โครงการ “Restart Thailand” กลุ่ม ปตท. เตรียมจ้างแรงงานและนักศึกษาจบใหม่กว่า 25,000 อัตรา ร่วมกระตุ้นระบบเศรษฐกิจไทยและพัฒนาสังคม

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์

สนับสนุนนโยบายภาครัฐ ภายใต้โครงการ “Restart Thailand  เตรียมจ้างแรงงานสำหรับการขยายธุรกิจและโครงการก่อสร้างต่างๆ ในปี 2564 กว่า 22,000 อัตรา พร้อมจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ระดับ ปวช.- ปริญญาตรีกว่า 2,630 อัตรา เป็นระยะเวลา 12 เดือนผ่านโครงการพัฒนาสังคม 3 ด้าน ทั้งส่งเสริมการศึกษาเยาวชน พัฒนาชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและวิจัยดูแลพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ เสริมการดูแลสังคมสู้ภัยโควิด-19 ให้ชุมชนยิ้มได้ ผ่านการสนับสนุนช่องทางการขายสินค้าชุมชนทางสื่อออนไลน์ ซึ่งกลุ่ม ปตท. พร้อมเคียงข้างคนไทยให้เดินหน้าต่อไปด้วยกัน

เมื่อวันที่ กันยายน 2563 – นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. พร้อมเร่งเดินหน้าการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ทุกโครงการตามแผนงาน  เพื่อให้เกิดการจ้างงานในประเทศอย่างต่อเนื่อง  และเตรียมจ้างแรงงานและนักศึกษาจบใหม่รวมกว่า 25,000 อัตรา ระหว่างปี 2563 – 2564 ภายใต้ โครงการ “Restart Thailand  เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างทักษะอาชีพให้กับคนรุ่นใหม่ในทุกภูมิภาค พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่นและระบบเศรษฐกิจไทย สอดคล้องกับนโยบายของ กลุ่ม ปตท. ในการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของคนไทยให้เติบโตไปด้วยกัน  ประกอบด้วย

  • การจ้างแรงงานผ่านเครือข่ายกลุ่ม ปตท. เพื่อการขยายธุรกิจและโครงการก่อสร้างต่างๆ กว่า 22,000 อัตรา  จากปัจจุบันที่มีการจ้างแรงงานผ่านผู้รับเหมาในโครงการก่อสร้างอยู่แล้ว 30,000 อัตรา 
  • ารจัดจ้างนักศึกษาจบใหม่ ระดับ  ปวช. ปวส. อาชีวศึกษา และปริญญาตรี ที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกและ    มีภูมิลำเนาในพื้นที่ปฏิบัติงาน จำนวน 2,630 อัตรา ให้มีรายได้และโอกาสในการฝึกฝนทักษะอาชีพ ภายใต้สัญญาจ้างระยะเวลา 12 เดือน     
  • การเปิดรับพนักงานเพิ่มเติมในตำแหน่งที่ว่างในช่วงปี 2563 – 2564 ประมาณ 1,000 อัตรา เพื่อผลักดันการดำเนินธุรกิจให้เดินหน้าตามเป้าหมาย 

ในส่วนของการจัดจ้างนักศึกษาจบใหม่เข้าทำงานเสริมทักษะอาชีพในปี 2564 นั้น  กลุ่ม ปตท.จะจัดการอบรมเพื่อเสริมทักษะความรู้ให้กับน้องๆ นักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือก ก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติงานตามภูมิลำเนาของตน ผ่านโครงการพัฒนาสังคมชุมชนท้องถิ่นรวม 3 ด้าน

  1. ด้านพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำหรับเยาวชน  ผ่านงานครูผู้ช่วยสอน เพื่อยกระดับการเรียนรู้วิชาสามัญพื้นฐาน ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ รวมถึงวิชาภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีสารสนเทศ
  2. ด้านพัฒนาศักยภาพชุมชนท้องถิ่น โดยฝึกอบรมผู้เข้าร่วมโครงการ ให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานเพื่อการเกษตร (SMART Farming) และฝึกอบรมทักษะการพัฒนายกระดับเศรษฐกิจชุมชน (SMART Marketing) อาทิ สินค้า แหล่งท่องเที่ยวและการบริการ ผ่านการสำรวจและเก็บข้อมูลศักยภาพพื้นที่และความพร้อมของชุมชน
  3. ด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อม เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลในโครงการ Ocean for Life ของบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) อาทิ การสร้างศูนย์เพาะพันธุ์ลูกปู การจัดตั้งศูนย์เพื่ออนุรักษ์และเพาะพันธุ์เต่าทะเล รวมทั้ง โครงการเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ประเทศ ผ่านงานพัฒนาและการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ  โครงการวิจัยป่าไม้และระบบนิเวศ  โครงการพัฒนาสวนป่าครัวเรือน เป็นต้น

นอกจากนั้น โครงการ “Restart Thailand ยังมีโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยให้หน่วยงานภายในองค์กรจัดกิจกรรมสัมมนานอกสถานที่สำหรับพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า เพื่อสนับสนุนให้เกิดการกระจายเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้ง กำลังจัดทำโครงการให้ ปตท. และพนักงาน ร่วมกันกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง โดยจะแจ้งรายละเอียดของโปรแกรมให้ทราบต่อไป

กลุ่ม ปตท. ขอเป็นอีกหนึ่งพลังสนับสนุนการจ้างงาน ในการช่วยสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้กับคนไทย ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสังคม เพื่อให้เราทุกคนสามารถข้ามผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน


Written By
More from pp
รมว.ศึกษาฯ​ ลงนามความร่วมมือระหว่าง สอศ. กับ บริษัท Tang International Education & Technology Co., Ltd. เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาจีน
นายณัฏ​ฐ​พล​ ที​ป​สุวรรณ​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ศึกษาธิการ​ เป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาจีน ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการ​การ​อาชีวศึกษา​ (สอศ.) กับบริษัท Tang International Education &...
Read More
0 replies on “โครงการ “Restart Thailand” กลุ่ม ปตท. เตรียมจ้างแรงงานและนักศึกษาจบใหม่กว่า 25,000 อัตรา ร่วมกระตุ้นระบบเศรษฐกิจไทยและพัฒนาสังคม”