉีดน้ำของตำรวจ และเป็นที่น่าสนใจว่า ตำรวจในพื้นที่ให้เวลาผู้ชุมนุมไม่ถึงชั่วโมงในการขอออกจากพื้นที่ อีกทั้งยังไม่มีการเจรจา

ขณะที่การขนส่งสาธารณะและการจราจรรอบๆได้ถูกรัฐบาลปิดกั้นจนไม่มีทางออก แต่รัฐบาลกลับเลือกใช้วิธีที่รุนแรงและเสี่ยงถึงชีวิตต่อผู้ชุมนุม

“จากคู่มือควบคุมฝูงชนตามหลักสากล 5 ข้อ เจ้าหน้าที่ได้ทำผิดหลักการ หนึ่งในนั้นคือต้องคำนึงถึงกลุ่มเปราะบางในการชุมนุมอย่างเด็กและเยาวชน ซึ่งทุกคนในประเทศทราบดีว่าพวกเขาคือคนกลุ่มใหญ่ในการเรียกร้องในครั้งนี้


แม้ว่าตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะยืนยันว่า การใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเป็นไปตามกฎของการควบคุมฝูงชน แต่กลับยังไม่มีการเปิดเผยชื่อสารเคมีที่ผสมอยู่ในน้ำในวันนั้น จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบและเปิดเผยชื่อสารเคมี และเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการของรัฐสภาร่วมกันหาข้อเท็จจริงของกรณีการสลายการชุมนุม”

นพ.เอกภพ ยังได้ยกกรณีศึกษาของรัฐบาลในหลายประเทศที่ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงต่อผู้ชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บรุนแรง หนึ่งในนั้นคือประเทศเยอรมนี ที่มีการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2010 ซึ่งใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจนส่งผลให้ผู้ชุมนุมคนหนึ่งเกือบตาบอดสนิท

ดังนั้น การสลายการชุมนุมในวันที่ 16 ตุลา จึงไม่หลงเหลือความชอบธรรมใด และ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบ

Written By
More from pp
กฟผ. บริจาครถกระบะพร้อมเงินสนับสนุน ให้แก่โรงเรียนปูทะเลย์มหาวิชชาลัย และศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ นายสุทธิชัย จูประเสริฐพร รองผู้ว่าการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำรถกระบะจำนวน 2 คัน พร้อมเงินบริจาคสำหรับค่าจดทะเบียนและตรวจสภาพสำหรับรถ รวมถึงสมุดนักเรียนมอบให้แก่โรงเรียนปูทะเลย์มหาวิชชาลัย และศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จ.ชลบุรี...
Read More
0 replies on “เปิดไทม์ไลน์ 16 ตุลา ‘หมอเอก’ ก้าวไกล ยืนยัน สลายชุมนุมผิดหลักการสากล เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ร้องรัฐสภาตรวจสอบข้อเท็จจริง ผู้เกี่ยวข้องต้องเปิดเผยสารเคมีที่ใช้กับประชาชน”