นานปีทีหนจึงจะเขียนถึงร้านขายก๋วยเตี๋ยวสักครั้ง แต่เมื่อได้มาทางร้านลูกชิ้นปลานายโจวแล้ว ก็อดใจไว้ไม่ได้ที่จะต้องเขียนแนะนำเพื่อให้นักชิมหลายๆ ท่านได้ทราบ
ร้านนี้อยู่ที่ถนนประดิพัทธ์ใกล้สี่แยกสะพานควาย เปิดขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาให้นักชิมได้ชิมรสชาติความอร่อยมานานถึง 18 ปี แล้ว 
เริ่มตั้งแต่ คุณนิธาธร เจ้าของร้านที่เรียนจบทางด้านกราฟฟิกดีไซน์ทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องการที่จะส่งอาหารจากเมืองไทยไปขายที่สหรัฐอเมริกา จึงได้ศึกษาหาความรู้เรื่องการทำลูกชิ้นปลาพร้อมกับ คุณนภาดา ภรรยา ที่เรียนจบทางด้านบริหารธุรกิจใช้เวลาศึกษาหาความรู้ตั้งแต่วิธีการเลือกปลา การแล่ การขูดเนื้อปลา เสียเวลาและเงินไปมากมาย
โชคดีที่ได้พบกับต้นตอ คือคนขายเนื้อปลา จึงได้สูตรพิเศษที่ต้องนำเนื้อปลาหางเหลืองมาผสมกับปลาดาบยาว ทำให้ลูกชิ้นไม่มีกลิ่นคาวของปลาและได้ซื้อเครื่องปั้นลูกชิ้นปลาที่มีราคาแพงมากๆ มาไว้ผลิตพอดีกับเกิดเหตุการณ์ 11 ก.ย. 2544 ที่เกิดวินาศกรรมอาคารเวิลด์เทรดที่กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาทำให้โครงการที่จะส่งลูกชิ้นปลาไปขายต้องระงับไป แต่ก็หันกลับมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่ประเทศไทยแทน โดยใช้ชื่อเล่นของคุณนิธาธรที่ใช้ประเทศสหรัฐอเมริกาเรียกกันว่า โจว มาเป็นชื่อร้าน
คุณนภาดา ที่ชื่อเล่นๆ ว่า เพ็ญ ได้เล่าให้ฟังว่า แรกๆ ที่เปิดร้านขายลูกชิ้นปลานั้น ตัวเองอายมากไม่อยากให้ใครรู้ เราเรียนจบปริญญามาแต่มาขายก๋วยเตี๋ยว วันที่เปิดร้านขายวันแรก จัดโปรโมชั่นพิเศษขายเพียงแค่ชามละ 10 บาท ปรากฏว่าลูกค้ามาเข้าคิวต่อแถวรอกินกันอย่างแน่นขนัด ทำให้ได้ผลเกินคาด ตั้งแต่นั้นมาก็มีลูกค้าขาประจำแวะเวียนมาอุดหนุนตลอด
ก่อนที่จะเดินเข้าภายในร้านที่เป็นห้องแอร์จะพบด้านหน้าที่มีตู้ใส่ลูกชิ้น ผักต่างๆ หม้อน้ำซุปอีกด้านจะเป็นรูปของบรรดาลูกค้าที่เคยมานั่งทานที่ร้าน แต่ละคนล้วนแต่เป็นคนดังๆ คุ้นหน้าคุ้นตา จนจาระไนไม่หวาดไหวต้องยืนดูเอง จะได้ทราบว่าใครเป็นใคร
เดินเข้าไปภายในร้านจะพบกรอบรูปใส่คอลัมน์ในหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ ที่เขียนแนะนำเมนูลูกชิ้นอร่อยๆ แต่ที่สะดุดตาผมก็คือ กรอบรูปที่ใส่คอลัมน์ อร่อยล้วนๆ กับอ้วน อรชร อดีตบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ที่ล่วงลับไปแล้ว แขวนเด่นเป็นสง่า แสดงว่าคุณอ้วน อรชร แวะชิมที่ร้านนี้แล้ว
นั่งโต๊ะแล้วไม่ทราบว่าจะสั่งอะไรดี ก็ต้องดูที่ผนังของร้านด้านหนึ่งเป็นอาหารทานเล่นมีทั้งรูปภาพสวยๆ สมกับที่เจ้าของร้านจบทางด้านกราฟฟิกดีไซน์และราคาบอกอย่างชัดเจน เช่น หนังปลาแซลมอนทอด เกี๊ยวทอด ราคาจานละ 20 บาท ลูกชิ้นกุ้งหิมะ ไม้ละ 25 บาท ลูกชิ้นรักบี้ลวก ลูกชิ้นปลาลวก รวมลวก ลูกชิ้นกุ้งทอด ปลาเส้นทอด ปลาเส้นสาหร่าย ฯลฯ ราคาจานละ 50 บาท
ส่วนผนังอีกด้านจะเป็นเมนูหลักที่มีทั้งเล็กต้มยำมะนาว ใหญ่โฟแห้ง วุ้นเส้นต้มยำพริกเผา ราคาชามละ 50 บาท เกาเหลาเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวเส้นปลา ราคาชามละ 60 บาท และอื่นๆ อีกมากมาย แล้วแต่จะเลือกครับ
สำหรับตัวผมนอกจากจะสั่งของทานเล่น ทั้ง ลูกชิ้นปลาลวก รวมลวก ปลาเส้นทอดมาชิม จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของร้านที่ทำจากมะนาวแท้ กระเทียม รากผักชี พริกแดง พริกสด น้ำตาลปีบ อร่อยแล้ว ก็ลองชิมเมนูที่คุณอ้วน อรชร เขียนแนะนำไว้คือ เย็นตาโฟ ไม่ผิดหวังเลยครับ
นอกจากเครื่องเคราต่างๆ ที่ใส่อย่างไม่ยั้งแล้ว มีทั้ง ปลาหมึก เต้าหู้ เกี้ยวกรอบ ลูกชิ้นกุ้งทอด ลูกชิ้นปลาลวก เลือดหมู ฯลฯ น้ำซุปของเย็นตาโฟยังรสชาติจัดจ้านลงตัวพอดีอร่อยมาก ผมขอดน้ำจนไม่เหลือติดก้นชาม โดยไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มเลย
สอบถามคุณเพ็ญที่เป็นผู้หญิงเก่งว่าทำได้อย่างไรจึงอร่อยอย่างนี้ ก็ได้รับคำตอบว่าที่อร่อยเพราะปลาสดมาก และเย็นตาโฟที่นี่จะใช้พริกสดคั่วใส่ในน้ำซอสเย็นตาโฟที่มีซอสพริกและซอสมะเขือเทศผสมกันจึงได้รสชาติอร่อยจนต้องสั่งกินต่ออีกชาม
นอกจากจะขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาภายในร้านและลูกชิ้นเปล่าๆ ให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านไปประกอบอาหารได้ทานเองแล้ว คุณนภาดาที่เริ่มขายแรกๆ อายแต่ปัจจุบันกลายเป็นผู้หญิงที่เก่งมากในเรื่องลูกชิ้นปลา และยังรับออกร้านตามสถานที่ต่างๆ เคยได้รับการว่าจ้างให้ไปเลี้ยงในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เลี้ยงในที่ประชุม ส.ส.ที่รัฐสภา และงานสำคัญต่างๆ อีกมากมาย สนใจแวะชิมและติดต่อได้ รับประกันไม่ผิดหวังครับ
ชื่อร้าน ลูกชิ้นปลานายโจว
เจ้าของ คุณนิธาธร-นภาดา (เพ็ญ) พงษ์สามารถ
สถานที่ ถนนประดิพัทธ์ 19 วิธีเดินทางจากสี่แยกสะพานควายตรงไปตามถนนประดิพัทธ์ประมาณ 1 ป้ายรถเมล์เศษ จะพบร้านอยู่ปากซอยประดิพัทธ์ 19
เปิดบริการตั้งแต่เวลา 8.30-16.00 น. วันจันทร์ไม่มีแผงลอยริมถนนขายถึงเวลา 19.00 น. โทรศัพท์ 08-1827-6236
