ผักกาดหอม
อืมมมมมม….
ถ้าเอาตาม “ป้ารานี” เมียสุดเลิฟของ “ลุงวุ้นเส้น” ว่า ไทยคงต้องยกดินแดนให้เขมรไปค่อนประเทศ ถึงขั้นต้องผ่าประเทศไทยออกเป็น ๒ ท่อนด้วยซ้ำ
“…บรรดาปราสาทตามแนวชายแดนเหล่านี้ ปู่ย่าตายายของคนไทยรุ่นไหนเป็นคนสร้างไว้?…”
“บุน รานี” พูดไปเช็ดน้ำตาไป
แล้วบอกว่า… “…ประชาชนไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่กลับต้องรับเคราะห์เพราะเหตุการณ์นี้…”
ก็คงหมายถึงประชาชนชาวกัมพูชา หาใช่ประชาชนคนไทยไม่
ไม่ผิดอะไรครับ เป็นการปลุกกระแสชาตินิยม ปกติธรรมดาของบรรดาชนชั้นนำกัมพูชาที่นำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และครั้งนี้ก็นำมาใช้อีกครั้ง
หากต้องคืนปราสาททั้งหมด ไทยคงต้องสูญเสียดินแดนภาคกลาง รวมทั้ง กทม. และภาคอีสานเกือบทั้งหมดให้กัมพูชา
เพราะ “ป้ารานี” คงเคลมเอาปราสาทเมืองสิงห์ ที่จังหวัดกาญจนบุรีไปด้วย
ถ้าจะยึดการแบ่งดินแดนโบราณ ก็คงต้องเป็นแบบนั้นครับ
แต่ ณ ขณะนี้ พ.ศ. ๒๕๖๘ อาณาเขตประเทศยุคใหม่ มีกติกาสากลที่ต้องยึดถือ ไม่ใช่ที่ไหนมีปราสาทที่นั่นต้องเป็นดินแดนกัมพูชา
การที่สตรีหมายเลขหนึ่งของกัมพูชาออกมาพูดเช่นนี้ มีแต่จะเติมเชื้อเพลิงเข้ากองไฟ เพราะฝ่ายไทยก็จะอ้างได้เช่นกันว่า ในสมัยพระเจ้าอู่ทองแห่งกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรขอมพระนครก็ถูกกองทัพกรุงศรีอยุธยา ที่นำโดยขุนหลวงพระงั่วซึ่งเป็นพี่เมียของพระเจ้าอู่ทองยกทัพโจมตียึดเป็นเมืองขึ้น
การที่กองทัพสยามตีเมืองพระนคร (นครวัด) แตก ทำให้เขมรสิ้นอาณาจักร และอยู่ในการปกครองของไทยเรื่อยมาตั้งแต่สมัย อยุธยา กรุงธนบุรี ถึงกรุงรัตนโกสินทร์
ไทยอ้างตามนี้บ้างก็คงจะได้
หรือจะเอาพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ คืนเพราะเคยเป็นของไทย แต่ถูกฝรั่งเศสบีบเอาไป
มันไม่จบหรอกครับ ฉะนั้นทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกาแบ่งปันประเทศในโลกยุคปัจจุบัน
อีกอย่างคนสร้างปราสาทคือขอมโบราณ ก็มิใช่เขมรในปัจจุบันแต่อย่างใด เรื่องนี้จึงเป็นการปลุกกระแสรักชาติโดยไม่อิงกับข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
ครับ…กระบวนการเจรจาหยุดยิงเริ่มขึ้นแล้ว บนความห่วงใยว่า “ภูมิธรรม เวชยชัย” หุ่นเชิดของ “ทักษิณ ชินวัตร” จะสามารถสงบศึก หรือก่อปัญหาเพิ่ม
ว่ากันตามเนื้อผ้า ขณะนี้มีคนไม่ไว้ใจนักการเมืองเยอะ โดยเฉพาะ “ภูมิธรรม” ว่าจะไปเจรจาจนทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายหรือไม่
เพราะเขมรยังไม่เลิกยิง!
จากรายงานของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๒ เขา สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ (ณ เวลา ๑๒.๐๐ น. ) ไว้ดังนี้ครับ
สถานการณ์การสู้รบ เวลา ๑๒.๐๐ น. ฝ่ายกัมพูชา ระดมยิง BM-21 หลายแนวรบ โดยเฉพาะ เนิน ๖๗๗, ภูผี, ผามออีแดง-พระวิหาร และภูมะเขือ นอกจากนั้นยังพบ ความเคลื่อนไหวระบบขีปนาวุธ PHL-03 ในพื้นที่สนามบินสำโรง จ.อุดรมีชัย
ฝ่ายเรา ตอบโต้ตามระดับภัยคุกคามอย่างเท่าเทียม จนถึงการใช้อาวุธต่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่ช่องบก, ช่องอานม้า, ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม อีกส่วนเกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์-พบกลุ่มแฮกเกอร์ชาวกัมพูชาเจาะระบบของส่วนราชการต่างๆ ผ่าน CORS/N C D C
นอกจากนั้น ยังตรวจพบทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในพื้นที่แนวหน้า ขณะที่ฝ่ายเราเข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อวางกำลัง
การปะทะสำคัญ ในพื้นที่ช่องอานม้า, ภูผี และภูมะเขือ ปะทะหนัก ฝ่ายไทย-ฝ่ายกัมพูชา ยิง ป., ค.ตอบโต้ตลอดคืน บาดเจ็บหลายราย
ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย ฝ่ายกัมพูชายังคงมีความมุ่งมั่นในการยึดรักษาและพยายามเข้าควบคุมพื้นที่ พบการรวมกำลังและเพิ่มเติมกำลังขึ้นมาจากพื้นที่ตอนในของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ยังปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชามีการยิงพลาดใส่ฝ่ายเดียวกัน ในพื้นที่ช่องอานม้าและผามออีแดง ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่มีการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาหลายหน่วย ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการติดต่อสื่อสาร
เวลา ๑๖.๓๐ น. (๒๗ ก.ค. ๖๘) ฝ่ายไทยได้ส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตชาวกัมพูชา จำนวน ๑๒ นาย ที่เสียชีวิตจากการสู้รบ ในพื้นที่ภูมะเขือกลับแผ่นดินเกิดตามหลักมนุษยธรรม
แนวโน้มสถานการณ์ต่อไป
-ฝ่ายกัมพูชามีแนวโน้ม ใช้อาวุธยิงระยะไกลในพื้นที่ทางลึก
-มีแนวโน้มการปะทะยังคงรุนแรง โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า, ภูผี, ภูมะเขือ, ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย รวมทั้งต้องเฝ้าระวังภัยไซเบอร์ และการแทรกซึมของสายลับจากกัมพูชา
เรื่องอื่นๆ
๑.ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของส่วนราชการในพื้นที่ ติดตามข่าวสาร และการแจ้งเตือน จากช่องทางประชาสัมพันธ์ที่เป็นทางการ หรือส่วนราชการในพื้นที่ และขอความร่วมมือไม่แชร์ข้อมูลจากแหล่งที่มา ข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบยืนยันจากทางการ
๒.ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีกระสุนปืนใหญ่หรือวัตถุระเบิดตกค้าง อย่าเข้าใกล้หรือเก็บไป เพราะเป็นอันตราย และเป็นหลักฐานสำคัญในกระบวนการยุติธรรมระดับนานาชาติ
ครับ…จะเห็นได้ว่าทหารเขมรยังไม่ยอม หากฝ่ายทหารไทยถูกรัฐบาลสั่งให้ถอนตัวจากพื้นที่ปะทะโดยอ้างผลการเจรจา มีความเสี่ยงสูงที่ทหารกัมพูชาจะรุกคืบเข้ามา โดยเฉพาะพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม เพราะกัมพูชาไม่มีอะไรให้น่าเชื่อถืออีกต่อไปแล้ว
สงครามไม่มีใครอยากให้เกิดเพราะมีแต่ความสูญเสีย
แต่กับเพื่อนบ้านหน้าไหว้หลังหลอก ปลิ้นปล้อน คิดแต่จะอาเปรียบ แม้ผลการเจรจาจะออกมาว่าหยุดยิงตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๐ น. วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ก็ไม่อาจวางใจได้
ยิ่งหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข แล้วชาวบ้านตายฟรีหรือเปล่า
รัฐบาลอย่าเพิ่งสั่งทหารออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด!
การเจรจารายละเอียดหลังจากนี้ ต้องให้รัฐบาลเขมร ชดใช้ความสูญเสียและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับราษฎรไทย อย่าปล่อยให้เรื่องผ่านไปแบบเงียบๆ อย่างเด็ดขาด!
แต่หากภาพมันออกมาว่า “ทักษิณ- ฮุน เซน” จูบปากสงบศึก กลับคืนดีกัน
ตระกูลชินวัตร จะต้องถูกจารึกไว้ในบัญชีหนังหมา ในฐานะต้นตอความขัดแย้ง ที่นำไปสู่การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรไทยตามแนวชายแดน
ประชาชนมีหน้าที่ต้องจดจำหน้าตัวละครฝั่งไทยเอาไว้ อย่าให้กลับมามีอำนาจอีก
ความสงบสุขถึงจะบังเกิด
