1 ส.ค.63 เมื่อเวลา 07.00 น. ที่บ้านทรงไทย อ.ศรีประจันต์ จ. สุพรรณบุรี นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา จัดพิธีทำบุญอาหารเลี้ยงพระเช้า แด่พระสงฆ์ 32 รูป เนื่องในโอกาสวันคล้ายเกิดครบรอบ 71 ปี ด้วยสโลแกน “เราไม่เคยลืมกัน” 1 สิงหาคม 2563
โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส. )ในฐานะ ประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมอวยพรแต่เวลา 07.30 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยนายวราวุธ กล่าวว่า “วันเกิดอาประภัตร หลานไม่มาไม่ได้ แต่ที่ต้องรีบมาแต่เช้าเพราะต้องเดินทางไปราชการทางภาคเหนือต่อ อาเป็นหนุ่มขึ้นอีกหนึ่งปี และเป็นเสาหลักให้กับคนสุพรรณ และพรรคชาติไทยพัฒนา เพิ่มอีกหนึ่งปี
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้เห็นแล้วว่าการทำงานของอา และผมในรัฐบาล นั้น เป็นรัฐมนตรีที่เรียกได้ว่าทำงานหนักที่สุดในรัฐบาล และเป็นการทำงานที่เราไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
ทำให้ชาวสุพรรณบุรีได้เห็นว่าทุกคะแนนที่เลือกพวกเราเข้าไปนั้น ไม่ได้เลือกเขาไปเสียเวลาเปล่า ไม่ได้เอาไปนั่งตบยุง ไม่ได้เอาไปนั่งเล่นการเมือง แต่เข้าไปทำงานเพื่อให้พี่น้องชาวสุพรรณบุรีและคนไทยทั้งประเทศ”
“ผ่านการเลือกตั้งมา ผมได้เห็นแล้วว่า การทำงานผสมผสานระหว่างคนรุ่นใหม่ กับ คนรุ่นใหญ่ นั้น มีความสำคัญแค่ไหน เพราะบอกได้เลยว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ถ้าพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่มีแม่ทัพใหญ่ที่ชื่อประภัตร โพธสุธน ก็จะไม่มีรัฐมนตรี ที่ชื่อ วราวุธ ศิลปอาชาในวันนี้
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใดก็แล้วแต่ เวลาที่ผมเจออาตั้งแต่เด็กจนโตขนาดนี้ ตำแหน่งที่สำคัญที่สุด ที่พูดกันไว้ตั้งแต่วันแรก คือตำแหน่งอาของหลาน และ ขุนพลคู่ใจของคนชื่อบรรหาร ศิลปอาชา ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับนายบรรหารมานับ สิบๆ ปี
วันนี้ยังมาเป็นหางเสือสำคัญ เป็นเข็มทิศสำคัญให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา และให้กับผม ซึ่งยามใดที่นั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรีแล้วมองไปเห็นคนชื่อประภัตร โพธสุธนนั้น ทำให้ผมมีกำลังใจมีความอุ่นใจว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองสุพรรณ ผู้ใหญ่ของพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นกุนซือใหญ่คอยให้คำแนะนำ ให้คำสอนอีกมากมาย
ดังนั้นพวกเราทุกคนจึงต้องมาให้กำลังใจ ขอให้อาแข็งแรงตีปีบดังไปเรื่อยๆ ทุกปีๆ”
“สิ่งใดก็แล้วแต่ที่จะทำให้อามีกำลังวังชา มีเรี่ยวแรง ทำงานต่อไปให้กับคนสุพรรณได้ ต้องขอให้ทุกคนร่วมกันเป็นกำลังใจและส่งแรงใจให้กับอา ผมเองก็ไม่รู้จะมอบอะไรให้กับอาผู้ที่มีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
จึงขอมอบตัวและหัวใจให้กับอา และปวารณาตัวเสมอว่าตราบใดที่มีคนชื่อ ประภัตร โพธสุธน คู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา ตราบนั้น ครอบครัวศิลปอาชา ก็จะยืนเคียงข้างกับคนสุพรรณบุรีตลอดไป
ขอให้อามีสุขภาพกาย สุขภาพใจแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นหางเสือ เป็นเข็มทิศ ให้กับชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ให้กับพรรคชาติไทยพัฒนาต่อไป”