คปภ. ลงพื้นที่ดูแลทายาทผู้ประสบภัยอุบัติเหตุรถตกคลองดับ 4 ศพ ที่จังหวัดพิจิตร

คปภ. ลงพื้นที่ดูแลทายาทผู้ประสบภัยอุบัติเหตุรถตกคลองดับ 4 ศพ ที่จังหวัดพิจิตร ประสานบริษัทประกันจ่ายสินไหมทดแทนแล้วเมื่อ 4 กันยายน 2562 ที่ภูมิลำเนาจังหวัดพะเยา

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเก๋งเลขทะเบียน 7 กย – 8131 กรุงเทพมหานคร เกิดอุบัติเหตุเสียหลักลงคลองน้ำข้างถนนทางหลวงหมายเลข 117 ช่วง กม.ที่ 59 หมู่ 4 ตำบลบึงนาราง อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คือ ส.อ.ธราวุฒิ ปกป้อง , นางสาวกรรณิกา เตจา , ด.ช.ปกรณ์ ปกป้อง และ ด.ช.ภคพล ปกป้อง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562

โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 2 (นครสวรรค์), สำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่), สำนักงาน คปภ. จังหวัดพิจิตร และสำนักงาน คปภ. จังหวัดพะเยา รายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และให้ประสานความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมทั้งติดตามและตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน พ่อ แม่ ลูก ได้มีการทำประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุประเภทกลุ่มไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ทั้งนี้ ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดพิจิตร ว่า รถเก๋งหมายเลขทะเบียน 7 กย – 8131 กรุงเทพมหานคร ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ CMT/00322310 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 เมษายน 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 เมษายน 2563 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจไว้กับบริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ VMT/00322310 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 เมษายน 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 เมษายน 2563 โดยให้ความคุ้มครองชีวิต ร่างกาย อนามัย บุคคลภายนอก 2,000,000 บาทต่อคน/10,000,000 บาทต่อครั้ง กรณีความคุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอก 5,000,000 บาทต่อครั้ง กรณีเสียหายต่อรถยนต์ 460,000 บาทต่อครั้ง ประกันอุบัติเหตุกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร 100,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล 100,000 บาทต่อคน โดยคุ้มครองผู้ขับขี่ 1 คน ผู้โดยสาร 5 คน และคุ้มครองประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาทต่อครั้ง

จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ผู้เสียชีวิตที่โดยสารมากับรถเก๋งจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 400,000 บาท จากกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 300,000 บาท สัญญาเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ (PA) จำนวน 100,000 บาท สำหรับความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกจากกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจนั้นไม่คุ้มครองผู้โดยสารที่เป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน ส่วนผู้ขับรถที่เสียชีวิตในเบื้องต้นจะได้รับค่าสินไหมทดแทนจำนวน 135,000 บาท จากกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 35,000 บาท และจากสัญญาเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ (PA) จำนวน 100,000 บาท

สำหรับ การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต 4 ราย นั้น จากการติดตามอย่างใกล้ชิดทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดพะเยา และทางครอบครัวจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดพะเยา ดังนั้นสำนักงาน คปภ.จังหวัดพิจิตร จึงประสานไปยัง สำนักงาน คปภ. จังหวัดพะเยา ให้อำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับญาติผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวแล้ว โดยได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเกี่ยวกับการออกเอกสารต่างๆ ของผู้เสียชีวิต เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยประสานกับบริษัทประกันภัย รวมทั้งเร่งรัดเรื่องการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้มีความรวดเร็วและเป็นธรรม ซึ่งผู้แทนจากบริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) นำเงินค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย พ.ร.บ. และ ประกันภัยภาคสมัครใจ ป.1 รวมทั้งสิ้น 1,335,000 บาท มอบให้กับทายาทผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 ณ วัดทุ่งต้นศรี ตำบลห้วยลาน อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา โดยมี นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานสักขีพยาน และนายพัฒนศักดิ์ มงคลปัญญา ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงาน คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ. จังหวัดพะเยา ร่วมเป็นสักขีพยานในการจ่ายสินไหมทดแทนดังกล่าว

นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบพบว่า ส.อ.ธราวุธ ปกป้อง ได้จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองวงเงินสินเชื่อกับบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตามกรมธรรม์เลขที่ BA 0015/59 หนังสือรับรอง/สมาชิกเลขที่ 02131599 เริ่มสัญญาประกันภัย 28 พฤษภาคม 2561 วงเงินคุ้มครองประกันชีวิตที่ลดลงในเดือนที่เสียชีวิต โดยได้มีการพิจารณาสินไหมทดแทน ณ วันที่ 4 กันยายน 2562 ทุนประกันชีวิตจำนวน 640,326.45 บาท ทุนประกันอุบัติเหตุ 551,475.00 บาท เงินค่าเวนคืน 2,544.99 บาท รวมทั้งสิ้น 1,194,346.44 บาท ซึ่งเป็นกรมธรรม์กลุ่มคุ้มครองสินเชื่อ บริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ให้แก่บริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะ ผู้รับประโยชน์หลัก เท่ากับมูลหนี้ที่ค้างชำระจำนวน 549,532.59 บาท และ จ่ายให้แก่นางอิสรีย์ สีดาคำ ทายาทของ นายธราวุฒิ ปกป้อง โดยเร็วต่อไป

“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย จากอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และ เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกถนนลื่น จึงขอฝากเตือนประชาชนควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ , ประกันชีวิต และประกันภัยอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

Written By
More from pp
ลดวาระการเมือง เดินหน้า วาระประชาชน เร่งจัดตั้ง “รัฐบาลประชาธิปไตย” แก้วิกฤตประเทศ
ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันความสำคัญของการเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย เป็นวาระประชาชนและวาระประเทศไทย ที่จะต้องให้ความสำคัญและต้องดำเนินการทำให้แล้วสำเร็จโดยเร็ว เพราะขณะนี้วิกฤตและปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ไม่สามารถปล่อยให้ยืดเยื้อไปโดยไม่มีรัฐบาลมาแก้ไขได้
Read More
0 replies on “คปภ. ลงพื้นที่ดูแลทายาทผู้ประสบภัยอุบัติเหตุรถตกคลองดับ 4 ศพ ที่จังหวัดพิจิตร”