ผักกาดหอม
เตือนรัฐบาลอีกที…
ปัญหาสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ในประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลต้องชัดเจนนะครับ จะคลุมเครือไม่ได้เด็ดขาด เพราะนี่จะเป็นปัญหาใหญ่
และมีผลต่อการเลือกตั้งมากพอควร
หัวหน้ารัฐบาลคือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ต้องสื่อสารกับประชาชนให้มากกว่าที่ทำอยู่
มันไม่ใช่เรื่องปล่อยให้นักข่าวเอาไมค์จ่อปากแล้วถึงจะพูด
ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราว
ต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ
ไล่เรียงให้เห็นว่าวันนี้ พรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า เดือนหน้า รัฐบาลจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
ที่ “วรภัค ธันยาวงษ์” ชิงลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง บอกได้เลยว่าเฉียดฉิว ไม่มีกำไร ไม่เสมอตัว
มีแต่ขาดทุน!
ยังดีครับ ประเทศไทยหยุดกาสิโนได้ ถ้าปล่อยนโยบายของพรรคเพื่อไทยนโยบายนี้ให้เป็นจริง มันจะฉิบหายไปทั้งภูมิภาค
เขมร พม่า ไทย ลาว ลงเหวกันหมด โดยมีไทยเป็นศูนย์กลางการฟอกเงินขนาดใหญ่
นี่ขนาดไม่มีกาสิโน ไม่มีแหล่งฟอกเงินสุดฮิต แต่การฟอกเงินผ่านไทยนั้นมหาศาล ที่จริงรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็รู้ดี แต่จัดการอะไรไม่ได้ เพราะขบวนการนี้มันแทรกซึมเข้าไปในพรรคการเมือง ในรัฐบาล
ถึงได้บอกว่า “นายกฯ อนุทิน” ต้องชัดเจนเรื่องนี้แบบสุดๆ กั๊กไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันจะลาม!
ในฐานะผู้นำประเทศไม่ต้องเกรงใจใครครับ
อีกอย่างคุยกับเขมรตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องเน้นเรื่องพรมแดน ต้องให้น้ำหนักไปที่การจัดการกับปัญหาสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ในเขมร
ณ ขณะนี้ควรจะรุกให้หนัก
รัฐบาลไทยต้องเป็นตัวตั้งตัวตีจัดการกับเรื่องนี้ให้ได้
ตัดแขน ตัดขา ฮุน เซน ให้หมด
อ่านโพสต์ของ “พงศ์พรหม ยามะรัต” อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้าดูครับ ที่จริงมันก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่รัฐบาลมีอยู่ในมือนั่นแหละครับ
“…เพื่อนๆ การเมืองบางท่านทราบว่ามีผู้ใหญ่ชวนผมไปปรึกษาบางเรื่องเมื่อวาน ผมได้รับไฟเขียวให้สื่อสารได้ แต่จะขอสรุปง่ายๆ ให้เห็นภาพ โดยขอไม่ลงรายละเอียด
๑.วิกฤต scammer รอบนี้ ใหญ่กว่าที่เราคิดมาก เหตุเพราะกลุ่มทุนเทายักษ์ในพม่า เขมร ต้องการ ‘ผัน’ และ ‘ฟอกเงิน’ ออก โดยเรากำลังพูดถึงเงิน ‘หลายหมื่นล้านบาท’
๒.การผันและฟอกเงินออกใกล้ สะดวก และมีกลไกดีที่สุดย่อมเป็นประเทศไทย เพราะใกล้ทั้งพม่า และเขมร
๓.แต่ความใกล้ ไม่ดีเท่าความพร้อม การฟอกเงินผ่านไทยจะทำโดย
๓.๑ ฟอกผ่านวัด เพราะหลบการตรวจสอบง่ายสุดในภูมิภาค นี่คือจุดอ่อนของไทยมานาน เงินก้อนนี้จะเกี่ยวพันกับการซื้อเสียงในการเลือกตั้งรอบที่จะถึงนี้ด้วย
๓.๒ ฟอกเงินผ่านมูลนิธิต่างๆ ในเครือข่ายพวกเขา
๓.๓ ฟอกเงินผ่านตลาดหลักทรัพย์ เราจึงเห็นความพยายาม ‘back door’ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่ความจริงมีมากกว่าที่เห็นกัน
๔.สิ่งที่น่าห่วงคือ คนต่างชาติระดับบริหารของทุนเทายักษ์นี้ ไม่ได้สนประชาชน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ของไทย หมายถึงหากเขาแผ่อิทธิพลได้เต็มที่แล้ว ใครมาขวางจะโดนเก็บหมด
จริงๆ ผมเคยโพสต์เตือนเรื่องนี้ไปแล้วเมื่อปีเศษๆ ที่ผ่านมาว่า มีแม้แต่นักค้ายาเสพติดอเมริกากลาง เริ่มมาเจรจาทำธุรกิจเทาในไทยแล้วเช่นกัน แต่คำถามคือ แล้วรากปัญหาคืออะไร?
