6 พฤศจิกายน 2568 – ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม และส่วนของศูนย์บริการเยี่ยมญาติ ซึ่งวันนี้ถือเป็นครั้งที่ 14 สำหรับการเยี่ยมญาตินายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคุมขังตามคำสั่งบังคับโทษ นับแต่วันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยวันนี้ได้รับรายงานว่าสมาชิกครอบครัวชินวัตร ได้แก่ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ หรือปอ สามีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนครอบครัวเพียงคนเดียวเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมกับนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ชินวัตร เนื่องด้วยเมื่อวันจันทร์ที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม และพื้นที่โดยรอบประสบปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากสภาพฝนตกหนัก ทำให้มีเพียง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง ภรรยา เป็นตัวแทนเดินทางมาเข้าเยี่ยมนายทักษิณ
ต่อมาเวลา 09.45 น. นายปิฎก ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนภายหลังเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ว่า สำหรับเรื่องสุขภาพของคุณพ่อโดยรวมยังคงโอเค และคุณพ่อก็บอกว่าอยู่จะครบ 2 เดือนแล้วในวันอาทิตย์นี้ แค่เดี๋ยวความเป็นคนแอคทีฟก็จะมีคิดมากหน่อยในช่วงนี้ เพราะคุณพ่อพอได้ยินข่าวสภาวะบ้านเมืองตอนนี้ก็รู้สึกเป็นห่วง
ขณะที่ ทนายวิญญัติ กล่าวว่า วันนี้เป็นการพูดคุยของนายปิฎก หรือคุณปอ ซึ่งเป็นตัวแทนครอบครัวได้พูดคุยกับคุณทักษิณราว ๆ ครึ่งชั่วโมง แต่ในส่วนของตนที่ได้พูดคุยกับคุณทักษิณ ตนก็ได้มีการรายงานหลาย ๆ เรื่อง ประกอบกับมีเรื่องของสถานการณ์บ้านเมืองบางส่วนที่บางกรณีมาพาดพิงคุณทักษิณ ตามที่เห็นเป็นข่าว ซึ่งคุณทักษิณได้แจ้งเรียนตามตรงว่าคุณทักษิณไม่เคยเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์หรือพนันออนไลน์ใด ๆ ดังนั้น คนที่แอบอ้างหรือกล่าวหา หรือจัดทำ Infographic (ภาพประกอบ) เผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตนั้น ตนได้มีการติดตามมอนิเตอร์ดูอยู่ และจะพิจารณาดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม หากยังไม่มีหลักฐานอะไรยืนยัน ก็ควรหยุดการกระทำ เพราะมันกระทบต่อชื่อเสียงของคุณทักษิณ
ทนายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันคุณทักษิณอยู่มาจะสองเดือนแล้ว ราว ๆ วันที่ 9 พ.ย.นี้ ก็ครบ 2 เดือน ซึ่งตนก็ได้คุยกับคุณทักษิณ พบว่าสุขภาพโดยรวมยังดีอยู่ เพราะพยายามดูแลตัวเองอย่างดี แต่เท่าที่ดู คุณทักษิณก็มีความเครียด เพราะอยู่ด้านในจะ 2 เดือน คนไม่เคยก็จิตตกได้ และคุณทักษิณก็มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ห่วงบ้านเมือง ห้วงสถานการณ์บ้านเมืองพอสมควร เพราะช่วงนี้เห็นมีปัญหาเกี่ยวกับอาชญากรรมและปัญหาที่เกิดขึ้น มันก็อยู่ในสิ่งที่คุณทักษิณมีวัตถุประสงค์อยากจะปราบปรามเรื่องพวกสแกมเมอร์มาตลอด แต่พออยู่ด้านในก็ทำอะไรมากไม่ได้ ท่านก็ห่วงประชาชนเหมือนเดิม
