เปลว สีเงิน
“วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ค่ะ”
“ไม่ใช่ที่เราจะต้องมาสู้กันเองนะคะ”
ก็อยากบอกอุ๊งอิ๊งว่า….
วันนี้ ไม่มีคนไทยทะเลาะกัน ยามชาติไม่ปลอดภัยจาก “นายกฯไส้ศึก” ยิ่งทำให้คนไทย “รักกันเหนียวแน่น” มากยิ่งขึ้น
และก็ไม่มีคนไทยคนไหนออกมาต่อสู้กันเอง
มีแต่คนไทย “รวมใจ” และ “รวมตีน” ออกมาขับไล่แพทองธาร “หลานฮุนเซน” ด้วยสามัคคี!
เราจะยอมให้ “นายกฯไทย-ใจเขมร” เป็นผู้นำบริหารประเทศต่อไปไม่ได้
เพราะจากพฤติกรรม ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
นายกฯ “ผู้แสดงตนเป็นปฎิปักษ์กับกองทัพ” คนนี้…..
จะไม่เอา “ความลับ” และ “ความมั่นคงของชาติ” ไปแลกกับผลประโยชน์ครอบครัว!
เมื่อวาน (๑๙ มิ.ย.) เห็นออกมายืนแถลง มีวอลเปเปอร์ไร้ราคาหน้าเดิมๆ ยืนประกบ ก็หลงดีใจ
นึกว่าจะแถลง “ขอลาออก” จากตำแหน่งนายกฯ เป็นการไถ่โทษ ที่มีพฤติกรรมเยี่ยง “ไส้ศึก”
กลับเป็นการออกมา “ขออภัย” ซึ่งช่างน่าผิดหวังในความเป็นผู้นำหญิงหนังหนายิ่งนัก
ทำตีหน้าเศร้า แล้วบอก….
“ดิฉันต้องขออภัยพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ดิฉันคุยกับผู้นํากัมพูชา
ก็จริงๆ เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทําให้เกิดความไม่สบายใจนะคะ
ตัวดิฉันเองได้คุยกับแม่ทัพภาคที่ ๒ แล้ว อธิบายถึงเจตนาว่าเป็นเพียงแทคติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่า
เราต้องแสดงความเข้าใจเค้าก่อน ก็เพื่อจะคุยถึง detail ต่อๆไป เพื่อเป็นการต่อรอง ให้การปะทะหยุดลง
อันนี้ คือความตั้งใจที่แท้จริงว่า ต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุข เท่านั้นเอง
แล้วก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่แบบนี้ ก็ได้ทําความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว ทางกองทัพก็รับฟัง ……ฯลฯ……
“อันนี้จริงๆ ทั่วโลกไม่มีใครทําแบบนี้นะคะ ที่ผู้นําคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่ๆ ที่มีการตกลงกัน หรือมีการพูดคุยเจรจาใดๆ เนี่ย
ถ้าไม่ได้บอกก่อนว่า จะมีการอัดคลิปเป็นการออฟฟิเชียลที่คุยกัน เช่น เวลาที่ทุกท่านเห็นว่า ดิฉันโทรไปแสดงความยินดีกับประเทศต่างๆ
เราก็จะติดต่อทางกระทรวงต่างประเทศเป็นโปรโตคอลที่ถูกต้อง แล้วก็ทราบว่ามีการอัดคลิปเกิดขึ้น
แต่แบบนี้เนี่ย เป็นการ “โทรคุยส่วนตัว” ดยมือถือส่วนตัวของดิฉันนะคะ เพราะฉะนั้น การกระทํานี้ ถือว่าไม่ควร เป็นที่ยอมรับต่อทั่วโลกอยู่แล้วค่ะ”
เวลานี้ประชาชนไม่ต้องการฟังคำแก้ตัวที่ “ยิ่งแก้-ยิ่งเข้าตัว”
มีคำเดียวเท่าที่นั้นที่ประชาชนรอฟังจากอุ๊งอิ๊ง คือ คำว่า
“ดิฉันขอลาออก”!
