กะทิ “อัมพวา” ร่วมอนุรักษ์ประเพณีถือศีลกินเจ โชว์เมนูเด็ดจากแม่ครัวมือหนึ่ง โชว์เมนูเด็ดจากแม่ครัวมือหนึ่ง “โรงเจเชงเฮียงตั๊ว” ท่าฉลอม

กระแสเรื่องสุขภาพยังคงเป็นเมกะเทรนด์ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่คนยุคนี้เริ่มหันมาดูแลสุขภาพด้วยการเลือกสรรอาหารที่บริโภคกันมากขึ้น ส่งผลต่อความคึกคักของเทศกาลกินเจในแต่ละปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  “อาหารเจ”   และในช่วงเทศกาลกินเจปี 2562 เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2562 – 7 ตุลาคม 2562 จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการเสกสุขภาพดีด้วยการละเว้นจากการบริโภคเนื้อสัตว์ หันมาบริโภคอาหารเจที่ส่วนใหญ่จะเน้นพืชผัก ผสมผสานกับอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีนจากถั่วที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์และไขมันจากพืช ซึ่งจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารได้หยุดพักจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งปี

ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกๆ ปี สำหรับ บริษัท เอเซียติค อุตสาหกรรมเกษตร จำกัด ผู้ผลิต แปรรูป และส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวรายใหญ่ของประเทศไทย ที่ในปีนี้ได้คิกออฟกิจกรรม “กินเจ อิ่มบุญ อิ่มใจ สุขภาพดีไปกับกะทิอัมพวา” พร้อมเดินสายมอบผลิตภัณฑ์ อัมพวา” (Ampawa) กะทิแท้ 100% คุณภาพระดับพรีเมียม ในขวดและกล่อง และเป็นตัวจริงเรื่องกะทิขวดรายแรกของประเทศไทยที่คัดสรรกะทิที่ดีที่สุดให้กับศาลเจ้าและโรงเจทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ ได้รังสรรค์เมนูอาหารเจทั้งคาวและหวานเพื่อให้บริการสำหรับผู้ถือศีลกินเจ

ณัฐพล วิสุทธิไกรสีห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซียติค อุตสาหกรรมเกษตร จำกัด กล่าวว่า เทศกาลกินเจถือเป็นช่วงละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ ไม่เบียดเบียนสัตว์และทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ดังนั้นทุกๆ ปีบริษัทฯ จึงถือโอกาสนี้มอบกะทิแท้ 100% “อัมพวา” (Ampawa) ที่คัดสรรตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงกระบวนการผลิตด้วยมะพร้าวคุณภาพชั้นดี ขาว ข้น หอม มัน เหมือนกะทิคั้นสด นำมาคั้นทันทีตั้งแต่กะเทาะเปลือก ผ่านนวัตกรรมและกระบวนการผลิตโดยมีต้นแบบจากกะทิสดธรรมชาติอย่างแท้จริง ปราศจากการปรุงแต่ง อีกทั้งยังมีความสะดวกสามารถนำไปปรุงอาหารคาวและอาหารหวานให้กับโรงเจต่างๆ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และสืบสานเทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นความศรัทธาที่สืบทอดผ่านวัฒนธรรมการกินมาหลายยุคหลายสมัย

หนึ่งในโรงเจที่เอเซียติคฯ เดินสายไปมอบกะทิ “อัมพวา” สำหรับเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารในช่วงเทศกาลกินเจก็คือ โรงเจเชงเฮียงตั๊ว พิกัดท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร เป็นโรงเจเก่าแก่ระดับตำนาน แม้ว่าจะไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในปีใด แต่อายุอานามไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ปี  สันนิษฐานว่าชุมชนชาวจีนในอดีตที่อพยพเข้ามาลงหลักปักฐานที่สมุทรสาครได้ร่วมใจกันสร้างศาลเจ้าจีนขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางของความศรัทธาในชุมชน ซึ่งเดิมเป็นเพียงเพิงหลังคามุงจากเล็ก ต่อมาได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมจนกลายเป็นโรงเจที่มีพื้นที่กว้างขวาง ด้านหลังมีศาลเจ้าสร้างด้วยปูนที่มีความโดดเด่นและสวยงาม ซึ่งในช่วงเทศกาลกินเจจะมีผู้คนจำนวนมากมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมีโรงทานอาหารเจไว้ให้บริการอีกด้วย

