เปลว สีเงิน
เที่ยวนี้……
“เขมร” ค่อนข้างจะ “ตึงมือ” ทหารไทย ซักหน่อยนะ
แสดงว่าฟิตซ้อมมาดี
อาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งเป็นพระเอกของกองทัพเขมร ก็ระดมมาเพียบและหลับหู-หลับตายิงเข้าฝั่งไทย
โดยไม่สน เป็นหมู่บ้าน เป็นค่ายทหาร หรือเป็นโรงพยาบาล เรียกว่ายิง ตามสันดาน เขมร-ทหารป่าเถื่อน!
สังเกตว่า เที่ยวนี้ เขมรใช้ “โดรนสังหาร” ชนิดขึ้นหน้า-ขึ้นตาและได้ผลพอสมควร แสดงว่า คงไปจ้างมืออาชีพมาปฎิบัติการ
มีข่าวแต่วานซืนแล้วว่า……..
ฝ่ายไทยตรวจพบ เขมรขนจรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ขนาด 300 mm. ที่มีระยะยิงไกล ๑๓๐ กิโลเมตร ของกองทัพกัมพูชา เข้าพื้นที่ในจังหวัดกัมปงธมแล้ว
คอข่าว “สังคม-สงคราม” ในไทยจึงวิพากษ์กันว่า เมื่อเจอแล้ว ทำไมไม่เอากริพเพ่นไปหย่อนไข่ทำลายมันก่อนที่มันจะฟักตัวล่ะ?
จะรอให้เขมรมันใช้ PHL-03 ถล่มไทยวายวอดก่อน ทั้ง ๑๖ จังหวัด ตั้งแต่อีสานใต้ไปยันจันทบุรี-ตราดหรือยังไง ไทยถึงจะเล่นบทพระเอกที่ถูกรังแก!?
อันนี้ แฟนๆเขา (ต่อ) ว่ามา ผมก็นำมาว่าไป ยกให้เป็นดุลยพินิจของฝ่ายทหาร ผมไม่ก้าวล่วง
เพราะเชื่อมือและเชื่อใจว่า “กองทัพ” มีแผนอยู่แล้ว และรู้ว่าควรลงมือหรือไม่ลงมือตอนไหน-อย่างไร?
ฉะนั้น ผมว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องฮุนเซนบ้าเลือด จะสั่งใช้จรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ถล่มใส่ไทยหรอก
ถ้าถล่ม ไทยน่ะ….ไม่เละแน่
แต่ฮุนเซนนั่นแหละที่ “เละแน่ๆ”!
ผมดูแล้ว สถานการณ์สู้รบ จะยังไม่จบเร็ววัน สภาพการณ์โดยรวม ในขณะที่ทหารไทยนับวันยิ่งฮึกเหิม ตะลุยยึดแผ่นดินไทยคืน
ชนิด “ตายเป็นตาย”
แต่ธงชาติไทยต้องได้โบกสบัดเหนือผืนแผ่นดินไทยที่เขมรเอาไป แล้วเราเอากลับคืนมาได้ทั้งหมด!
ขณะนี้ สถานการณ์มันไปไกลกว่าที่ใครจะสั่งหยุดกลางคันได้แล้ว
ตรงข้ามกับทหารเขมร ซึ่งรบสไตล์ “ทหารป่า” ต้องบอกว่า ตอนนี้ ต่างถอดใจ เพราะรู้ดี รบไปก็มี ๒ สถาน “ตาย” กับ “แพ้”
และรบนี้ ไม่ใช่รบเพื่อ “ชาติ”
เพราะยังไงๆ ไทยก็ไม่ยึดประเทศเขมรอยู่แล้ว!
แต่มันเป็นการรบเพื่อ “การกินดี-อยู่ดี ของตระกูลฮุนบนกองกระดูกชาวบ้าน”
ฮุนเซนไม่เคยเห็นคุณค่าทหารเขมรเลย เขาวางตำแหน่งตัวเขาคือประเทศเขมร ทหารไปรบเพื่อตัวเขา ก็เท่ากับรบเพื่อชาติเขมร
ทหารไปรบ ตายก็เรื่องของมึง
“ฮุนเซนไม่ตาย” ก็เท่ากับ “ชาติเขมรไม่ตาย” เรื่องอื่น-คนอื่น ไม่มีความหมายที่จะต้องพูดถึง
“ฮุนเซน-ฮุนมาเน็ต” สองพ่อลูก ดูแล้ว เห็นท่าจะอยู่ยาก
เพราะอะไรน่ะหรือ?
ก็เพราะ “นานาชาติ” เขารู้เช่น-เห็นสันดานหมดแล้ว ว่าคบไม่ได้ เชื่อถือไม่ได้ จึง “ตัดหางปล่อยวัด”
ไปแหกปากร้องให้องค์กรไหน หรือประเทศไหนช่วย เขาก็เมิน ในใจคงนึกว่า… “ดีแล้ว ให้ไทยกระทืบสั่งสอนซะมั่ง จะได้หายซ่าทั้งพ่อ-ทั้งลูก”
สังเกตมั้ย….