เพราะตัวนายกฯ และรัฐบาลเพื่อไทยเวลานี้ ไม่เป็นที่ไว้ใจของประชาชนในการบริหารแล้วว่า “บริหารเพื่อรักษาบ้าน-รักษาเมือง”
หรือบริหารเพื่อยกบ้าน-ยกเมืองให้ชาติอื่น ตามวิสัยพวก “ไส้ศึก”!
ในเมื่อนายกฯ ไทยไปพูดอย่างนี้ แล้วใครล่ะจะไว้ใจ?
“……….ไม่อยากให้ Uncle ไปฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา เพราะว่าพอไปฟังฝั่งตรงข้ามอย่างพวก “แม่ทัพภาค ๒” อย่างเนี้ยค่ะ “เป็นคนของฝั่งตรงข้าม” หมดเลย…”
นี่น่ะหรือ “แทคติกการสื่อสาร” ของอุ๊งอิ๊ง?!
ใช่….จริงอย่างอุ๊งอิ๊งว่า ทั่วโลกไม่มีใครเขาทำแบบนี้
คือ ไม่มีผู้นำคนไหนจะไปพูด “ขายกองทัพ-ขายทหาร” ให้กับคู่ศึกสงคราม
ก็เพิ่งมีรายแรก คือ “นายกฯไทย-ใจเขมร” คนนี้แหละ!
แต่การ “อัดคลิป” คู่สนทนาระหว่าง “ผู้นำ” ที่ไหนๆ ทั่วโลกเขาก็ทำกัน ถ้าเธอไม่เสร่อเอง คนที่สอนให้เธอออกมาพูดเช่นนี้ ก็เสร่อ
นี่…จะบอกให้สำนึก
เธออย่าไปโทษ-ไปตำหนิ “ลุงฮุน” ที่อัดคลิปเลย เดี๋ยวลุงฮุนแกโกรธ ย้อนมาให้อีกดอก ก็จะเสียทั้งเธอและพ่อ อายหมาทั้งคอกเปล่าๆ
โทษตัวอุ๊งอิ๊งเองนั่นแหละ ตำแหน่งใหญ่ แต่ไร้วุฒิภาวะ ทั้งไม่ประสี-ประสา คำถามแรกที่อุ๊งอิ๊งต้องตอบก่อน
ใครเป็น “หัวหน้ารัฐบาลเขมร”?
“ฮุนมาเนต” ใช่มั้ย?
ใช่
“ฮุนเซน” เป็น “ประธานวุฒิสภาเขมร” ใช่มั้ย?
ใช่
อ้าว…ทำไมอุ๊งอิ๊งไม่เจรจากับนายกฯ เขมรล่ะ กลับไปเจรจากับประธานวุฒิสภาเรื่องพิพาทชายแดน แบบนี้ มันบ่งบอกถึงอะไร?
คงเข้าใจว่าเหมือนรัฐบาลไทย ที่อุ๊งอิ๊งเป็นแค่ “นายกฯ หุ่น” ตัวมีอำนาจสั่งการรัฐบาลคือ “ทักษิณ”
เขมรก็เหมือนกัน ฮุนมาเนต แต่นายกฯ หุ่น ฮุนเซน คือนายกฯ สั่งการตัวจริง อุ๊งอิ๊งจึงโทรไปเจรจากับลุงฮุน
พิพาทชายแดนไทย-เขมร แทนที่แพทองธารจะโทรไปเจรจากับนายกฯ ฮุนมาเนต
แต่ดันโทรหาประธานวุฒิสภาฯ ถูกทางพฤตินัย มันผิดทางนิตินัย แต่ยึดเป็นใบสำแดงได้ว่า
“ความลับของชาติ” จากสัมพันธ์นัวเนียชนิดมีความนัยของ “สองตระกูล” นี้ ยากไว้วางใจ!?
เห็นได้จาก “อุ๊งอิ๊ง” ใช้คำว่า “ฝ่ายเรา” กับฮุนเซน
เมื่อพูดถึงแม่ทัพภาคที่ ๒ “พล.ท.บุญสิน พาดกลาง” ใช้คำว่าเป็น “ฝ่ายตรงข้าม!?
