“ชัยธวัช” เลขาฯ ก้าวไกล แจงเหตุไม่ร่วมฝ่ายค้านยื่นแก้ รธน. ม.256 วานนี้ ย้ำการตั้ง สสร. ต้องไม่ติดเบรกล็อกว่าห้ามแก้หมวด 1-2 เพราะนี่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกความฝันสามารถมาพูดคุยตกลงกันได้ 

18 ส.ค. 63 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ต่อกรณีพรรคก้าวไกลไม่ร่วมลงชื่อกับพรรคร่วมฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เพื่อเสนอญัตติด่วนให้สภาพิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไข มาตรา 256 ให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ สสร. ขึ้น โดยระบุว่า พรรคก้าวไกลพยายามไม่พูดเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดภาพความขัดแย้งในพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่เมื่อวานนี้ สุทิน คลังแสง ประธานวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้บอกกับสื่อมวลชนให้มาถามทางพรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงเพื่อให้สังคมได้เข้าใจตรงกัน

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลเห็นว่ารัฐธรรมนูญ 2560 เป็นระเบิดเวลาหรือเป็นวิกฤติ ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสด้วย หมายความว่า ทางออกของวิกฤติสามารถทำได้โดยการแก้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับผ่านการตั้ง สสร. เพื่อไม่ทำให้การเมืองเดินไปสู่ทางตัน

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเห็นต่างกันอยู่ พรรคก้าวไกลจึงไม่ได้ร่วมเข้าชื่อ เพราะขอสงวนความเห็นในประเด็นสำคัญบางประการไว้ แต่ยืนยันว่ายังทำงานร่วมกันต่อกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราอื่น เช่น ข้อเสนอของพรรคก้าวไกลในการปิดสวิตซ์ ส.ว. ผ่านการยกเลิกมาตราที่เกี่ยวข้องกับที่มาก ส.ว. จากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร และอำนาจหน้าที่ในการร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีและกำกับดูแลแนวทางการปฏิรูปประเทศให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ ได้แก่ มาตรา 269 – 272 ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านกำลังพิจารณาร่วมกันอยู่ ยังมีความเป็นไปได้ที่จะยื่นเสนอแก้ไขร่วมกันในประเด็นเหล่านี้

“สำหรับประเด็นแก้ไขมาตรา 256 เพื่อตั้ง สสร. พรรคก้าวไกลเห็นด้วย และญัตตินี้ เมื่อมี ส.ส.เข้าชื่อเกิน 1 ใน 5 หรือ 98 คนแล้ว ก็จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาต่อไป ซึ่งเราก็คงจะไปร่วมอภิปรายด้วย เพียงแต่เราขอสงวนความเห็นบางประเด็นไว้ ”

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า ความเห็นที่พรรคก้าวไกลขอสงวนไว้คือ การเสนอปิดสวิตซ์ ส.ว.ในคราวนี้เลยใช่หรือไม่ เลขาธิการพรรคก้าวไกลยืนยันชัดเจนว่าไม่ใช่ประเด็นนี้ เพราะจะเป็นญัตติที่แยกยื่นต่างหากเนื่องจากการแก้ไขมาตรา 269 – 272 เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ส.ว. ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ จึงไม่ควรผูกเข้าไว้การแก้ไขมาตรา 256 เพื่อตั้ง สสร. ซึ่งต้องมีการทำประชามติ

“ประเด็นที่เราสงวนความเห็นไว้ก็คือ ในร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่ยื่นกันไปเมื่อวานนี้นั้นไปกำหนดไว้ว่า สสร. ห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 1 และ หมวด 2 ซึ่งพรรคก้าวไกลเห็นว่าไม่มีความจำเป็นและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ ประเด็นแรก การไปล็อกไว้ว่า สสร.จะไม่แก้หมวด 1 และ หมวด 2 จะไปผลิตซ้ำความเข้าใจผิดว่ารัฐธรรมนูญ หมวด 1 และ 2 แตะต้องแก้ไขไม่ได้ ทั้งที่ความจริงแล้วมีการแก้ไขมาโดยตลอด ไม่ได้เป็นเรื่องต้องห้ามหรือแปลกประหลาด

