สันต์ สะตอแมน
“เราเคารพคำสั่งศาลครับ”!
นี่..เป็นความรู้สึกของคุณพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษา ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)..
ที่ได้เผย (โพสต์) หลังศาลแพ่งมีคำสั่งให้ คปท. และกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ยุติการชุมนุมบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก ใกล้ทำเนียบ!
พร้อมบรรยาย.. “เพียงแต่ว่าข้อเท็จจริงหลายประเด็นผิดจากความเป็นจริง ศาลท่านอาจจะไม่ได้รับทราบ ความจริงที่ผู้กำกับ สน.นางเลิ้ง ยื่นไปอาจทำให้ข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน เช่น
1.ผู้ชุมนุมไม่เจรจากับทางมหาลัย.. ข้อเท็จจริงนี้ไม่เป็นความจริง เราประสานงานกับทางมหาวิทยาลัยตลอด
2.ห้องน้ำส่งกลิ่นเหม็น..ความจริงคือ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.มาตรวจความสะอาดและกลิ่นอยู่ประจำ ไม่เห็นบอกว่ามีกลิ่นรบกวนตามที่ผู้กำกับกล่าวอ้าง
3.เสียงรบกวนการเรียนการสอน..เราเปิดเวทีกลางคืน เสียงจะไปรบกวนการเรียน การสอนได้อย่างไร
ดังนั้นเราจึงขอใช้สิทธ์ในการขออุธรณ์คำสั่งศาลก่อน เมื่อผลออกมาเช่นไร เราพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาล”
ครับ..ก็เป็นแบบอย่างของผู้มีอารยะที่น่าชื่นชม ส่วนคำสั่งศาลจะส่งผลอย่างไรกับการชุมนุมของพลเมืองเป็นเรื่องต้องจับตามองกันต่อไป..
บางที..คำสบปรามาสที่ว่า “จุดไม่ติด” อาจจะลุกพรึ่บขึ้นมาก็ได้ ใครจะรู้!
อ้าว..แต่ที่รู้กันไปแล้วก็ “รางวัลภาพยนตร์ไทย ครั้งที่ 32 ประจำปี 2566” ของสถาบัน “ชมรมวิจารณ์บันเทิง” ที่ได้จัด-มอบขึ้น ณ “หอศิลป์” ศูนย์วัฒนธรรมฯ เมื่อวานซืน
จะเป็นไปตามคาด หรือผิดคาดของใครหรือไม่ไม่ทราบ แต่การที่ภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักนักพากย์” ที่ฉายทาง “เน็ตฟลิกซ์” กวาดไปถึง 4 รางวัล..
ในความรู้สึกผมที่ไปนั่งร่วมอยู่ภายในงาน ต้องบอกว่าถูกต้อง-เหมาะสมแล้ว!
มีคนกระซิบถามเหมือนกันว่า “มนต์รักนักพากย์” ได้รางวัล “ผู้กำกับยอดเยี่ยม” (คุณนนทรีย์ นิมิบุตร) แล้ว ทำไมรางวัล “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” จึงเป็นของหนังเรื่อง “ดอยบอย” ล่ะ?
ปุจฉานี้ ยอมรับผมจนปัญญาที่จะอธิบายคนที่ถามในขณะนั้น ได้แต่ตอบเอาตัวรอดแบบครอบจักรวาลไปเบาๆ.. “มันไม่จำเป็นว่าบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม..
แล้วหนังเรื่องนั้นจะต้องได้ “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” เสียทีไหน ทั้งโลกเค้าก็มอบกันแบบนี้”!
“แล้วคุณได้ดูดอยบอยรึยังล่ะ” ผมชิงถาม.. “ยังไม่ได้ดู” เขาตอบ “นั่นไง ผมก็ไม่ได้ดู ดอยบอยอาจจะดีครบองค์ประกอบของหนังก็ได้ คณะกรรมการชมรมฯถึงยกให้เป็นหนังยอดเยี่ยม”
“เอางี้ล่ะกัน..ผมจะถามผู้เชี่ยวชาญให้ ได้ความอย่างไรแล้วผมค่อยมาเล่าให้คุณฟัง หรือไม่ก็คอยตามอ่านในคอลัมน์ของผมก็ได้..โอเค๊”
ว่าแล้ว ผมก็ขอตัวลุกเข้าห้องน้ำ เดินออกมาข้างนอกก็จ๊ะเอ๋เอากับตลกอาวุโส คุณเทพ โพธิ์งาม หลังจากสวัสดีสวมกอดกันตามประสาคนไม่ได้พบปะเจอหน้ากันบ่อยๆ..
“อ้วนเปล่งปลั่งขึ้นนะพี่” ผมทัก.. “หยุดบุหรี่ หยุด..เลยทำให้อวบขึ้นเล็กน้อย” คุณเทพยิ้มตอบ.. “แล้วยังทานมังสวิรัติอยู่รึเปล่า” ผมถามด้วยคุณเทพนั้นได้ทานมังสวิรัติมาหลายสิบปี.
“เพิ่งจะเลิกไม่กี่เดือนนี้เอง อายุ 74 แล้ว ต้องกินอาหารให้ครบหมู่ ไม่งั้นไม่มีแรง”
“ดีครับพี่..แล้ววันนี้พี่มารับรางวัลด้วยเหรอ”.. “เปล่า เขาให้มาแสดงความยินดีกับคุณศุภักษรน่ะ”
“อ๋อ..ใช่คุณศุภักษรได้รับรางวัลเกียรติคุณแห่งความสำเร็จ งั้นเชิญพี่ข้างในเลย ผมฉี่จะราดแล้ว”..
งั้น..ขอจบในห้องน้ำก็แล้วกัน!