นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อตนได้รับทราบข้อมูลก็ได้มอบหมายทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. นำทีมพนักงานเจ้าหน้าที่ของกองกฎมาย และกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่าคลินิกที่ถูกกล่าวอ้างนั้น ตั้งอยู่ ณ แขวงยานนาวา กรุงเทพฯ เปิดให้บริการรักษาโรคทั่วไป และเสริมความงาม อาทิ เสริมหน้าอก ดูดไขมัน ฯลฯ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 จากเวชระเบียน เอกสารทางการแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น พบว่าคลินิกดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง ผู้ให้บริการในวันเกิดเหตุเป็นแพทย์จริง ยาและเวชภัณฑ์ก็เป็นไปตามมาตรฐาน
แต่ก็ยังพบการกระทำผิดในเรื่องของการมิได้ขออนุมัติโฆษณา และแพทย์ผู้ให้บริการมิได้ยื่นแบบแสดงความจำนงเป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานพยาบาล (ส.พ.6) จากกรม สบส. ซึ่งในส่วนนี้พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย
และในขั้นตอนต่อไปเพื่อให้เกิดความกระจ่างในสาเหตุการเสียชีวิต กรม สบส.จะส่งข้อมูลที่รวบรวมได้เสนอให้แพทยสภาตรวจสอบวิธีการให้บริการของแพทย์ว่าเป็นไปตามที่มาตรฐานวิชาชีพกำหนดหรือไม่
หากผลการพิจารณาพบว่าแพทย์มีการให้บริการที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตก็จะต้องมีการดำเนินการตามจริยธรรมทางการแพทย์ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลในฐานไม่ควบคุม ดูแลให้แพทย์ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพ ต้องระวางโทษทั้งจำและปรับ
ด้านทันตแพทย์อาคม กล่าวต่อว่า แม้ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์จะมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากแต่เมื่อเป็นบริการที่มีความเกี่ยวพันกับร่างกายของมนุษย์แล้วก็มิอาจรับรองว่าผลลัพธ์ที่เกิดจะเป็นดั่งที่หวังทุกราย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจรับบริการทางการแพทย์ทุกชนิด ผู้รับบริการจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน
ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำให้ทุกคนเข้ารับบริการจากสถานพยาบาลและแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากเป็นการศัลยกรรมเสริมหน้าอกจะต้องกระทำในห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน
โดยสามารถตรวจสอบชื่อคลินิกที่มีการขออนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรม สบส. (www.mrd-hss.moph.go.th)
หากไม่พบชื่อไม่ควรเข้ารับบริการโดยเด็ดขาด และขอให้แจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน 1426 กรม สบส. หรือหากอยู่ในต่างจังหวัดก็สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ในวันและเวลาราชการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป