‘กมธ.ศึกษาฯสถานบันเทิงครบวงจร สว.’ จับพิรุธ ‘รัฐบาล’ เร่งตั้ง ‘กาสิโนถูกกฎหมาย’ เข้าข่ายทำผิดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ขู่เจอยื่นศาลรธน.แน่ หากมีการเสนอร่างกฎหมาย ตะเพิดถอนกฎหมายออกจากวาระ แล้วค่อยเสนอมาใหม่ หากรอบหน้าได้กลับมา

26 มิถุนายน 2568 เมื่อเวลา13.00น. ที่รัฐสภา นายวีระพันธ์ สุวรรณามัย สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แถลงถึงผลการพิจารณาศึกษานโยบายเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาลว่า จากที่กมธ.ศึกษาและเชิญบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบข้อสังเกต ข้อพิรุธมากมาย หากเดินหน้าเสนอกฎหมายดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อประเทศ

กมธ.มีข้อกังวลคือ 1.การทำผิดรัฐธรรมนญหลายมาตราได้แก่ มาตรา3 วรรค2 มาตรา58 มาตรา63 มาตรา65 ในกมธ.มีการเสนอหลายครั้งว่า หากจะเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องใช้คำว่ากาสิโนลงไปด้วยให้ชัดเจน หากไม่มีอาจผิดเชิงนโยบาย เพราะการแถลงนโยบายของรัฐบาลบอกแค่จะเป็นสถานบันเทิงครบวงจร ไม่มีกาสิโน และคำว่ากาสิโนเกิดขึ้นภายหลัง อาจเข้าข่ายผิดยุทธศาสตร์ชาติด้วย มีความเป็นไปได้ว่า หากมีการเสนอร่างกฎหมายนี้เข้า อาจมีผู้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวผิดรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา 2.ด้านเศรษฐกิจ ได้เชิญสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)มาให้ข้อมูลยืนยันการมีกาสิโนไม่ช่วยให้จีดีพีประเทศเพิ่มขึ้น ขณะนี้ธุรกิจการพนันเป็นขาลง แต่ประเทศไทยกำลังจะดำเนินการธุรกิจขาลง จะได้ไม่คุ้มเสีย รายได้ของธุรกิกาสิโนตกอยู่ที่นายทุน ไม่ได้ตกกับรัฐ มีแนวโน้มเงินรั่วไหลออกไป

นายวีระพันธ์ กล่าวต่อว่า 3.ด้านสังคม การระบุว่าการตั้งกาสิโนถูกกฎหมาย จะแก้ปัญหาการธุรกิจใต้ดินได้ แปลว่าคนไทยต้องเล่น แต่รัฐบาลอ้างว่า จะให้คนมีเงินฝากมากกว่า 50ล้านบาท เข้าไปเล่นกาสิโนได้ แต่ประเทศไทย คนที่มีเงินฝากมากกว่า 50ล้านบาท มีแค่ 10,000บาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนหมื่นคนจะเข้าไปเล่นทั้งหมด ทั้งนี้กมธ.พบข้อพิรุธการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้คือ มีความเร่งรีบผิดปกติผลักดันกฎหมายเข้าสภา แม้จะมีข่าวจะเลื่อนร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เมื่อเปิดสมัยประชุมสภา วันที่ 3ก.ค. แต่ไม่แน่ใจ จะเลื่อนจริงหรือไม่ ทางที่ดีควรถอนออกไปเลย หากได้กลับมาเป็นรัฐบาลค่อยเสนอร่างกฎหมายตัวนี้กลับเข้าอยู่ในนโยบายรัฐบาลอีกครั้ง อีกทั้งกฎหมายนี้ออกแบบให้คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจล้นฟ้า ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจอนุมัติทุกขั้นตอน ทั้งจำนวนเงินสถานที่ตั้ง ค่าธรรมเนียม ขัดกับหลักการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ และให้ยกเว้นกฎหมายสำคัญเช่น กฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎหมายผังเมือง กฎหมายการมีส่วนร่วม ที่เป็นกลไกหลักตรวจสอบสิทธิมนุษยชนและชุมชน รวมทั้งไม่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อการจัดตั้งสถานที่ แม้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุว่า ยังไม่มีการกำหนดสถานที่ตั้งเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่เอกชนที่มีแนวโน้มจะมาลงทุนธุรกิจนี้ต่างทราบแล้วว่า จะมีสถานที่ตั้งอยู่กทม.2 แห่ง เชียงใหม่ 2แห่ง พัทยา 1แห่ง ภูเก็ต 1แห่ง มีการเก็บภาษี 17% ต้องรอดูจะเป็นจริงตามนี้หรือไม่ ถ้าเก็บภาษี 17% ถือว่าน้อยมาก ทำให้เราไปอยู่ในกลุ่มกัมพูชา ฟิลิปปินส์ที่เก็บภาษีน้อย เพราะประเทศที่เจริญแล้วอย่างมาเก๊าและญี่ปุ่นเก็บภาษี 35-40% ซึ่งเอกชนประเมินไว้แล้ว หากมีคนไทยมาเล่นน้อยกว่า 50% ก็ไม่คุ้มที่จะลงทุนตัวเลขเหล่านี้เอกชนได้อย่างไร ถ้าไม่ได้มาจากคนกำหนดนโยบาย

นายวีระพันธ์ กล่าวด้วยว่า กมธ.มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลคือ รัฐบาลไม่ทำตามขั้นตอนการเสนอกฎหมายคือ ไม่รับฟังความคิดเห็น สร้างความเข้าใจกับประชาชน การกำหนดพื้นที่เพื่อศึกษาผลกระทบในทุกมิติ การไม่พิจารณากฎหมายระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน แต่กลับไปเขียนร่างกฎหมายก่อน ถือเป็นการเร่งรีบ ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่า ได้ทำประชาพิจารณ์สอบถามความเห็นประชาชนแล้ว พบว่า มีคนเห็นด้วย80%นั้น การทำประชาพิจารณ์กับประชามติเป็นคนละเรื่องกัน การทำประชาพิจารณ์ไม่สามารถกำหนดเป็นตัวเลขได้ดังนั้นตัวเลขดังกล่าว รัฐบาลกำลังทำให้ประชาชนเข้าใจผิด โดยกมธ.จะนำข้อเสนอ ข้อสังเกต และข้อพิรุธต่างๆเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 7ก.ค.นี้ ทันทีที่เปิดประชุมสภาฯรอบใหม่

Written By
More from pp
เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้ามอบความสุข บริจาคเงินรวม 2.5 ล้านบาทให้กับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ เพื่อใช้ในการผ่าตัด มอบหัวใจใหม่ให้เด็กๆ จากแคมเปญ “Hi! ใจ ส่งต่อความสุขไม่รู้จบ”
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  พร้อมคณะผู้บริหารเซ็นทรัล รีเทล มอบเงินบริจาคจากแคมเปญ...
Read More
0 replies on “‘กมธ.ศึกษาฯสถานบันเทิงครบวงจร สว.’ จับพิรุธ ‘รัฐบาล’ เร่งตั้ง ‘กาสิโนถูกกฎหมาย’ เข้าข่ายทำผิดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ขู่เจอยื่นศาลรธน.แน่ หากมีการเสนอร่างกฎหมาย ตะเพิดถอนกฎหมายออกจากวาระ แล้วค่อยเสนอมาใหม่ หากรอบหน้าได้กลับมา”