แม่ครัวมือหนึ่งประจำโรงเจเชียงเฮียงตั๊ว “เจ๊เอ็ง  สมศรี ศากรวิมล” วัย 74 ปี เดิมประกอบธุรกิจแปรรูปอาหารทะเลส่งออก จนกระทั่งอายุ 50 ปี ได้ส่งต่อธุรกิจให้ลูกๆ สานต่อ และหันมาทำหน้าที่แม่บ้านดูแลลูกๆ หลานๆ พร้อมกับหน้าที่พิเศษในการเป็นแม่ครัวของโรงเจเชงเฮียงตั๊ว ด้วยความชอบ บวกกับพรสวรรค์ และความตั้งใจจริงในการทำอาหารให้ผู้คนที่มีจิตศรัทธาร่วมถือศีลในช่วงเทศกาลกินเจมายาวนานกว่า 20 ปี ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ “เจ๊เอ็ง”มีความสุข เมื่อเห็นผู้คนชื่นชอบรสชาติอาหารที่ตนทำ ยิ่งทำให้มีพลังในการลงมือทำสิ่งดีๆ เพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่าอิ่มครบ ทั้งกายใจ และยังเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย

ในช่วงเทศกาลกินเจปี 2562 นี้  “เจ๊เอ็ง” เตรียมอุ่นเครื่องโชว์ฝีมือการทำอาหาร โดยใช้กะทิแท้ 100% “อัมพวา” เป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหารเจทั้งเมนูคาวและหวาน พร้อมสูตรเด็ดเคล็ดลับให้อร่อยได้ง่ายๆ เริ่มจากเมนูอาหารคาวอย่าง “ต้มข่าเห็ดเจ” ซึ่งมีวัตถุดิบและส่วนประกอบหลักๆ ก็คือ กะทิ ”อัมพวา” ดอกเกลือ (ดอกเกลือจะมีความบริสุทธิ์กว่าเกลือธรรมดา รสชาติไม่เค็มมาก มีรสอมหวานนิดๆ มีคุณค่าทางสารอาหารและแร่ธาตุสูงกว่าเกลือธรรมดา)  ซีอิ๊วขาวสูตรเจ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก เห็ด 3 อย่างเลือกตามชอบ  ข่า พริกสด และเต้าหู้ทอด วิธีทำเริ่มจาก เทกะทิใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ ต้มให้เดือด ใส่น้ำตาลปึกนิดหน่อย ใส่ข่าหั่นเเว่น ตามด้วยน้ำเปล่าเพื่อไม่ให้กะทิข้นจนเกินไป จากนั้นใส่น้ำมะขามเปียก ปรุงรสด้วยดอกเกลือ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ชิมรสตามชอบ คนให้เข้ากัน แล้วเติมเห็ด 3 อย่างที่เตรียมไว้ เมื่อเห็ดเริ่มสุก โรยหน้าด้วยพริกสดทุบพอแตก คนให้เข้ากัน ปิดเตา ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟได้เลย

ต่อด้วย “แกงเทโพเจ” วัตถุดิบประกอบด้วย กะทิ “อัมพวา” พริกแกง น้ำมะขามเปียก ซีอิ๊วขาวสูตรเจ  น้ำตาลปี๊บ ดอกเกลือ ใบมะกรูด ผักบุ้ง หมี่กึงหรือลูกชิ้นเจ และเต้าหู้ทอด ขั้นตอนการทำเริ่มจาก ตั้งภาชนะใช้ไฟกลาง ใส่กะทิลงไปต้มให้เดือด นำพริกแกงลงไปผัดจนหอมแล้วใส่เต้าหู้ทอด และหมี่กึงลงไปผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวสูตรเจ ดอกเกลือ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก ใส่ผักบุ้งหั่นพอดีคำที่ลวกในน้ำเดือดเพื่อให้ผักบุ้งสดและไม่ดำ ตามด้วยใบมะกรูด ชิมรสชาติและปรุงรสตามต้องการ ปล่อยให้เดือดสักครู่ ปิดเตา เป็นอันเสร็จสรรพพร้อมรับประทาน

อีกหนึ่งเมนูอาหารคาวที่เจ๊เอ็งโชว์ฝีมือก็คือ “ขนมจีนน้ำยาเจ” ส่วนประกอบหลัก ได้แก่ กะทิ “อัมพวา” เห็ดออรินจิ กระชาย ดอกเกลือ ซีอิ๊วขาวสูตรเจ  พริกแกงเจ น้ำตาลปี๊บ วิธีทำเริ่มจาก นำเห็ดออรินจิ มาปั่นรวมกับกระชาย และพริกแกงเจให้ละเอียดพอประมาณ  ใส่ส่วนผสมที่ปั่นเรียบร้อยแล้วลงไปในภาชนะเติมกะทิลงไปเล็กน้อย เปิดไฟอ่อนทิ้งไว้ ผัดให้เข้ากัน เติมกะทิลงไป (ถ้าข้นไปก็ใส่น้ำลงไปได้เล็กน้อย) ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ดอกเกลือ ซีอิ๊วขาวสูตรเจ คนทุกอย่างให้เข้ากัน ปล่อยให้เดือดสักครู่ ปิดเตา ตักใส่ภาชนะพร้อมเสิร์ฟพร้อมขนมจีน และผักเครื่องเคียง สำหรับเคล็ดลับของเมนูนี้คือ เห็ดออรินจิที่นำไปปั่นรวมกับกะทิและเครื่องแกง จะให้รสสัมผัสเหมือนเนื้อปลาและกุ้งเลยทีเดียว