ซึ่งไม่ใช่ “แท็กตก-แท็กติก” ในการเจรจาอะไรหรอก ใจมันกระฉอก “ความจริง” ออกมาตะหาก!
ฮุนเซนอัดคลิป เรื่องธรรมดา
แต่นายกฯ ไทย พูดถึงนายทหารชาติตัวเองด้วยทัศนคติปฎิปักษ์ให้ฝ่ายตรงข้ามฟัง ทั้งเอาความลับทางยุทธวิธีไปบอก
อย่างนี้แหละ ศัพท์ทั่วๆ ไป เขาเรียกว่า “ขายชาติ”!
จะลับหรือแจ้ง ก็หาควรไม่…..
ที่ผู้นำบริหารประเทศ จะเอาความลับของชาติตัวเองไปบอกอีกฝ่าย และเรียกทหารชาติตัวเองว่า เป็น “ฝ่ายตรงข้ามกับเรา”!
ยิ่งอุ๊งอิ๊งอ้าง เป็นการโทรคุยส่วนตัวกับฮุนเซนทางมือถือ นั่นยิ่งร้ายใหญ่
เพราะโทรคุยส่วนตัว แต่กลับเอาเรื่อง “ส่วนประเทศ” ที่กำลังมีกรณีพิพาทไปคุยชนิด “แบกระด้ง” กับคนนอก
ก็แสดงว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและเป็นเรื่องแรกที่อุ๊งอิ๊งเอา “ความใน” ส่วนราชการไปบอกเขมร
เขมรจึง “รู้ความในเรา” มาตลอด แต่เราไม่เคย “รู้ความในเขา” เลย!
ไม่ต้องไปว่าเป็นแผนฮุนเซนหวังเสี้ยมให้คนไทยทะเลาะกันหรอก คนไทยขอบคุณฮุนเซนด้วยซ้ำที่เอาคลิปนี้มาแฉ เพราะทำให้ “รู้เช่น-เห็นชาติ” นายกฯ ตระกูลชิน
ส่วนทหารนั้น ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะโกรธรัฐบาลหรือนายกฯ แล้วยกเป็นเงื่อนไขปฎิวัติ-รัฐประหาร
“กองทัพ” ยุคนี้ เขาไม่เล่นการเมือง หากแต่เขา “อยู่เหนือการเมือง” ฉะนั้น จะรัฐประหารให้โง่ทำไม?
กองทัพเนี่ย เป็นของพระราชา
และพระราชา เป็นของประชาชน
สรุปแล้ว ประชาชนนี่แหละ เป็นตัวแทน ทำหน้าที่บริหาร-จัดการ “นักการเมือง” ที่นอกลู่-นอกทางและเป็นปฎิปักษ์กับชาติบ้านเมือง
เพื่อไทยจะตายอยู่วันนี้-วันพรุ่ง ยังไม่เตรียมซื้อโลง!
“นายภูมิธรรม” ยังจะมาคุย ว่าแม้ “ภูมิใจไทย” ถอนตัว เพื่อไทยก็จะเป็นรัฐบาลอยู่ได้ครบ ๔ ปี
ผมอยากให้พี่น้องไทยทุกคน ลืมตา-แหงนหน้า “มองโลก” วันนี้ ทุกภูมิภาคโลก คละคลุ้งกลิ่นอาย ความตาย สงคราม และการแย่งชิง
รัฐบาลเพื่อไทยวันนี้ อุ๊งอิ๊งแค่ “ตรายางก้นถังขยะ”!
ช่วยประเทศ ช่วยประชาชนคนไทยให้รอดจากสถานการณ์ “วิกฤตโลก-วิกฤตภายใน” ไม่ได้หรอก
“กองทัพ” มิติ “เหนือการเมือง” นั่นแหละ จะเป็นเสาค้ำชาติ เป็นกำแพงให้ประชาชนพิงหลัง
ช่วงนี้ ตาดูรัฐบาลผลาญ
ส่วนหู ต้องคอยฟัง “คำสั่งทหาร” บ้านเมืองถึงจะรอด!
เปลว สีเงิน
๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๘
