สำหรับสถานการณ์น้ำใน จ.นครราชสีมา ภาพรวมมีน้ำท่วมใน 10 อำเภอ แต่คลี่คลายแล้ว 2 อำเภอ คือ อ.โนนไทยและ อ.สีคิ้ว เหลือบางพื้นที่ที่ยังประสบปัญหาอยู่ โดยเฉพาะใน อ.ปักธงชัย การช่วยเหลือเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ล่าสุดในขณะนี้ มีการเคลื่อนย้ายที่ตั้ง “กองอำนวยการร่วม ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ไปตามพื้นที่ความเดือดร้อน ณ เทศบาลเมืองปัก อ.ปักธงชัย โดย มณฑลทหารบกที่ 21 ,กองพลพัฒนาที่ 2 ร่วมกับสำนักงานภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ,กองบินที่ 1 อาสากู้ภัย จิตอาสา และหน่วยงานในพื้นที่ โดยส่วนใหญ่ประสบปัญหาน้ำท่วมสูงในเส้นทางสัญจร และพื้นที่ทำการเกษตร
สำหรับกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 2 ได้เริ่มเข้าช่วยเหลือ ตั้งแต่เกิดเหตุฝนตกหนัก เมื่อ 17 ต.ค.63 ส่วนใหญ่ เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกการสัญจร ,ยกสิ่งของขึ้นที่สูง ,ลำเลียงอาหารและน้ำดื่มแจกจ่ายประชาชน และก่อกระสอบทรายตั้งแนวกั้นน้ำตามพื้นที่
ซึ่งการลงพื้นที่ เข้าช่วยเหลือประชาชนเมื่อ 19 ต.ค.63 ทีมประชาสัมพันธ์ ได้ลงพื้นที่ 4จุดได้แก่ การเข้าเยี่ยม ประชาชน ที่ ตลาดเทศบาลเมืองปักธงชัย ,มอบถุงยังชีพแต่ผู้ประสบภัยเทศบาลปักธงชัย ,สนับสนุนศูนย์ช่วยเหลือให้บริการด้านการแพทย์ พร้อมแจกจ่ายถุงยังชีพ ที่ ต.สะแกราช และการนำเรือเข้าแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ที่ บ.หนองจอก ต.ตูม อ.ปักธงชัย เป็นต้น
นอกจากนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้จัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน ลงพื้นที่สร้างการรับรู้และให้ข้อมูลถึงสถานการณ์และการช่วยเหลือเบื้องต้น
ส่วนอำเภอที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมเนื่องจากเป็นเส้นทางของกระแสน้ำ คือ อ.โชคชัย ,อ.พิมาย และ อ.จักราช ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 ส่งกำลังจาก กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 และกองพันทหารข่างที่ 202 จัดตั้งกองอำนวยการร่วมในพื้นที่ ตามนโยบายของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ให้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์ เตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เข้าสกัดกั้นน้ำและช่วยประชาชนเตรียมรับมือ โดยเฉพาะที่ อ.พิมาย ซึ่งมีโบราณสถานสำคัญ
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เน้นย้ำให้หน่วยทหารสนับสนุนทุกภาคส่วนในการให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะในด้านปัจจัย 4 ทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค เพื่อคลายความเดือนร้อนและลดผลกระทบต่อประชาชน ให้น้อยที่สุด