หากมีการกังวลว่าจะมีการเซ็นเช็คเปล่าให้ สสร. ไปแก้อะไรที่เลยเถิด เรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะการแก้รัฐธรรมนูญแต่ละครั้งมีข้อจำกัด รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 255 ซึ่งเป็นมาตราแรกของหมวดแก้ไขรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้อยู่แล้วว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบหรือเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ ซึ่งหมายความถึงการเป็นราชอาณาจักรจะกระทำมิได้ มันจึงมีกรอบที่กำหนดขอบเขตในการจัดทำรัฐธรรมนูญอยู่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปสร้างความเข้าใจผิด”

ประการที่ 2 ชัยธวัชกล่าวว่า ข้อเสนอเช่นนี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ หมายความว่า ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาโดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ เขาได้แสดงออกถึงสิ่งที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายไว้ถึงความจริงอันน่ากระอักกระอ่วน พูดตรงๆ ก็คือมีการแสดงออกเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงคิดว่าสิ่งที่สังคมต้องตั้งหลักให้ดีคือ ควรมีวุฒิภาวะในการฟังพวกเขาและอย่าไปใช้ความรุนแรงหรือกดดัน เพราะสิ่งที่พวกเขาเสนอยังอยู่ในกรอบของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

“เรามีความกังวลว่าหากไปล็อก หมวด 1 และ 2 ไว้ จะยิ่งทำให้ไปลดวุฒิภาวะของสังคมในการรับฟัง ส่งผลไปอีกด้านหนึ่งคือการปิดพื้นที่ปลอดภัย ทำให้สังคมรู้สึกว่าสิ่งที่สังคมหรือคนรุ่นใหม่แสดงออกเป็นสิ่งต้องห้าม แทนที่การมี สสร. จะเป็นทางออกร่วมกันที่ทุกฝ่ายเห็นว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัย สามารถเสนอความเห็น ความต้องการของตนเอง และหาข้อยุติร่วมกันอย่างสันติได้ ก็จะทำให้คนจำนวนมากรู้สึกว่า สสร. นี้ไม่ใช่พื้นที่ของพวกเขา”

ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ชัยธวัชย้ำว่าต้องการให้ สสร. เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ทุกฝ่ายมาหาข้อยุติร่วมกันได้จริง เชื่อว่า ใน สสร.จะทำให้ทุกฝ่ายได้เรียนรู้ว่าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถได้ทุกอย่างอย่างที่ตนเองต้องการ แต่จะเป็นพื้นที่ให้สังคมสามารถหาฉันทามติหรือหาจุดสมดุลย์ได้ และสุดท้ายร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ต้องนำไปผ่านประชามติ เสียงส่วนใหญ่ของประเทศจะเป็นผู้ตัดสินว่ายอมรับหรือไม่ ดังนั้น จึงอย่าวิตกกังวลกันมากจนเกินไป


Written By
More from pp
“จุรินทร์” ระบุ “ประชาธิปัตย์” กำลังใจดี เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ เดินหน้า เปิดตัวคนรุ่นใหม่ ทวงคืน ส.ส.ภูเก็ต ยกทีม
16 กันยายน 2564 เวลา 09.40 น. ที่อาคารรัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่มี...
Read More
0 replies on ““ชัยธวัช” เลขาฯ ก้าวไกล แจงเหตุไม่ร่วมฝ่ายค้านยื่นแก้ รธน. ม.256 วานนี้ ย้ำการตั้ง สสร. ต้องไม่ติดเบรกล็อกว่าห้ามแก้หมวด 1-2 เพราะนี่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกความฝันสามารถมาพูดคุยตกลงกันได้ ”