23 พ.ค.63 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ติดตามการดําเนินโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสําปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรวงเงิน 67,754 ล้านบาทดูแลและมีเกษตรกรที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการกว่า 7.3 ล้านครัวเรือน โดยปัจจุบันจ่ายเงินชดเชยพืชทั้ง 5 ชนิดไปแล้ว 51,687 ล้านบาทต่อจำนวนเกษตรกร 3.1 ล้านครัวเรือน ซึ่ง ตัวแทนเกษตรกรมีความพึ่งพอใจและเรียกร้องให้รัฐบาลประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรทั้ง 5 ชนิด ต่อไป
สําหรับผู้ประกอบการได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยเสริมสภาพคล่องและผลักดันการส่งออกเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
วันนี้นายจุรินทร์และนายวีรศักดิ์ ยังทำหน้าที่ มอบเครื่องสับมันสําปะหลังจํานวน 55 เครื่อง ให้กลุ่มเกษตรกร 24 กลุ่ม ซึ่งมีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 3,800 ราย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแปรรูปมันสําปะหลังให้แก่เกษตรกรในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิตของตนเองอีกด้วย
กำหนดการวันนี้ ทั้งสองรัฐมนตรีจากกระทรวงพาณิชย์ ยังใช้วันหยุดตรวจเยี่ยม โครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ณ ห้าง BIG C และห้างวิชโก้ โฮลเซล ในพื้นที่อําเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพบว่าห้างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและ ประชาชนมีความพึ่งพอใจกับโครงการดังกล่าวเนื่องจากช่วยลดภาระค่าครองชีพในสถานการณ์ปัจจุบัน
โดยโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน LOT 1 ที่ได้เริ่มดําเนินการตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2563 จนถึงปัจจุบัน เป็น LOT ที่ 3 โดยมีผู้ประกอบการทั้งผู้ผลิต ผู้แทนจําหน่าย ห้างค้าปลีกค้าส่งทั้งสิน 221 ราย และมีสินค้าที่เข้า ร่วมโครงการแบ่งเป็น 6 กลุ่ม จํานวน 4,845 รายการ ซึ่งโครงการนี้จะลดราคาไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ ล่าสุดได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นจากการสำรวจของซุปเปอร์โพล ตัวประชนถูกใจนโยบายลดราคาสินค้าช่วยประชาชนในภาวะวิกฤตอย่างมาก
สำหรับ ในจังหวัดนครราชสีมา นอกจากห้างโมเดิลเทรดระดับประเทศทุกรายที่เข้าร่วมโครงการแล้วยังมีห้างท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการฯ อีก 5 ราย คือ สยามวิชโก้ , วงศ์มังกร ซุปเปอร์สโตร์ , ฮกกี่ ซุปเปอร์มาร์ท , คลัง พลาซ่า และทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ซึ่งคาดว่าโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน จะสามารถลดค่าครองชีพ ให้กับประชาชนมากกว่า 1,000 ล้านบาท