ปิดท้ายกันที่เมนูของหวาน “ทับทิมกรอบ” กะทิอบควันเทียน “อัมพวา” แห้ว น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยสีแดง แป้งมัน  น้ำตาลทราย วิธีทำเริ่มจาก นำแห้วที่เตรียมไว้ล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ ใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปเคี่ยวในน้ำหวานผสมเฮลซ์บลูบอยสีแดงจนแห้วสุกสีสวย  จากนั้นจึงนำแห้วมาคลุกกับแป้งมันให้ทั่วแต่อย่าให้หนามาก นำตะแกรงมาร่อนแป้งส่วนเกินออกจากทับทิม นำภาชนะตั้งไฟ ต้มน้ำเปล่าผสมน้ำเฮลซ์บลูบอยที่เตรียมไว้ให้เดือด นำทับทิมที่ได้ไปต้มจนลอยขึ้นมา ตักใส่ชาม ราดด้วยกะทิอบควันเทียน “อัมพวา” พร้อมใส่น้ำแข็งเสิร์ฟทันที สูตรนี้แนะนำว่าไม่ต้องใส่น้ำเชื่อมใดๆ แล้ว เพราะแห้วจะมีความหวานอยู่แล้ว เมื่อผสมกับกะทิอบควันเทียน ก็จะมีความกลมกล่อมพอดี  

“การทำอาหารให้อร่อยนั้น หัวใจสำคัญคือต้องเริ่มจากการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สด ใหม่ และสะอาด อย่างเช่น เครื่องแกงจะใช้พริกสด ผสมและปั่นเองใหม่สดวันต่อวัน ความเค็มจะมาจากดอกเกลือที่สะอาดและไม่เค็มจนเกินไป ทำให้อาหารทุกเมนูไม่มีกลิ่นของถั่วเหลืองที่มาจากซีอิ้วเจมากจนเกินไป  จากนั้นก็เป็นเรื่องของเคล็ดลับและฝีมือของคนทำ อย่างเช่น การผัดพริกแกงและส่วนผสมให้หอมก่อนเติมน้ำกะทินั้น เราจะไม่ใช่น้ำมันในการผัด แต่จะใช้กะทิผัดแทนน้ำมัน เพราะกะทิเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะกะทิที่ให้รสชาติความหอม มัน และมีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งกะทิแท้ 100% อัมพวา สามารถใช้แทนกะทิคั้นสดได้อย่างมีคุณภาพ รสชาติกลมกล่อม หอมกะทิอ่อนๆ  ถือเป็นตัวช่วยเรื่องความสะดวกในการทำอาหารได้ดีจริงๆ  และช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ก็ขอเชิญชวนทุกๆ คนร่วมกันถือศีลกินเจ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมรับประทานอาหารเจที่โรงเจเชงเฮียงตั๊วกันนะคะ เจ๊เอ็ง กล่าวเชิญชวน

กะทิ “อัมพวา” ตัวจริงเรื่องกะทิคุณภาพ หอมอร่อยได้รสชาติกะทิแท้ 100% เพราะคั้นทันทีตั้งแต่กะเทาะเปลือก ทำอาหารได้ทั้งเมนูคาวและหวาน พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ชาวไทยได้อิ่มบุญ อิ่มใจ พร้อมสุขภาพดีถ้วนหน้าตลอดเทศกาลกินเจปีนี้

Written By
More from pp
ครบ 1 เดือน ไม่มีติดเชื้อในประเทศ โฆษก ศบค.แถลงสถานการณ์โควิด19 ประเทศไทย 24 มิ.ย.63 ติดเชื้อใหม่ 1 ราย อยู่ใน State Quarantine
24 มิ.ย. 63 เวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19...
Read More
0 replies on “กะทิ “อัมพวา” ร่วมอนุรักษ์ประเพณีถือศีลกินเจ โชว์เมนูเด็ดจากแม่ครัวมือหนึ่ง โชว์เมนูเด็ดจากแม่ครัวมือหนึ่ง “โรงเจเชงเฮียงตั๊ว” ท่าฉลอม”