สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติยกระดับการช่วยเหลือฉุกเฉินหลังพบผู้ลี้ภัยเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดกลางกรุงเบรุต

A view of the badly-affected Gemmayze district of Beirut. ; On 4 August 2020, a huge explosion caused by ammonium nitrate stored in a port warehouse ripped through Beirut, killing hundreds and injuring thousands. Many people remain missing and more than 300,000 people have had their homes destroyed, with buildings damaged up to six kilometres from the blast. The devastation in neighbourhoods near the port is overwhelming, with Gemmayze, Mar Mikhael, and Ashrafieh among the worst affected. As well as providing a humanitarian response, UN staff associations across Lebanon organised the UN4Beirut initiative to help local and refugee communities by removing rubble and cleaning debris from streets and houses. Lebanon hosts the highest number of refugees per capita of any country in the world, having absorbed an estimated 1.5 million Syrians, some 800,000 of whom are registered refugees.

บทความนี้สรุปจากสิ่งที่โฆษกประจำ UNHCR นายบาบาร์ บาลอช ได้แถลงต่อสื่อที่สำนักงานใหญ่ UN ที่เมืองเจนีวา

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) มีความเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องแจ้งให้ทราบว่าจากรายงานผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมากกว่า 200 คนในโศกนาฎกรรมเหตุระเบิดกลางกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยรวมอยู่ในจำนวนนั้นด้วยอย่างน้อย 34 คน

เจ้าหน้าที่ภาคสนามของเรายังคงเร่งยืนยันผลการรายงานจากในพื้นที่และเราเกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตท่ามกลางกลุ่มประชากรผู้ลี้ภัยที่อาศัยในกรุงเบรุตซึ่งมีจำนวน 200,000 คนอาจเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้มีผู้ลี้ภัยสูญหาย 7 คน บาดเจ็บจากแรงระเบิด 124 คน โดยที่ 20 คนมีอาการบาดเจ็บสาหัส

เรายังคงทำงานร่วมกับทีมกู้ภัยและองค์กรพันธมิตรด้านมนุษยธรรมเพื่อระบุตัวตนผู้เสียชีวิตและให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ครอบครัวของพวกเขาที่ต้องเสียบุคคลอันเป็นที่รัก อาทิ การให้คำปรึกษา การมอบเงินสนับสนุนฉุกเฉิน และการช่วยจัดงานฌาปนกิจ

เหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกคนในพื้นที่ ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือสถานะใด การเข้ารับมืออย่างทันท่วงทีด้านมนุษยธรรมจึงต้องครอบคลุมทั้งชุมชน รวมถึงชาวเลบานอน ผู้ลี้ภัย และแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเปราะบางในชุมชน และมุ่งเน้นไปที่การหาที่พักพิงและการมอบความคุ้มครอง

UNHCR เป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนร่วมระหว่างหน่วยงานด้านมนุษยธรรม โดยเราได้รวบรวมงบประมาณราว 12 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อดำเนินงานรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน เข้าช่วยบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบอย่างสาหัสและครอบครัวที่มีความเปราะบางในกรุงเบรุต งบประมาณนี้ประกอบด้วย 9.6 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อใช้จัดหาที่พักพิง และ 2.44 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการมอบความคุ้มครอง ที่ครอบคลุมถึงอีก 3 เดือนข้างหน้า

ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานด้านมนุษยธรรมต่างๆ เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับชาวเบรุตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินความเสียหายและหาทางมอบความช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คลังสิ่งของบรรเทาทุกข์ของ UNHCR ภายในประเทศไม่ได้รับผลกระทบจากการระเบิดในครั้งนี้ สิ่งของจำเป็นได้แก่ ชุดที่พักพิง ผ้าห่ม ผ้าพลาสติกเอนกประสงค์ เสื่อนอน อุปกรณ์จัดตั้งเต็นท์ฉุกเฉินขนาดใหญ่ และสิ่งของ​บรรเทาทุกข์​อื่นๆ ซึ่งพร้อมแจกจ่ายร่วมกับสภากาชาดเลบานอนและหน่วยงานพันธมิตร ที่ทำงานในพื้นที่

เรากำลังเข้าประเมินเบื้องต้นตามบ้านแต่ละหลัง โดยเริ่มจากในละแวกที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด และการเข้าช่วยเหลือรายบุคคลเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม จากการคาดการณ์เบื้องต้นพบว่ามีครอบครัวกว่า 10,000 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัสจากแรงระเบิดและต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