ทนายวิญญัติ กล่าวต่อว่า คุณทักษิณเสียดายโอกาส และห่วงวิธีการที่ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างจริงจัง ใครที่มีผลประโยชน์อย่างไรก็อย่าลากคุณทักษิณไปเกี่ยวข้อง ตนขอเตือนไว้ก่อน หากไม่มีหลักฐานกล่าวหาก็ควรลบ และตนยืนยันในฐานะทนายความ คุณทักษิณ ไม่เคยเกี่ยวข้องในเรื่องขบวนการเหล่านี้ ทั้งหลอกลวง สแกมเมอร์ พนันออนไลน์ ใด ๆ ทั้งสิ้น
เมื่อถามถึงกรณีความสัมพันธ์ระหว่างนายทักษิณ และนายเบน สมิธ มีสิ่งใดที่นายทักษิณ อยากชี้แจงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ปรากฏภาพการไปรับประทานอาหารร่วมกันนั้น ทนายวิญญัติ เผยว่า กรณีของนายเบน สมิธ เป็นเพียงความรู้จัก แต่คุณทักษิณไม่เคยร่วมลงทุนอะไรด้วย และก็ขอให้ไปตรวจสอบดูเลยว่านายเบน สมิธ ได้มีการลงทุนทำอะไรในประเทศไทยหรือไม่ ตนเชื่อว่าไม่มี ฉะนั้น ถ้าไม่มีและเขาไม่ได้เกี่ยวข้องจริง ๆ การที่ไปจับแพะชนแกะ หรือพยายามโยงให้เป็นประเด็นหรือกระแสใด ๆ ก็อยากให้หลายท่านได้ทบทวน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าคุณทักษิณและนายเบน สมิธ คือแค่คนรู้จักกัน มีคนอื่นแนะนำให้รู้จัก มันก็เป็นเรื่องปกติที่ประชาชนทั่วไปเดินทางมาพบและสวัสดี พูดคุยกับคุณทักษิณ เพราะคุณทักษิณเป็นคนอัธยาศัยดี และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนรู้จักกันทั่วโลก รู้จักแล้วก็ต้องคุย นี่คือสิ่งที่พูดจากการได้สัมผัสรู้จักคุณทักษิณ
ทนายวิญญัติ กล่าวต่อว่า ย้ำว่าในตอนนี้ตงไม่ได้ตัดสินใจฟ้องใคร เพียงแต่ว่ามาอัปเดตให้คุณทักษิณทราบว่ามีใครพาดพิง หรือจัดทำข้อมูลเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต ก็ให้หยุดการกระทำ บอกได้เลยว่าคุณทักษิณไม่เกี่ยวข้องและปฏิเสธความเชื่อมโยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตัวอักษรย่อ หรือพูดเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นคุณทักษิณ เพราะคนที่ออกมาปูดหรือออกมาเเฉ เขาก็บอกอยู่แล้วว่าไม่เกี่ยวกับคุณทักษิณ ฉะนั้น ต้องหยุดการกระทำขุดบ่อล่อปลา
ทนายวิญญัติ กล่าวด้วยว่า กรณีที่คุณทักษิณ อยู่ด้านในจะครบ 2 เดือนแล้วนั้น หากมองเรื่องของโครงการพักการลงโทษ จะมีสิทธิได้รับการพิจารณาเมื่อถึงระยะเวลาสมควรหรือไม่นั้น อันนี้เชื่อว่าทางเรือนจำฯ และกรมราชทัณฑ์ จะมีการพิจารณาตามกฎหมายระเบียบที่มี เพราะถ้าหากมีสิทธิใดๆ ที่เราเข้าเกณฑ์คุณสมบัติ เราก็จะใช้เต็มที่ แต่เราไม่ไปเรียกร้องอะไรที่นอกเหนือกฎหมายแน่นอน เพราะที่ผ่านมาคุณทักษิณก็ทำตามกฎหมายอยู่แล้ว แค่มีบางมุมที่บางคนไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ คุณทักษิณในฐานะเป็นผู้ต้องขังชั้นกลาง ยังไม่ได้รับการปรับเลื่อนชั้นในตอนนี้ ภายภาคหน้าก็มีสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาทั้งการพักโทษ ลดวันต้องโทษ หรือการปรับเลื่อนชั้นตามขั้นตอนของระเบียบกรมราชทัณฑ์ ส่วนกรอบระยะเวลาไม่ทราบจริง ๆ เพราะก็ขึ้นอยู่กับประกาศหรือระเบียบใดที่กรมราชทัณฑ์มี
ทนายวิญญัติ กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับผลการถวายฎีกายื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายครั้งล่าสุดของคุณทักษิณ ที่ได้ทูลเกล้าฯ ไปนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้รับทราบผลแจ้งฎีกาว่าอย่างไรบ้าง แต่น่าจะอยู่ในกระบวนการนำขึ้นกราบบังคมทูล ก็หวังว่าคุณทักษิณ จะได้รับความเมตตา.