“ประธานาธิบดีทรัมป์” บอกว่า จะโทรมาหานายกฯอนุทินให้ยุติการสู้รบ กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา ตาม “ปฎิญญาสันติภาพ”
แต่กี่วันมาแล้วล่ะ “ทรัมป์” ก็ยังไม่โทร!?
“ประธานาธิบดีทรัมป์” ไม่ใช่ “ประธานาธิบดีทึ่ม” ฉะนั้น ทีมงานเขาก็ต้องประมวลเรื่องราว แล้วชั่งน้ำหนัก
ว่าถ้าไปสั่งโน่น-นี่ตอนนี้กับไทย ….
รางวัล “หน้าแหก” มีมากกว่ารางวัล “โนเบล”!
เขาก็ต้องได้ยิน ที่นายกฯอนุทิน ประกาศแต่วันแรก
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดคุย”
ได้ยินทางกองทัพไทย ประกาศ
“จะทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพขีดความสามารถทางการทหารไปอีกยาวนาน เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานของเรา”
ได้ยินทางกระทรวงต่างประเทศ ประกาศ
“กลไกทางการทูตจะทำงานได้ หากสถานการณ์เปิดพื้นที่ให้การทูต แต่ต้องขอโทษ…ตอนนี้ เราไม่มีพื้นที่แบบนั้น”
ยิ่งเมื่อวาน (๑๑ ธ.ค.๖๘) เพจกองทัพภาคที่ ๒ โพสต์ข้อความระบุในหัวข้อว่า
“SMART Soldiers Update การทหาร x การทูต ไม่มีใครนำใคร เพราะเรากำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”
พร้อมระบุว่า “การทูตคือชุดสูท…การทหารคือชุดเกราะ ทั้งสองคือ “พลังเดียวกัน” เพื่อปกป้องประเทศ
ต้องซี๊ดดดดปากกันเลยเชียว….!
ทั้งกองทัพ ทั้งกระทรวงต่างประเทศ ไม่คมเพียงอาวุธ ฝีปากยังคมกริบ ชนิดมีดโกนยังต้องอาย
“การทูตคือชุดสูท การทหารคือชุดเกราะ” ท่านใดคิดวลีบาดจิต-บาดใจนี้ออกมาได้ โปรดมารับรางวัล “สบู่มาดามเฮง” จากผมไปแจกทหารแนวหน้า
เอากี่ลังบอกมา อย่าเกินร้อยก็แล้วกัน เดี๋ยว “เสี่ยขาว” ผู้เป็นเจ้าของเขาจะผลิตให้ไม่ทันตอนปีใหม่!
ทำไมประธานาธิบดีทรัมป์และนานาชาติเขาไม่เข้ามายุ่งสงครามสั่งสอนนี้ รู้มั้ย?
ผมก็ไม่รู้ แต่เดาเอา!
เป็นที่รู้กันทั้งโลกว่า เขมรคือ “ศูนย์กลางอาชญากรรมทางไซเบอร์” โลก เป็นทั้งกาสิโน ฟอกเงิน สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์
“นายเฉิน จื้อ” และ Princes Group
กลุ่ม Huione Group ของ “นายฮุน โต” หลานชายของ “ฮุน เซน”
นี่คือ “กระเป๋าเงิน” ของ “สองพ่อลูกตระกูลฮุน”
“กระทรวงการคลังสหรัฐฯ” ประกาศขึ้นแบล็กลิสต์ Huione Group เครือบริษัทการเงินของเขมร
หลังพบเป็น “ศูนย์กลางฟอกเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์” และกลุ่ม “อาชญากรข้ามชาติ”
มีมูลค่าการฟอกเงินรวมกว่า ๔,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ คิดเป็นเงินไทยประมาณ ๑๔๐,๐๐๐ ล้านบาท
“นาย ยิม เลียก” ประธาน BIC Group ลูกชายรองนายกฯ เขมร อยู่ในบัญชีที่ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร
เนื่องจากถูกกล่าวหา ใช้ BIC Bank เป็นช่องทางฟอกเงินสแกมเมอร์ จากคนไทยและเขมร
มีความเชื่อมโยงกับ “นายเบน สมิธ” เป็นที่ปรึกษาและเป็นตัวกลาง ให้ “ยิม เลียก” ในโครงการลงทุน เช่น การเข้าถือหุ้นในบริษัทไทย Finansia X, Bangchak ผ่าน CAI และพันธมิตรลาว-เขมร
ทั้งสองคนนี้ ก็เป็นคนของฮุนเซน พัวพันอยู่ในธุรกิจสีเทา เช่น ฟอกเงินจากสแกมเมอร์และกาสิโนชายแดน
“นายก๊ก อาน” สว.เขมร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติกับกลุ่มจีนเทา เกี่ยวข้องกับ “สแกมเมอร์ออนไลน์” ในฐานะ “เจ้าพ่อปอยเปต”
ทั้งพบมีการบังคับใช้แรงงานและค้ามนุษย์ เช่นที่ คราวน์ รีสอร์ต ปอยเปต รวมถึงตึก ๑๘ ชั้น และตึก ๒๕ ชั้น
แหล่งเปิด “บัญชีม้า-พนันออนไลน์” และศูนย์สแกมเมอร์ ที่พบ “คนไทย” ตกลงมาตาย รวมถึง คราวน์ กาสิโน ด้วย
ขณะนี้ ถูกไทยออกหมายจับ รวมทั้งลูกอีก ๓ คน ที่ยังหลบหนี
ที่ยกมาให้ดู ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า ทุกคนที่สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ-คว่ำบาตร ล้วนเป็นแขน-เป็นขา-เป็นมือ-เป็นตีน ทางการเงิน ให้ฮุนเซนทั้งสิ้น
และสหรัฐฯ เองก็ระบุว่า….
“เขมรเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมทางไซเบอร์”!
ซึ่งเท่ากับยอมรับว่า….
“ฮุนเซน” คือหัวหน้า “ตัวการใหญ่” แก๊งสแกมเมอร์ ฟอกเงิน ค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ ในเขมร ที่ทำคนเดือดร้อนทั้งโลก!
ย้อนไปดู “ปฎิญญานำร่อง” สันติภาพไทย-เขมร ที่ไทยมีเงื่อนไข ๔-๕ ข้อ เขมรต้องปฎิบัติให้เห็นผลก่อน สันติภาพตามปฎิญญานั้น จึงจะมีผล
ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ และนายกฯ อันวาร์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการลงปฎิญญาระหว่าง นายกฯ อนุทิน กับ นายกฯ ฮุนมาเน็ต
๒ ใน ๕ ข้อเงื่อนไข คือ เขมรต้องร่วมมือกับไทยปราบแก๊งสแกมเมอร์ และต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด
แต่ผลที่ได้คือ เขมรเป็นฝ่าย “ฉีกปฎิญญาสันติภาพ” ให้ถอนอาวุธหนักออกไป แต่กลับเติมเข้ามา
ให้ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เขมรกลับลอบฝังกับระเบิดหนักขึ้น
ให้ร่วมปราบแก๊งสแกมเมอร์ แต่ฮุนเซนกลับใช้แหล่งสแกมเมอร์ในเขมรให้บรรดาสมุน หลอกลวง-ต้มตุ๋น-ดูดเงิน คนทั่วโลกเหมือนเดิม
แล้วเขมร ก็ยิงถล่มไทย จนทหารไทยบาดเจ็บและเสียชีวิตอีกเป็นครั้งที่ ๒!
เขมรตีหัวไทย เสร็จแล้ว สหรัฐฯ มาเลย์ หรือประเทศไหนๆ จะมาบอกให้ไทยกลับไปนั่งโต๊ะเจรจา
ขอโทษ…ไม่ถูกถีบกลับไป ก็ถือว่าให้เกียรติกันสุดขีดแล้ว!
แบบนี้ เจรจากันไป ก็ไลฟ์บอยส์
ต้อง “ซัดกัน” ให้รู้หมู่-รู้จ่ากันไปข้าง จะได้สำนึก!
สำหรับ “ทรัมป์-สหรัฐฯ”….
ต้องคิดเหมือนกัน ประกาศจะปราบอาชญากรรมข้ามชาติทางไซเบอร์ ก็รู้อยู่กับใจ ว่าฮุนเซ็นคือ “ตัวการใหญ่” ของลูกน้องที่สหรัฐฯ ไล่ล่าและขึ้นบัญชีดำ
เมื่อ “เขมร-ฮุนเซน” ละเมิดเงื่อนไขสัญญาสันติภาพ ทรัมป์จะบากหน้ามาบอกให้คนรักษาสัญญาหยุดยิงคือไทย ให้ไปนั่งเจรจากับคนฉีกสัญญาคือเขมร
ทรัมป์คือ “มหาอำนาจโลก”
หรือทรัมป์ คือ ลูกน้องฮุนเซน “มหาอำนาจสแกมเมอร์โลก”!?
วางตำแหน่งตัวเองให้ถูกนะ ท่านผู้นำโลก!
ทางที่ถูก ทรัมป์ควรสนับสนุนไทยเหยียบเขมรฮุนเซนให้ราบ เพื่อช่วยมนุษยชาติให้พ้นจากความเป็นเหยื่อ “แก๊งอาชญากรรมทางไซเบอร์”
ที่มี “ฮุนเซน” เป็นเจ้าพ่อแก๊งสแกมเมอร์!
นี่ถ้าทรัมป์โทรมาสั่งให้ไทยไปนั่งโต๊ะเจรจากับเขมรละก็
ต้องถามว่า ได้ส่วนแบ่งจากฮุนเซนกี่เปอรเซ็นต์!?
เปลว สีเงิน
๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๘