คำตอบคือ
๑.เรามีนักการเมืองเทา จับมือทหารเทา และตำรวจเทา ไปมีเอี่ยวผลประโยชน์ที่ว่านี้ หมายถึงทั้ง scammer, พนันออนไลน์, ยาเสพติด, ค้าสัตว์ป่าสงวน, ตัดป่าไทยขาย, ลักลอบนำเข้าขยะพิษฝั่งภาคตะวันออก หมดนี่คือ ‘ก้อนเค้ก’ ขนาดใหญ่กว่า ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท
๒.เรามีนักการเมืองเทา ทหารเทา ตำรวจเทา ข้าราชการกระทรวงเทา ที่ซื้อได้ ส่วนหนึ่งถือหุ้น บางส่วนรับปันผล บางส่วนรับเงินเดือน
๓.เราจึงเห็นว่า ตั้งแต่ปัญหา ‘เมียวดี’ ยัน ‘ปอยเปต’ และพิพาทชายแดนไทย-เขมร ทุกฝ่ายขยับช้าหมด เพราะทุนเทาต่างชาติซื้อตัวคนระดับบริหารทั้งสายการเมือง ราชการได้แล้วไม่น้อย
๔.และเราจึงเห็นว่า การยึดทรัพย์ การปิดเส้นทางการเงิน มันถึงทำยากเย็นมากในตลอด ๖ เดือนที่ผ่านมา แถมมีนักการเมืองมาช่วยเป็น “องครักษ์” นักฟอกเงินอย่างออกหน้า
ทราบมั้ยครับ จริงๆ แล้วเรื่องดรามา ‘ชายแดน’ ช่วงหลังๆ เป็นเพียง ‘เหยื่อหลอก’
เอาจริงๆ ปัญหาชายแดนนั้น ทหารดีๆ อย่างท่านแม่ทัพภาคที่ ๒ หรือท่านแม่ทัพเรือ จัดการได้อยู่แล้ว แต่การที่มีการหันเหความสนใจสังคมไทย ‘เกินเหตุ’ ไปที่ชายแดน
ก็เพราะตัวการใหญ่จริงๆ มันอยู่กลางกรุงเทพฯ นี่แหละครับ
ฟอกเงิน หมุนเงิน ศูนย์การค้ามนุษย์ รอบโลก >> กรุงเทพฯ >> พม่า-เขมร ยักย้ายทรัพย์สิน วัด มูลนิธิ เตรียม back door หรือถือหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการเกียร์ว่างการตรวจสอบการยึดทรัพย์
ปัญหาใหญ่สุดอยู่กรุงเทพฯ กิจกรรมชายแดนเป็นเพียงการเบนความสนใจ
ส่วนต่างจังหวัด จะมีการฟอกเงินผ่านวัดจำนวนมาก ที่ซื้อ ‘เจ้าอาวาส’ ไว้หมด
โดยเฉพาะ ‘พื้นที่’ ของนักการเมืองกลุ่มเหล่านี้
ดังนั้น จะลุยคนที่จะมายึดครองประเทศเรา ต้องลุยที่หัวใจทุนเทามาเฟียนี้ นักการเมืองกลุ่มไหนสนับสนุนการตรวจสอบเส้นทางเงินเทา
กลุ่มไหนสนับสนุนการอายัดทรัพย์สิน กลุ่มไหนสนับสนุนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน กลุ่มไหนสนับสนุนการตัดสัญญาณเน็ต ตัดน้ำ ตัดไฟ อย่าไปสนสี แต่เราต้องสนับสนุนนักการเมืองเหล่านี้
นักการเมืองกลุ่มไหนอยู่เงียบ เลวกว่านั้นคือปกป้องเหล่า scammer และนักฟอกเงิน ประชาชนต้องรวมตัวกันไม่สนับสนุน
ไม่ใช่โง่เข้าไปปกป้อง เพียงแค่ ‘เหม็นขี้หน้า’ นักการเมืองกลุ่มที่เขากำลังตรวจสอบ นี่จึงไม่ใช่เวลาของสงครามสีเสื้อ แต่เป็นเวลาของความเป็นความตายประชาชน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่กำลังจะถูกทุนเทามาเฟียขนาดยักษ์มายึดครอง เสาหลักของชาติกำลังเผชิญความอันตรายครั้งใหญ่ที่สุดหลังสงครามคอมมิวนิสต์ครับ…”
“นายกฯ อนุทิน” ลองหันซ้ายหันขวา หาคนที่ไว้ใจได้ จิกเรื่องนี้อย่าปล่อย เวลาที่เหลืออยู่ ๓ เดือนกว่า มากพอที่จะแก้ปัญหาเป็นเนื้อเป็นหนังได้
ถ้าไม่ทำ เงินสีเทาถูกเอาไปโปรยในการเลือกตั้งแน่นอน
และจะเป็นการเลือกตั้งที่ทำให้แก๊งสแกมเมอร์เข้ามามีอิทธิพลกับการเมืองไทยมากกว่าเดิม
อนาคตกอดคอลงเหวไปพร้อมเขมรแน่นอน.

