สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ยืนหยัดและมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยอย่างต่อเนื่องท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

Due to copyright and contractual restrictions, this image can only be used by UNHCR, its national partners and market affiliates for fundraising purposes and social media campaigns. These images can only be used directly in relation to the Coronavirus appeal. They can only be used in the following cases: - Publication on UNHCR and associated websites - Inclusion in an email banner inserted in correspondence sent to donors by the UNHCR or associates - On UNHCR-held social media accounts or digital platforms In all cases, the copyright © Ritzau Scanpix must be clearly indicated on or in reference to the image. Since these images are limited to 12 months' usage, they cannot be used in annual reports, brochures or any print materials with an extended shelf life. A Syrian refugee woman puts a face mask on a boy as a precaution against the spread of coronavirus, in al-Wazzani area, in southern Lebanon ;

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผยมาตรการต่อเนื่องในการตอบสนองในพื้นที่การทำงานต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส

ผมมีความกังวลอย่างมากต่อการแพร่ระบาดของไวรัสทั่วโลกอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ตลอดจนผลกระทบที่เกิดต่อผู้ลี้ภัยและชุมชนที่ให้ที่พักพิง วิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการทำงานในพื้นที่ของเรา ทำให้เราต้องเร่งปรับแนวทางการทำงานอย่างรวดเร็ว ถึงจะเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่เราไม่เคยลดความมุ่งมั่นในการมอบความคุ้มครองและปกป้องผู้ลี้ภัยอย่างสุดกำลัง’’ นายฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กล่าว

 สิ่งสำคัญลำดับแรกของเราในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คือการทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลในความห่วงใยของเราทุกคนได้รวมอยู่ในแผนการตอบสนองของแต่ละประเทศและให้พวกเขาได้รับทราบข้อมูลอย่างเหมาะสม โดยที่เราได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่หากรัฐบาลต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการเตรียมความพร้อมและตอบสนองต่อสถานการณ์นี้’’ นาย กรันดี เสริม

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 UNHCR เปิดระดมทุนกว่า 255 ล้านเหรียญสหรัฐ สนับสนุนแผนงานระดับโลกด้านมนุษยธรรมเพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19 ของสหประชาชาติ เพื่อมุ่งช่วยเหลือประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษอย่างเร่งด่วนที่สุด

 แม้ว่าจำนวนรายงานการติดเชื้อและการยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้ลี้ภัยยังมีอยู่ในขั้นต่ำ แต่มากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในประเทศทั่วโลกพักพิงอยู่ในประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงน้อย ซึ่งมีระบบสาธารณสุข น้ำสะอาด และระบบสุขาภิบาลที่ไม่เพียงพอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

นาย กรันดี ยังเสริมอีกว่า มีผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในประเทศอีกมากที่อาศัยอยู่ในค่ายพักพิงที่หนาแน่นหรือในเขตเมืองที่ทุรกันดาร โครงสร้างด้านสาธารณสุขและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านน้ำสะอาด สุขาภิบาล และสุขอนามัย (WASH) มีจำกัด มาตรการการป้องกันในพื้นที่เหล่านี้จึงมีความสำคัญยิ่ง

มาตรการตอบสนองในพื้นที่การทำงานของ UNHCR รวมถึง

·    การเสริมสร้างระบบและบริการด้านสาธารณสุขและโครงการ WASH รวมถึงการแจกจ่ายสบู่และเพิ่มการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด

·   การสนับสนุนรัฐบาลในการป้องกันการติดเชื้อและรับมือด้านสาธารณสุข รวมถึงการจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์

·    การแจกจ่ายที่พักพิงและสิ่งของบรรเทาทุกข์

·    การนำเสนอแนวทางและข้อมูลตามจริงของมาตรการการป้องกัน

·    การเพิ่มเติมการสนับสนุนทางการเงินเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19

·    การติดตามอย่างใกล้ชิดและเข้าช่วยเพื่อให้แน่ใจว่าสิทธิของผู้พลัดถิ่นจะได้รับการเคารพอย่างเท่าเทียม

ในประเทศบังคลาเทศ เจ้าหน้าที่ในหน่วยสาธารณสุขของค่ายผู้ลี้ภัยที่มีชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นกว่า 850,000 คน ได้เริ่มการฝึกอบรมโดยมีผู้ลี้ภัยอาสามากกว่า 2,000 คนที่ทำงานร่วมกับชุมชนและผู้นำทางศาสนาร่วมกันเผยแพร่มาตรการการป้องกันที่สำคัญต่างๆ แก่ผู้ลี้ภัยผ่านทางสปอตวิทยุ วีดีโอ โปสเตอร์ และใบปลิวรณรงค์ในภาษาท้องถิ่น ได้แก่ ภาษาโรฮิงญา เมียนมา และเบงกาลี นอกจากนี้ยังมีมาตรการในการจัดหาสบู่และน้ำสะอาดแก่ผู้ลี้ภัยทุกคน โดยกำลังเพิ่มจุดล้างมือและสนับสนุนการก่อสร้างสถานที่รักษาและแยกตัวแห่งใหม่สำหรับผู้ลี้ภัยและชุมชนต่างๆ ที่ให้ที่พักพิงโดยรอบ