งานลำดับแรกของเราคือการระบุความต้องการและมอบการช่วยเหลือแก่บุคคลที่ต้องการ “วัสดุอุปกรณ์ฉุกเฉินที่ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ” สิ่งของเหล่านี้จะช่วยนำไปขึงประตูหน้าต่าง และสามารถปกป้องพวกเขาจากสภาพอากาศต่างๆ เพิ่มสวัสดิภาพและความปลอดภัย พร้อมคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเป็นส่วนตัวให้แก่พวกเขา สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบและต้องพลัดถิ่นออกไปนอกกรุงเบรุต คือ อีกหนึ่งกลุ่มที่เรามุ่งเข้าให้ความช่วยเหลือ

เงินสนับสนุนสำหรับใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ยังคงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการบรรเทาทุกข์และเป็นค่าซ่อมแซมและก่อสร้างได้ทันที นอกจากนั้นเงินก้อนนี้ยังสามารถแบ่งไว้จัดหาอาหารและสิ่งของยังชีพ รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพได้ และในระยะกลาง สามารถทะยอยนำมาใช้ซ่อมแซมส่วนย่อย ฟื้นฟูสภาพ และปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางของบ้านได้

ในขณะเดียวกัน การมอบความคุ้มครองของเราเป็นการสานต่อการมีส่วนร่วมและการขับเคลื่อนภายในชุมชนที่เราได้ทำมาโดยตลอดอยู่แล้ว ได้แก่ การส่งต่อผู้ป่วย การฟื้นฟูจิตใจเบื้องต้น การสื่อสารภายในชุมชน และการสนับสนุนความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันภายในชุมชน ทุกคนต่างเป็นแนวหน้าในการส่งต่อความช่วยเหลือเหล่านี้อยู่แล้ว และเราก็พร้อมจะช่วยให้พวกเขาเดินหน้าต่อไปได้

เราจะขยายการทำงานสู่ภาคประชาสังคมจัดโครงสร้างชุมชนและการริเริ่มใหม่ เพื่อยกระดับการสื่อสาร การระบุหาครอบครัวและบุคคลกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือ การติดต่อขอความช่วยเหลือและการตอบรับ เรื่องสุขภาพจิตและการฟื้นฟูสภาวะจิตใจ และการฟื้นฟูจิตใจเบื้องต้นสำหรับผู้ประสบภาวะวิกฤตและสูญเสีย คือเรื่องสำคัญยิ่งในการรับมือระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากหลายคนต้องทนทุกข์กับความบอบช้ำและการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

กลุ่มชุมชนในความดูแลของ UNHCR พร้อมกลุ่มอาสาสมัครและหน่วยงานพันธมิตรต่างได้รับการอบรมการฟื้นฟูจิตใจเบื้องต้นมาแล้ว และพวกเขาพร้อมช่วยฟื้นฟูสภาวะจิตใจและเชื่อมสัมพันธ์คนในชุมชนเข้าด้วยกัน UNHCR ได้เน้นย้ำกับนานาชาติถึงความต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงจังและทันท่วงทีเพื่อช่วยชาวเบรุตและเลบานอนที่ได้เมตตาให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม

วิกฤตนี้เราต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ร่วมบริจาคเพื่อช่วยชีวิตครอบครัวชาวเลบานอนที่สูญเสียบ้านและกำลังพลัดถิ่น ผู้ลี้ภัย รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ด้วยการมอบความคุ้มครอง ที่พักพิง สิ่งของบรรเทาทุกข์ และการบริการด้านสาธารณสุขได้ที่เว็บไซต์ www.unhcr.or.th/donate/Lebanon หรือ พิมพ์ 99 เพื่อบริจาค 99 บาท ส่งมาที่ เบอร์ 4141099

บริษัทหรือองค์กรที่มีความประสงค์ในการบริจาคเพื่อมอบความช่วยเหลือเร่งด่วนหลังสถานการณ์ระเบิดในเลบานอนกับ UNHCR สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]


Written By
More from pp
โฆษกรัฐบาลยืนยัน คงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ 7% รัฐบาลยังไม่คิดปรับเพิ่ม
วันที่ 1 เม.ย.64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลยังไม่มีแนวคิดในการปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม  พร้อมคงเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP ปีนี้ที่ร้อยละ 4
Read More
0 replies on “สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติยกระดับการช่วยเหลือฉุกเฉินหลังพบผู้ลี้ภัยเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดกลางกรุงเบรุต”