2 ส.ค.63 นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาการศึกษา เทคโนโลยี และนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่คนไทยได้ถกเถียงปัญหาสำคัญเช่นนี้ และหวังว่าจะดำเนินการได้สำเร็จ ซึ่งถ้าแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น จะทำให้เกิดความมั่นคงทางการเมือง ฝ่ายบริหารมีความเข้มแข็ง การเลือกตั้งและการเข้าสู่อำนาจของนักการเมืองจะสะท้อนเจตจำนงของประชาชนมากขึ้น ขณะนี้มีความเห็นหลากหลาย จึงขอเสนอแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังนี้
1. ทุกพรรคการเมือง ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านควรผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกัน
2. การแก้ไขมาตรา 256 เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีเงื่อนไขที่ไม่เข้มจนเกินไป และกลับมาใช้เกณฑ์เสียงข้างมากของทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ตามที่หลายฝ่ายเสนอนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
3. ข้อเสนอการแก้ไขให้ตัวแทนประชาชนเข้าไปร่างรัฐธรรมนูญในรูปแบบของ สภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. อาจใช้เวลาสักระยะ
ในชั้นต้นที่ทำได้เลยควรแก้ไขเนื้อหาบางเรื่องที่จะทำให้ระบบการเมืองดีขึ้น เช่น ควรแก้ไขระบบการเลือกตั้งให้เป็นระบบที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชน เพราะคนคุ้นเคย การคำนวณจำนวน ส.ส. หลังการเลือกตั้งไม่ซับซ้อน ทำให้ประกาศผลจำนวน ส.ส. ทั้งประเทศได้เร็วขึ้น
ดังนั้น จึงควรแก้ไขกลับไปใช้การเลือกตั้งระบบสัดส่วนและบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ นอกจากนั้นมีบางฝ่ายเห็นว่าควรแก้ไขบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งคงต้องหารือกับ ส.ว. ด้วยเหตุด้วยผลต่อไป
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องของนักการเมือง แต่เป็นเรื่องของคนไทย เชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายร่วมกันทำงานอย่างสร้างสรรค์ คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม การแก้ไขก็มีทางสำเร็จ กติกาที่เป็นธรรมจะนำสู่ความปรองดอง และไทยจะชนะอย่างแท้จริง”