ผักกาดหอม
เป็นไงครับ…
มีเทาไม่มีเรา
ศาลพิพากษาจำคุก ๒ ปี อดีต สส.ลักแกง ใช้ สด.๔๓ ปลอม
บัดซบ!
ทำหน้าที่ชายไทยยังปลอม
แล้วจะไปทำอะไรได้ครับ
ถึงว่า…เข็นกันหนักเหลือเกิน นโยบายเลิกเกณฑ์ทหาร
นี่ถ้าสำเร็จก็รอดตัว
ไหนบอกว่าคนเท่ากัน นึกถึงทหารที่อยู่ชายแดนบ้างหรือเปล่า เคยคิดเสียสละเพื่อชาติกันบ้างมั้ย
ที่อัปยศอย่างหนักคือ บรรดาคนเก่งทั้งหลาย ที่วิจารณ์คนอื่น ๗ วัน ๗ คืน แบบไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน บัดนี้หายหัวไปไหนกันหมด
คิดจะขอโทษประชาชนเหมือนที่ชำเรารัฐธรรมนูญไม่สำเร็จกันบ้างหรือเปล่า
หรือจะบอกว่าเรื่องส่วนตัว
การที่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งบอกกับประชาชนว่า พรรคเต็มไปด้วยคนดีมีคุณภาพ ไม่มีคนชั่ว ไม่มีมนุษย์สีเทา แสดงว่าต้องมั่นใจจริงๆ เพราะตรวจสอบหมดแล้ว ไม่เทา
มันก็เหมือนสมัย สส.บ้ากามนั่นแหละครับ ลืมปากไว้ที่บ้านกันหมด
ทั้งที่จริงพรรคส้มมีพวกนักผลิตวาทกรรมสิงสถิตอยู่เยอะนะครับ
เรื่องคนอื่นใช้คำพูดบาดคอตายไปหลายศพแล้ว
แต่เรื่องตัวเองเงียบเป็นเป่าสาก
พรรคนี้แปลกครับ ข้างนอกดูดี ข้างในลึกลับซับซ้อน
อย่างพรรคเพื่อไทย ยังเห็นๆ ว่า “ทักษิณ” แทรกแซง
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ยังคงเป็นคนตระกูลชินวัตรอยู่
ขณะที่พรรคส้มดูเหมือนว่ามีประชาธิปไตยในพรรคสูงมาก แต่เชื่อมั้ยครับข้างในเผด็จการยังเรียกพี่
คณะโปลิตบูโร ๖ คนใหญ่จริงๆ
“ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรค
“ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรค
“พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์” รองหัวหน้าพรรค
“ศรายุทธิ์ ใจหลัก” เลขาธิการพรรค
“ณัฐวุฒิ บัวประทุม” นายทะเบียนพรรค
“ชุติมา คชพันธ์” เหรัญญิกพรรค
๖ คนนี้ชี้เป็นชี้ตายทุกคนในพรรคส้มได้
สั่งให้หยุดเล่นการเมืองก็ต้องหยุด
มีตัวอย่างเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วครับ ล่าสุดสดๆร้อนๆ วานนี้ (๑๖ ธันวาคม) วันหวยออก “ตรัยวรรธน์ อิ่มใจ” อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน ถูกหวยไปเต็มๆ
“…เรียน พ่อแม่พี่น้องประชาชน และผู้สนับสนุนที่รักและเคารพ กระผมนายตรัยวรรธน์ อิ่มใจ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ เขต ๘ ไม่ขอรับมติของเลขาธิการพรรคในการตัดสิทธิ์ไม่ให้กระผมลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้
โดยคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเสียงส่วนใหญ่ ให้นายตรัยวรรธน์ อิ่มใจ เป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ เขต ๘ เมื่อวันอังคารที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๘ เวลาที่รับแจ้ง ๐๐.๔๓ น.(ของคืนวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๘)
และเมื่อวันอังคารที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๒.๒๘ น. เลขาธิการพรรคมีการโทร.มาแจ้งกับกระผมว่า ให้ถอนตัวจากการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้
กระผมได้สอบถามว่าใช้มติอะไรในการเปลี่ยนแปลงมติของกรรมการบริหารพรรค ทางเลขาธิการพรรคให้เหตุผลว่า ใช้สิทธิ์การวีโตจากเลขาธิการพรรคและหัวหน้าพรรคเท่านั้น ที่สามารถเปลี่ยนมติกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดได้ (แล้วจะมีคณะกรรมการบริหารพรรคไว้เพื่อ……????)
กระผมมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และใช้ระบบเผด็จการในการตัดสินพิจารณาตัวกระผมในครั้งนี้ และกระผมขอยืนยันด้วยความสัจจริงต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชน ที่ให้การสนับสนุนกระผมด้วยดีตลอดมา ด้วยคะแนนเสียง ๔๖,๕๓๙ คะแนน จากพ่อแม่พี่น้องประชาชน อำเภอบางบ่อ อำเภอบางเสาธง
ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นระยะเวลา ๒ ปี ๗ เดือน ที่ผ่านมา ผมมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
ผมขอเดินต่อในเส้นทางการเมืองเพื่อทวงสิทธิ์ คืนความยุติธรรม และเป็นธรรมให้กับตนเอง ไม่ขอยอมรับความอยุติธรรมที่ไม่ใช่มูลเหตุแห่งความจริงใดๆ ทั้งสิ้น ขอไม่รับมติในการตัดสินพิจารณาในครั้งนี้ครับ…”
พรรคนี้เขาตัดคนที่ไม่มีผลงานออก หาคนใหม่มาเสียบแทน
นนทบุรี สส.เก่าไม่ผ่านเกณฑ์สักคน
มีเสียงบ่นตามมาในโซเชียลเยอะ… แล้ว “หัวหน้าเท้ง” มีผลงานอะไร
ทำไมไม่เปลี่ยนหัวหน้าพรรคด้วย
เท่าที่ทราบไม่มีการบอกรายละเอียดว่าเกณฑ์ที่ใช้ตัดตัวนั้นมีอะไรบ้าง ก็รู้กันอยู่ ๖ คนนั่นแหละครับ แต่ดันผลิตวาทกรรม “ยึดโยงประชาชน” บ่อยเหลือเกิน
ด้อมส้มไม่มีสิทธิ์เลือกผู้สมัคร สส.
มีหน้าที่เพียงไปเข้าคูหากาคนที่โปลิตบูโรกำหนด
ไปดูพรรคประชาธิปัตย์กันหน่อย หลังจากถ่ายเลือดเก่ารับเลือดใหม่เข้ามา คะแนนนิยมสูงขึ้นแบบกระชากอย่างมีนัยสำคัญ
แน่นอนครับ เพราะการกลับมาของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นำความคาดหวังมาด้วย
การเมืองไทยขาดพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้
หากพูดถึง “อุดมการณ์” พรรคประชาธิปัตย์ในอดีตคู่ควรกับคำนี้มากที่สุด ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป เพราะคนในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความเป็นประชาธิปัตย์
พรรคที่ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันการเมืองวันนี้ต้องกอบกู้พรรคให้กลับสู่เส้นทางเดิมอีกครั้ง
“…ไม่มีใครผูกขาดคะแนนเสียงในเขตเลือกตั้งไหนเลยทั่วประเทศ ผมทราบดีกว่าปัจจุบันหากพูดกันในคนการเมือง หรือประชาชนบางส่วนอาจบอกว่า เขตเลือกตั้งไม่เกี่ยวกับเรื่องกระแสความนิยมไปเสียแล้ว
พูดตรงๆ คือการใช้เงินใช้ทองมากกว่า โดยพวกผมจะต่อสู้เรื่องนี้ เพื่อให้การเมืองกลับมาเป็นเรื่องของความนิยม อุดมการณ์ นโยบาย ตัวบุคคลที่จะเข้าไปทำงาน เพราะหากปล่อยให้สภาพการเมืองปล่อยให้เงินชี้ขาดได้ ผมมองไม่เห็นว่าปัญหาที่สับสนจะแก้ไขอย่างไร ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม…”
“อภิสิทธิ์” เดินมาถูกทางแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ในภาพรวมจะเดินตามมาหรือเปล่า
เลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้อาจเป็นการเลือกตั้งที่คาดเดาผลได้ยากที่สุดครั้งหนึ่ง
พรรคที่เคยดำดิ่ง อาจผงาดขึ้นมาอีกครั้ง
พรรคที่เคยสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยกระแส อาจถึงจุดจบเพราะกระแส
แต่ที่แน่ๆ รัฐบาลหน้ายังไม่ใช่ส้ม.

