‘ปิดสวิตช์ชินวัตร’ #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

สับสวิตช์ไปแล้วครับ…

ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต เลิกส่งน้ำมันไปเมียนมา

เป็นการ “ปิดสวิตช์” ของแท้ ไม่ใช่วาทกรรม แต่จะยุติกิจกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้จริงหรือเปล่า เอาไว้รอดูกัน

๕ จุดที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตัดไฟ มีดังนี้

๑.จุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู รัฐมอญ

๒.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน

๓.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน

๔.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ ๒-เมืองเมียวดี

๕.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง-เมืองเมียวดี

เรียบร้อยครับ!

ดับทั้งเมือง

บรรยากาศแถวท่าขี้เหล็ก เชียงตุง รัฐฉาน กลายเป็นว่า ชาวเมียนมา ชาวไทใหญ่ รัฐฉาน แห่กันไปเติมน้ำมัน จนหมดปั๊ม

แถมราคาแพงลิ่ว!

สรุปชาวบ้านธรรมดาเดือดร้อนก่อนใคร

ส่วนแก๊งคอลเซ็นเตอร์เห็นข่าวซุบซิบในโซเชียลว่า ตุนน้ำมันไว้พอสมควรแล้ว ส่วนไฟฟ้าเอาจากลาว สำหรับอินเทอร์เน็ตของเมียนมาเอง พอกล้อมแกล้ม

ไม่ถึงกับทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หยุดได้ในทันทีทันใด

ระยะสั้นพอไหว

ระยะยาวต้องย้ายฐานการหลอกหลอนไปประเทศอื่น เช่น ลาว กัมพูชา

แต่มันก็มีคำถามคือ เราจะตัดไฟตัดเน็ตเลิกส่งน้ำมันให้เมียนมานานเท่าไหร่

เท่าที่ฟัง “อนุทิน ชาญวีรกูล” มือสับสวิตช์ เบื้องต้นได้ความว่า “ยุติ”

“…วันนี้รัฐบาลสั่งให้หยุด เพราะเมียนมานำกระแสไฟฟ้าไปใช้ที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อไทยด้วย เขาจึงต้องไปแก้ไขและต้องมีการเจรจาใหม่

กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งว่าจะเป็นผู้ไปประสานกับรัฐบาลเมียนมาเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการตัดกระแสไฟฟ้า

การดำเนินการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามสัญญาข้อที่ ๑๔ ที่กำหนดว่าหากจ่ายไฟฟ้าไปแล้วเกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงานและความมั่นคงของชาติไทยสามารถงดจ่ายไฟได้…”

ก็ชัดเจนนะครับ เลิกส่งไฟเข้าเมียนมา จนกว่าจะมีการเจรจาขอซื้อกระแสไฟฟ้าใหม่

เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเมียนมาแล้วล่ะครับ ว่าจะเอาไง

หากเจรจากันใหม่ ก็ต้องชัดเจนว่า ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต น้ำมัน จะไม่ถูกนำไปใช้ในกิจการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ก็น่ากังวลแทนนะครับว่า ประเทศเมียนมาซึ่งการบังคับใช้กฎหมายยังด้อยกว่าไทยมาก จะควบคุมได้หรือไม่

นึกภาพฝั่งไทยเองก็มีเจ้าหน้าที่รัฐเห็นแก่เงิน การบังคับใช้กฎหมายหย่อนยาน แต่กุลีกุจออำนวยความสะดวกให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งเมียนมา

คูณสองคูณสามเข้าไป ผลลัพธ์ที่ได้คือเจ้าหน้าที่รัฐฝั่งเมียนมา

นี่แหละครับผลของการมีรัฐบาลห่วย ประชาชนรับกรรมแทน

รัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ ประเทศเพื่อนบ้าน หลับตาข้างเดียวมาตลอด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่มีสำนักงานในบ่อนกาสิโน

เป็น “เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ตามแบบฉบับ เมียนมา ลาว กัมพูชา

จีนเทาพรึ่บ! ไปหมด

ตั้งแต่ เถ้าแก่ ยัน เสี่ยวเอ้อ

เห็นรัฐบาลไทยขันแข็งจะเป็นเจ้ามือกาสิโน พนันออนไลน์แล้ว ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า บรรดา จีนเทา ธุรกิจสีเทา จะข้ามเข้ามาในไทยได้ง่ายขึ้นหรือเปล่า

