สันต์ สะตอแมน
“สงคราม” ..สนุกแต่เฉพาะในหนังฮอลลีวูด..
นอกจาก “ของจริง” ไม่ใช่เรื่องเล่น-เรื่องสนุก หรือเรื่องที่จะคุยโม้ โอ้อวด เพราะสนามสงคราม คือ “สนามแห่งความเป็น-ความตาย” ของชีวิต (จริง) เหล่าทหารกล้า!
ฉะนั้น..ที่เพจ “กองทัพภาคที่ 2” โพสต์ข้อความ.. “งดไลฟ์ งดโพสต์ งดแชร์ ไม่ต้องรีบแจ้งลงสื่อ การปฏิบัติทางทหารยังไม่จบ
การบอกลักษณะพื้นที่เฉพาะเจาะจง/พื้นที่จำกัด ยิ่งสร้างอันตรายให้กับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่”
ก็..ขอให้เชื่อฟังและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และนี่น่าจะเป็นการส่งสัญญาณ ว่าศึกสงครามกับเขมรไม่ได้หมู ยังต้องสู้รบกันอีกหลายมื้อ!
ที่สำคัญและน่าเป็นห่วง..ประชาชน-ประเทศเขมรยากจนก็จริง แต่ทรัพย์สิน-สมบัติ “ฮุน เซน” มันมากมายก่ายกองเป็นพะเนิน..
ซื้ออาวุธ (แพง) จ้างทหารนักรบต่างชาติสู้กับ “ทหารไทย” ได้อีกนาน-นับปี!
อีกอย่าง..ศึกสงครามนี้เราไม่ได้สู้ตัวต่อตัวกับเขมร หากแต่กำลังรบกับ “มาเฟียสแกมเมอร์” เครือข่ายระดับโลกที่ตั้งฐานอยู่ในกัมพูชา..
ซึ่งแน่นอน..กองทัพ-ทหารย่อมรู้ดี และคงไม่ปล่อยให้สงครามยืดเยื้อยาวนาน ต้องเร่ง “ปิดเกม” ให้จบในเร็ววัน!
อ้อ..ส่วน สภ.พลกรัง จังหวัดนครราชสีมา ที่ได้ออกประกาศประชาสัมพันธ์.. “เนื่องจาก ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้รับรายงานข่าวว่า
อาจจะมีทหารรับจ้างชาวรัสเซีย (กัมพูชาจ้าง) เข้ามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่โคราช เป้าหมายใช้โดรนโจมตีพื้นที่ยุทธศาสตร์ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา (กองบิน 1)
หากท่านพบชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยในรีสอร์ท/เกสท์เฮ้า/โรงแรม บ้านพักในพื้นที่ของท่าน โปรดแจ้ง สภ.พลกรังโดยด่วน 044 918600”
เนี่ย..คนโคราชบ้านเอ็ง ก็อย่าทำเป็น “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยละกัน..
ไม่ได้ทำเพื่อใครหรอก ก็เพื่อตัวท่านและลูกหลานท่านเองนั่นแหละ!
ว่าแต่.. “พี่เต้ อาชีวะ” ของผมอยู่ไหนนี่? หยุดพักการตามล่า “มาเฟียพม่า” เอาไว้ก่อนได้ไหม แล้วช่วยพาทีมงานขึ้นไปตระเวนดูในพื้นที่ สภ.พลกรัง โคราชหน่อยเป็นไร?
งานนี้..เห็นต้องพึ่งพาทีมงานคุณเต้ อาชีวะ แล้วล่ะ เพราะมีผลงานเป็นที่ประจักษ์.. “ใจถึง-พึ่งได้” ของแท้ เผื่อเจอจั๋งๆ เป็น “ทหารรับจ้างรัสเซีย” จริง..
จะแจ้ง สภ.พลกรัง หรือจะแจ้ง “ยมทูต” ก็สุดแท้สถานการณ์เฉพาะหน้าเป็นอย่างไร ตัดสินใจได้เลย..ปูตินคงไม่โกรธหรอก!
เอ้า..แต่นั่นแม้ไม่ได้โกรธ แต่ก็แอบผิดหวังนิดๆ แหละ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถึงได้โพสต์ซะยาวยืด (ผมขออนุญาตลอกเอาเฉพาะท่อนท้าย) ว่า..
“ผมมิได้มีเจตนาจะดูถูก ลิดรอนสิทธิ ความคิด ความเชื่อมั่น ของพรรคประชาชนแต่อย่างใด
เพียงแต่ความคิดของผู้นำจิตวิญญาณอย่างคุณธนาธร มิได้มีผลดีใดๆ กับประเทศชาติ ประชาชน จึงจำเป็นต้องกระตุกไม่ให้เสียนิสัย
แม้อุตส่าห์จัดอีเว้นท์ขอโทษประชาชนที่ทำผิดพลาด แต่ยังวาดฝันขอได้เกิน 250 ส.ส. เป็นพรรคเดี่ยวเพื่อจัดตั้งรัฐบาลอีก
คิดแบบนี้นี่ไงถึงต้องทำความเข้าใจกันใหม่ว่า “ไม่ใช่ขอโทษ แต่กลับขอโอกาสเพิ่มมากขึ้นอีก”
ที่ขอโทษก็ไม่ทราบว่าขอโทษที่แก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ หรือขอโทษที่ไปหลงเชื่อคารมคมหอกของพรรคภูมิใจไทย?
เมื่อทำพลาด ประชาชนให้ส้มไปมากในคราวเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เกินที่พรรคประชาชนจะคาดหวัง ยังเขวี้ยงส้มตกพื้น
แล้วครั้งนี้จะยังมาขอส้มเพิ่มมากกว่าเดิมอีก ผู้ใหญ่จะเรียกเด็กอย่างนี้ว่า “เด็กเสียนิสัย” ครับ”
ครับ.. “เสียนิสัย” ฟังดูซอฟต์กว่า “นิสัยเสีย” ใช่ไหมเฮีย?.