ในประเทศกรีซ UNHCR เร่งการสนับสนุนแก่หน่วยงานต่างๆ เพื่อเพิ่มการแจกจ่ายน้ำสะอาดและระบบสุขาภิบาล จัดส่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย และจัดหาจัดตั้งหน่วยแพทย์ รวมถึงพื้นที่คัดกรองโรค แยกตัวสังเกตอาการ และกักตัว UNHCR ยังได้อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ขอลี้ภัยผ่านโทรศัพท์สายด่วนโดยจัดหาผู้ลี้ภัยที่อาสาทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษา นอกจากนั้น UNHCR ยังกระตุ้นหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอโยกย้ายผู้ขอลี้ภัย 35,000 คนจากศูนย์แรกรับที่หนาแน่นบนเกาะให้เหลือน้อยกว่า 6,000 คน

ในประเทศจอร์แดน มีการตรวจวัดอุณหภูมิที่ทางเข้าค่ายผู้ลี้ภัยซาตารี (Zaatari) และอัซรัค (Azraq) พร้อมการรณรงค์แคมเปญภายในค่ายเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส มีการเพิ่มการจ่ายไฟฟ้าและขยายเวลาเปิดร้านค้าเพื่อหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม

มีการจัดจุดล้างมือและตรวจวัดอุณหภูมิที่ทางเข้าของศูนย์พักพิง ศูนย์แรกรับ และหน่วยแพทย์ต่างๆ ในบริเวณที่พักพิงและค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศเอธิโอเปียและยูกันดา

ในประเทศซูดาน UNHCR ได้จัดส่งสบู่ให้ผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นในประเทศ และสมาชิกในชุมชนที่ให้ที่พักพิงมากกว่า 260,000 คน UNHCR ร่วมกับหน่วยงานของสหประชาชาติและกระทรวงสาธารณสุข รณรงค์แคมเปญอย่างจริงจังในหลายภาษาเพื่อสร้างความตระหนัก โดยส่งข้อความกว่า 15,000 ข้อความไปหาผู้ลี้ภัยในเขตเมืองคาร์ทูม (Khartoum) เพื่อประชาสัมพันธ์การดูแลสุขภาพและวิธีป้องกันตนเองที่ถูกต้อง

มาตรการการป้องกันในค่ายผู้ลี้ภัยและพื้นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นในประเทศในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและประเทศบูร์กินาฟาโซ มีการจัดตั้งจุดล้างมือ แจกจ่ายสบู่และอุปกรณ์ทำความสะอาด และการประชาสัมพันธ์อย่างครอบคลุมทั้งทางสื่อสิ่งพิมพ์ สปอตวิทยุ และผ่านเครือข่ายชุมชน

ในประเทศบราซิล UNHCR และองค์กรพันธมิตรได้สร้างบริเวณแยกตัวบุคคลที่อาจติดเชื้อในเมืองบัววิสตา (Boa Vista) สำหรับผู้ลี้ภัยและผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาและพลเมืองท้องถิ่น และมีการแจกจ่ายผลิตภัณฑ์สุขอนามัย 1,000 ชุดแก่ชนพื้นเมืองในเมืองเบเลง (Belem) และซังตาเรย์ (Santarem)

UNHCR ยังทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติเพื่อร่วมหาทางออกในการขนส่งที่เป็นไปได้อย่างยากลำบากเนื่องจากการชะงักตัวของการผลิตและการปิดชายแดนในประเทศต่างๆ เราจึงต้องเร่งการจัดซื้อในระดับท้องถิ่นและภูมิภาคเพื่อทำการขนส่งทางอากาศ เมื่อไม่นานมานี้อุปกรณ์การช่วยเหลือฉุกเฉินและอุปกรณ์การแพทย์กว่า 100 ตันได้ถูกลำเลียงทางอากาศไปยังประเทศชาดและอิหร่าน

เราจะขยายการเข้าช่วยเหลือในภาคสนามต่อไป แต่เราไม่สามารถทำภารกิจที่สำคัญนี้ได้เพียงลำพัง ตอนนี้เราต้องการเงินสนับสนุนอย่างเร่งด่วนเพื่อดำเนินการต่อ พร้อมกับการทำงานด้านมนุษธรรมเดิมที่ทำอยู่แล้ว ความร่วมมือในระดับนานาชาติอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวคือสิ่งที่เราต้องการและสำคัญที่สุดในขณะนี้” นาย กรันดี สรุป

UNHCR ประจำประเทศไทย ยังคงทำงานร่วมกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งแผนเตรียมความพร้อม ป้องกัน และตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 เพื่อการรับมือด้านสาธารณสุขในกลุ่มบุคคลในความห่วงใยอย่างทันท่วงที รวมถึงการทำงานเชิงรุกในการเพิ่มมาตรการป้องกันสำหรับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ด้วย

ติดตามเรื่องราวผู้ลี้ภัย เจ้าหน้าที่ และผู้สนับสนุนของเราทั่วโลกในการให้ความช่วยเหลืออย่างมีเมตตาที่ Live Blog: Refugees in the COVID-19 crisis และร่วมบริจาคปกป้องผู้ลี้ภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ที่เว็บไซต์ http://unh.cr/5e79d6bf98

 

Written By
More from pp
สุชาติ เร่งเครื่องแก้ค้ามนุษย์ส่งทีมลงใต้สอบสวนคัดแยกเหยื่อบังคับใช้กม.จริงจัง
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.รง. ส่งมือดีนายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา บูรณาการการทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ สอบสวนคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ด้านแรงงาน บังคับใช้กฎหมาย แก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง
Read More
0 replies on “สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ยืนหยัดและมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยอย่างต่อเนื่องท่ามกลางวิกฤตโควิด-19”