17 ก.ค. 63 เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน และมาตรการในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
โฆษก ศบค. กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่นักการทูต สัญชาติเอสโตเนีย ที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพักคอนโดมิเนียม เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานแจ้งให้สถานเอกอัครราชทูตทราบถึงแนวทางการปฏิบัติในการเดินทางเข้าประเทศไทย ต้องเข้าพักใน Alternative State Quarantine (ASQ) โดยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ยืนยันว่านักการทูตดังกล่าวได้มีการตรวจเชื้อเรียบร้อยไม่พบการติดเชื้อ
กรณีจังหวัดระยองนั้น ขณะนี้ได้กำหนดวงแคบเฉพาะโรงแรม ดีวารี ดีว่า เซ็นทรัลระยอง และเกี่ยวข้องเฉพาะในชั้น 7 และชั้น 8 เท่านั้น รวมทั้งไปเกี่ยวข้องเพียงแค่ 12 คน ผลตรวจหาเชื้อออกมาเป็นลบทั้งหมด และให้อยู่ในสถานที่กักตัว 14 วัน ที่เหลือเป็นการตรวจโดยสมัครใจซึ่งยังไม่พบเชื้อแต่อย่างใด บางส่วนรอผลตรวจอยู่ รวมทั้งสิ้นตรวจแล้ว 4,206 ตัวอย่าง
ส่วนการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยเด็กหญิงจากประเทศซูดาน มีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 7 คน ขณะนี้อยู่ในสถานที่กักตัวคือที่บ้านพัก 14 วัน ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ 28 คน และผู้สัมผัสอื่น ๆ ที่เป็นลูกบ้านยังไม่พบเชื้อแต่อย่างใด และมีการเก็บตัวอย่างเพิ่มในวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 จำนวน 97 คน อยู่ระหว่างรอผล
ผลการประชุม ศบค.ชุดเล็ก/เฉพาะกิจ มีมติให้เสนอกิจกรรมฟื้นฟูโดยจัดกิจกรรมรณรงค์ร่วมใจฝ่าโควิด จ. ระยอง 5 กิจกรรม ได้แก่ 1) ขอความร่วมมือภาครัฐจัดประชุม สัมมนาในจังหวัดระยอง 2) ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เอกชน เช่น การจัดบุคลากรทางด้านสาธารณสุข (อสม.) ไปเที่ยว 3) การจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลจากทีมในไทยลีก ในรูปแบบใหม่ มีผู้ชมแบบ New Norma โดยมอบกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปพิจารณาดำเนินการ 4) การจัดงานแสดงคอนเสิร์ต ในรูปแบบใหม่ และ 5) การจัดกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ในพื้นที่ (Villa Quarantine) โดยมีการกำหนดพื้นที่ถ่ายทำชัดเจนและให้เข้า State Quarantine ในพื้นที่ดังกล่าว 14 วัน ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยพื้นที่แรกที่กำหนดไว้คือจังหวัดระยอง
ที่ประชุมยังมีมติอนุญาตให้นักการทูตที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยจากเดิมให้พำนักอยู่ในสถานที่สถานทูตเป็นให้นักการทูตทุกคนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยต้องเข้า State Quarantine 14 วัน การอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาจัดการแสดงสินค้าภายในราชอาณาจักร การอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในราชอาณาจักร การอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร การอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มี Elite Card สามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้จากเดิมไม่ให้เข้ามา มาตรการหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติผ่อนผันให้นักเรียนรหัส G เข้ามาในราชอาณาจักร รวมถึงการนำแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (เมียนมา ลาว กัมพูชา) เข้ามาในราชอาณาจักร
โอกาสนี้ โฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ในประเทศไทย
มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,239 ราย เป็นผู้ที่อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 302 ราย มีผู้หายป่วยเพิ่มขึ้น 1 ราย รวมผู้ที่หายป่วยแล้ว 3,096 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 85 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ยังคงเดิมที่ 58 ราย โดยผู้ป่วยติดเชื้อ 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศซูดาน
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ของโลก
พบผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 13,946,637 ราย จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 255,010 ราย รวมจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 592,677 ราย สหรัฐอเมริกายังคงมีผู้ป่วยยืนยันสะสมเป็นอันดับที่ 1 ของโลก รองลงมาคือบราซิลและอินเดียตามลำดับ ซึ่งปัจจุบัน ไทยอยู่อันดับที่ 101 ของโลก
โฆษก ศบค. รายงานแผนการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศวันนี้ มีคนไทยเดินทางกลับมาจากอียิปต์ 270 คน สิงคโปร์ 56 คน เมียนมา 5 คน และเกาหลีใต้ 200 คน วันพรุ่งนี้จะมีผู้เดินทางกลับจากออสเตรีย 172 คน เอธิโอเปีย 50 คน เนเธอร์แลนด์ 155 คน และสหรัฐอเมริกา 225 คน ใน วันที่ 19 กรกฎาคม จะมี 3 เที่ยวบิน ได้แก่ นิวซีแลนด์ บาห์เรน และออสเตรเลีย วันที่ 20 กรกฎาคม มี 5 เที่ยวบิน ได้แก่ เดนมาร์ก สหราชอาณาจักร รัสเซีย อินโดนีเซีย
และสหรัฐอเมริกา วันที่ 21 กรกฎาคม มี 4 เที่ยวบินได้แก่ ไต้หวัน 2 เที่ยวบิน จีน และโตรอนโต วันที่ 22 กรกฎาคม มี 3 เที่ยวบิน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และไต้หวัน วันที่ 23 กรกฎาคม มี 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน และ วันที่ 24 กรกฎาคม มี 4 เที่ยวบิน ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อียิปต์ และแคนาดา สำหรับรายงานผู้เดินทางกลับเข้าประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบกเดินทางจากมาเลเซีย 106 คน สปป.ลาว 23 คน และกัมพูชา 12 คน รวม 141 คน
สำหรับยอดสะสมการใช้งาน www.ไทยชนะ.com ตั้งแต่เริ่มโครงการ มีผู้ใช้งาน 36,827,778 คน ร้านค้าลงทะเบียน 273,635 ร้าน สัดส่วนการเช็คอิน/เช็คเอาท์ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะอยู่ที่ร้อยละ 96.4 ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะร้อยละ 3.6 วานนี้ ได้ทำการตรวจกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายด้านการดำเนินชีวิต ทั้งหมด 3,678 แห่ง พบกิจการ/กิจกรรมที่ปฏิบัติตามมาตรการไม่ครบ 28 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 0.76 และไม่มี “ไทยชนะ” 68 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 0.73
จากนั้น นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่าอาจมีการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยของนักการทูตเป็นระยะ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม นักการทูตได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต แต่จะต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และมาตรการของ ศบค.
ทั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณาการผ่อนคลายบังใช้มาตรการจะมีการหารือกันเพื่อทบทวนมาตรการเพื่อให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะเชิญคณะอุปทูต หรือตัวแทนอุปทูต จากทุกประเทศร่วมรับฟัง แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักการทูตที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจ และแก่พี่น้องประชาชนชาวไทย
