1 ตุลาคม 2568 – บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชียประจำปี 2568 (HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2025) จากนิตยสาร HR Asia สื่อชั้นนำด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่เป็นที่ยอมรับในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งพิจารณามอบรางวัลให้กับองค์กรที่โดดเด่นด้านกลยุทธ์และการบริหารทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง โดยมี นายทานุจ ชาดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายยศยุต สหวัชรินทร์ รองประธานบริหารอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคเบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนบริษัทฯ รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้
นายทานุจ ชาดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “รางวัล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2025 ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการบริหารทรัพยากรบุคคลตามแนวคิด ‘People-First’ ที่มองว่า พนักงานคือหัวใจของความสำเร็จ องค์กรของเรามุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงศักยภาพและเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ พร้อมเดินหน้าเติบโตไปด้วยกัน ภายใต้ธีม ‘Uniquely Me, Growing As One’ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนต่างมีคุณค่าและศักยภาพในแบบของตัวเอง และสามารถนำความหลากหลายเหล่านี้มาใช้เป็นจุดแข็งเสริมสร้างการเติบโตให้กับตนเองและองค์กร ในขณะเดียวกัน เรายังมุ่งมั่นที่จะเติบโตไปพร้อมกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตามค่านิยมองค์กร ‘Growing for Good’ (การเติบโตอย่างยั่งยืน) ที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด”
นายยศยุต สหวัชรินทร์ รองประธานบริหารอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค
เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ขับเคลื่อนการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างไม่แบ่งแยก (Diversity, Equity & Inclusion – DE&I) เราเปิดรับมุมมองที่หลากหลาย พร้อมส่งต่อพลังบวกซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความสำเร็จร่วมกันอย่างเต็มที่ (Better Together) เราเปิดโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้ เติบโต และพัฒนาอาชีพผ่านประสบการณ์ที่หลากหลาย โดยใช้จุดแข็งจากความเป็นบริษัทร่วมทุนของสององค์กรชั้นนำระดับโลก ทั้งซันโทรี่ และ เป๊ปซี่โค มอบโอกาสและประสบการณ์การทำงานทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับพนักงาน จากความมุ่งมั่นตั้งใจในการดูแลและพัฒนาพนักงานของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายและความสำเร็จร่วมกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือทีมงานที่มีความสุข มีส่วนร่วม และพร้อมขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของการบริหารบุคลากรและความผูกพันที่พนักงานมีต่อองค์กรได้เป็นอย่างดี”
รางวัล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2025 มีกระบวนการคัดเลือกผ่านการสำรวจความคิดเห็นของตัวแทนพนักงานจากหลากหลายแผนก ช่วงอายุ เพศ และระยะเวลาการทำงาน ด้วยโมเดล TEAM (Total Engagement Assessment Model) ซึ่งจากผลสำรวจเผยว่า ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มีค่าเฉลี่ยคะแนนรวมสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด จากองค์กรไทยที่เข้าร่วมกว่า 303 องค์กร ในการประเมินทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
1. การบริหารจัดการภายในองค์กรที่ดีเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน (CORE) จากการประเมินในหัวข้อ องค์กรที่มีเป้าหมายทางธุรกิจที่ชัดเจน มีกลยุทธ์และนโยบายที่โปร่งใส มีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง และดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ความสำเร็จนี้เกิดจากการยึดมั่นและดำเนินตามค่านิยมองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “Yatte Minahare” (ยัตเตะ มินาฮาเระ) หรือ “จิตวิญญาณของผู้กล้าลงมือทำ” ที่ส่งเสริมให้พนักงานทุกระดับ กล้าที่จะเป็นตัวเอง กล้าที่จะคิดอย่างสร้างสรรค์ และกล้าที่จะลงมือทำอย่างมั่นใจ โดยไม่กลัวความผิดพลาดหรือล้มเหลว เพื่อสร้างผลงานและพัฒนาทักษะของตนเอง ซึ่งไม่เพียงช่วยให้บุคลากรก้าวหน้า แต่ยังส่งเสริมความสำเร็จขององค์กรโดยรวม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังยึดถือค่านิยม “Giving Back to Society” หรือ “การตอบแทนกลับคืนสู่สังคม” โดยสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมมากมาย อาทิ โครงการ “มิซุอิกุ” ที่มุ่งให้ความรู้แก่เยาวชนเกี่ยวกับคุณค่าของทรัพยากรน้ำและส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำ ซึ่งบริษัทฯ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 โครงการ “คน น้ำ ดี” ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ร่วมดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ และโครงการ “ข. ขวด หมุนเวียนเป็นขวดใหม่” โดย ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ส่งเสริมการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจและการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน
2. การดูแลเอาใจใส่และการสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในการทำงาน (SELF) ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียง “ที่ทำงาน” แต่เปรียบเสมือน “บ้าน” ที่พนักงานรู้สึกปลอดภัย และสามารถเป็นตัวเองได้อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งได้รับการยอมรับและชื่นชม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็น “สนามแห่งการเรียนรู้” ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ ผ่านการเข้าถึงหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์กว่า 18,000 หลักสูตร รวมถึงแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล “MySU” (My Suntory University) ที่พัฒนาโดย ซันโทรี่ กรุ๊ป ซึ่งนำเทคโนโลยี AI มาปรับปรุงหลักสูตรการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายของพนักงานแต่ละคน ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังส่งเสริมเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมพนักงานทั้งที่สำนักงานใหญ่ ทีมฝ่ายขาย และฝ่ายผลิตที่โรงงาน รวมถึงมอบโอกาสให้กับพนักงานที่มีศักยภาพได้พัฒนาตนเองผ่านประสบการณ์การทำงานในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อให้เติบโตไปพร้อมกับองค์กร อีกทั้งยังมีการยกย่องและมอบรางวัล เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจในการทำงานให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ
3. การส่งเสริมการทำงานเป็นทีม (GROUP) จากการประเมินในหัวข้อ ความร่วมมือ ความสามัคคี และบรรยากาศการทำงานที่เกื้อกูลและสนับสนุนกัน รวมถึงการสื่อสารที่เปิดกว้างและเคารพในความหลากหลาย ผลสำรวจเผยว่า ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ได้รับคะแนนความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยมีค่าเฉลี่ยสูงถึง 81% ตลอดช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา (2564-2567) แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของพนักงาน วัฒนธรรมการทำงานเป็นทีมที่ส่งเสริมให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้อย่างเปิดเผยในบรรยากาศที่เปิดกว้าง ส่งผลให้เกิดความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ การยอมรับและพร้อมสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถือเป็นรากฐานและแรงผลักดันสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทุกคนพร้อม “เติบโตไปด้วยกัน” อย่างมั่นคงและมีความหมาย
รางวัลอันทรงเกียรตินี้นับเป็นบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทำงานในยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้องค์กรมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็น “สถานที่ทำงานที่เปิดกว้าง ให้ทุกคนมีส่วนร่วมและเติบโตไปด้วยกัน” (The Inclusive Place to Work For) ของพนักงานอย่างแท้จริง