ไทยจะเป็นฮับการฟอกเงินสีเทาหรือไม่

รัฐบาลไทยอ้างว่าใช้ เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ของสิงคโปร์เป็นโมเดลในการเปิดดำเนินการ

ขณะที่สิงคโปร์กลับเจอปัญหาจากการเปิดกาสิโน จนต้องออกมาตรการมาแก้ปัญหาเป็นระยะๆ นั่นหมายความว่า มีปัญหา

ผลการสำรวจของสิงคโปร์สะท้อนว่า ประชาชนที่มีรายได้ต่ำทุ่มเงินไปกับการพนันมากขึ้น

วางเดิมพันก้อนใหญ่ขึ้น

นักพนันหน้าเดิมเล่นพนันบ่อยขึ้น

และมีคนขอคำปรึกษาเกี่ยวเนื่องกับปัญหาการพนันมากขึ้น

ทำให้รัฐบาลต้องเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องนี้ ด้วยการห้ามผู้ล้มละลายหรือผู้ที่พึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐเข้ากาสิโน

เพิ่มโทษทางวินัยแก่ผู้ดำเนินงานกาสิโนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

รวมถึงจำกัดสินเชื่อสำหรับนักพนัน และกำลังพิจารณามาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมจากกฎที่เคยห้ามกาสิโนโฆษณาพุ่งเป้าไปที่คนท้องถิ่น

และจำกัดหน้าม้าที่หานักพนันกระเป๋าหนักเข้ากาสิโน

นี่ขนาดสิงคโปร์ มีกฎหมายกาสิโนที่มีความเข้มงวดมากที่สุดในโลก

ให้อำนาจรัฐบาล ตรวจสอบประวัติของผู้ประกอบการและพนักงานทุกคนว่าเคยเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม หรือการฟอกเงินใดๆ มาก่อนหรือไม่

ก็ไม่วายเกิดปัญหาให้ตามแก้ไข

แล้วกาสิโนไทยจะออกมาในสภาพไหน

ประเทศไทยมีปัญหาการบังคับใช้กฎหมายในขั้นรุนแรง และเป็นบ่อเกิดของการคอร์รัปชันแทบจะทุกหย่อมหญ้า

ดูได้จากดัชนีคอร์รัปชันประเทศไทยแต่ละปี รั้งไปทางปลายแถวอยู่เสมอ

การเอาธุรกิจการพนันขึ้นมาไว้บนดิน หวังว่าจะโกยเม็ดเงินเข้ารัฐเป็นกอบเป็นกำ

ขณะที่วงจรของการพนันคือบ่อเกิดของปัญหาสังคมและเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ดีสุดหากมีกาสิโน ก็แค่เสมอตัว

เพราะแม้จะได้เม็ดเงินก้อนโต แต่รัฐก็ต้องใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจสังคมในสัดส่วนที่ไม่แตกต่างกันนัก

ครับ…วันนี้ “ปิดสวิตช์” ไม่ส่งไฟฟ้าให้เมียนมาแล้ว

วันหน้าอาจต้อง “ปิดสวิตช์รัฐบาลชินวัตร” หากรัฐบาลยังดึงดันใช้นโยบายฟอกธุรกิจสีเทา มาสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
กรมควบคุมโรค เตือนผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ช่วงปิดสถานศึกษาเพื่อลดการติดเชื้อโควิด 19 ไม่ให้เข้าถึงแหล่งน้ำตามลำพัง เพื่อป้องกันเด็กจมน้ำ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ช่วงปิดสถานศึกษาเพื่อลดการติดเชื้อโควิด 19 หาพื้นที่เล่นที่ปลอดภัยให้กับเด็ก ระมัดระวังไม่ให้เด็กเข้าถึงแหล่งน้ำตามลำพัง ประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝน อาจทำให้ระดับน้ำเปลี่ยน ขอบบ่อลื่น เด็กเสี่ยงตกน้ำและจมน้ำเสียชีวิตได้
Read More
0 replies on “‘ปิดสวิตช์ชินวัตร’ #ผักกาดหอม”