คลิกฟังบทความได้ที่…?
เปลว สีเงิน
จำไว้นะ…เศรษฐา!
อย่าให้ “คนดูชา-หมาดูถูกในวันข้างหน้าจนเป็น “เศรษฐถุย” ได้เป็นอันขาดเชียวนะ
ถ้าชนะ แล้วผิดคำพูด จากไปพูดที่วังสะพุง เลย ว่า
“มีคำถามตลอด พรรคเพื่อไทย จะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่?
พี่น้องอยากให้ไปร่วมหรือไม่?
พอแล้ว ๘ ปี ที่ผ่านมา ยืนยันชัดเจนว่า ไม่จับมือกับ ๒ พรรคนี้”
และไปยืดอกย้ำที่สุโขทัย ว่า
“ผมพูดชัดเจนไปเมื่อวานแล้วว่า เราจะไม่จับมือพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ
ดังนั้น ทางเดียวคือ เราต้องชนะให้แลนด์สไลด์…ฯลฯ…”
ที่ติงนี่ ก็ไม่ใช่อะไรหรอก………
เพราะ “เพื่อไทย” ยิ่งโม้ ยิ่ง “ลดราคา” ลงมาเรื่อยๆ จึงอยากย้ำหัวตะปูให้แน่ใจว่า
ถ้าได้ตั้งรัฐบาลจะไม่ร่วมกับ “พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ” เพียง๒ พรรคนี้เท่านั้น ใช่มั้ย?
หรือจะไม่รวมกับพรรคไหนทั้งสิ้น เพื่อไทยจะตั้ง “รัฐบาลพรรคเดียว”?
คือผมชักงง ไม่รู้จะเชื่อฝ่ายไหนดี?
เพราะ “พรรคเพื่อไทย” แถลงการณ์ไปทาง แต่ตัวนายกฯ โพย “เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง” พูดไปอีกทาง ในเรื่องจุดยืนพรรคเกี่ยวกับการตั้งรัฐบาล
คือ เมื่อ ๑๐ มกรา.๖๖
“ชลน่าน ศรีแก้ว” ออกแถลงการณ์ในนามพรรคเพื่อไทย ข้อ ๓ ว่า
“พรรคเพื่อไทยขอยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่า พรรคไม่ได้จับมือกับพรรคการเมืองใดในการตั้งรัฐบาลตามที่เป็นข่าว
และไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตาม พรรคขอกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า นี่คือท่าทีและจุดยืนอันมั่นคงของพรรคมิเคยเปลี่ยนแปลง”
เห็นมั้ย…เศรษฐา
ปฐมถุยของพรรคเป็นแถลงการณ์ไว้ “ไม่จับมือกับพรรคใดตั้งรัฐบาล”
คำว่า “ไม่จับมือกับพรรคใด”
มันก็โต้งๆ จุดยืนเพื่อไทย คือ “พรรคเดียว” ตั้งรัฐบาล
ไม่เอาพรรคไหนๆ ทั้งสิ้นมาร่วม ไม่เฉพาะ ๒ พรรค “พปชร.กับรทสช.” เท่านั้น อย่างที่เศรษฐาระบุ
แต่ต่อมา พอถึง ๙ มีนา.๖๖
ในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๖๖ พรรคเพื่อไทย “ชลน่าน” แถลงมติที่ประชุม ต่างไปจากที่พรรคเคยแถลงการณ์
จากที่ “ไม่จับมือกับพรรคใดตั้งรัฐบาล” เป็นว่า
“ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ชูเป้าหมายแลนด์สไลด์ ขอที่นั่งมากกว่า ๒๕๐ เสียงมาโดยตลอด
แต่มีการประเมินจากหลายฝ่ายว่า ในความเป็นจริงอาจได้ไม่ถึง จึงทำให้มีการคิดสูตรรัฐบาลผสม
โดยตั้งเป้ารวมเสียงให้ได้ ๓๑๐
สูตรที่ลือๆ กันก็คือ เพื่อไทย น่าจะได้ราวๆ ๒๒๐ ไปจับมือกับ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่มีเสียง สว.ในมือ และพรรคอื่น ๆ เพราะหากตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ในการบริหารเสียง สว.จะไม่มีความหมาย
ส่วนสมดุลในรัฐบาล “เพื่อไทย” จะกุมสภาพได้ ไม่เกิดการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีมากนัก”
อ้าว…จากที่ไม่จับกับใคร ตอนนี้ แสดงท่าทีจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐซะแล้ว!?
ตกลง “จุดยืน” พรรคนี้…..
จะยึด “ส้นเท้า” ใครเป็นมาตรฐานก็เอาให้แน่ซักส้นเถอะ?
ยิ่ง ๑ ใน ๓ “นายกฯ โพย” อุ๊งอิ๊ง โย้ท้องออกมาพูดอมความ “สองแง่-สองง่าม” อีกว่า
“เศรษฐา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เคยกล่าวในหลายวาระว่า รังเกียจการรัฐประหาร
อยากให้ทุกคนดูหน้าดิฉันไว้ คงไม่ได้ชอบการรัฐประหาร การรัฐประหารครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้น ๒ ครั้ง ดิฉันไม่ได้ชอบ ดังนั้น การที่ไม่ตอบออกมาตรงๆ หลายครั้งในกรณีนี้ เพราะเรา “ให้เกียรติประชาชน”
เพราะการเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น แต่หากถามว่าคนที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยร่วมทำรัฐประหาร เราจะอยากจับมือด้วยหรือไม่?
เฮ้อ…กูจะบ้า………
ฟังคนพรรคนี้ “ต่างคน-ต่างพูด” แล้ว งงตายห่ะ!
นายเศรษฐา-นายกฯ โพย คนที่ ๒ พูดหัว
นายชลน่าน-หัวหน้าพรรค พูดก้อย
แต่อุ๊งอิ๊ง-นายกฯโพย คนที่ ๑ พูดกลาง
สรุป……..
ไม่ว่าจะออกหัว, ออกก้อย, ออกลาง ถูกตาม “ส้นยืน” เพื่อไทยทั้งหมด!
อย่างที่อุ๊งอิ๊ง “นายหญิงลูกสาวนายใหญ่” ผู้จ่ายอาหารเม็ดทั้งคอก พูด
“หากถามว่า คนที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยร่วมทำรัฐประหาร เราจะอยากจับมือด้วยหรือไม่?”
ฟังให้ดี “ภาษามันดิ้น” ได้ ยิ่งกว่าลูกในท้องดิ้นซะอีก
“คนที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยร่วมทำรัฐประหาร”
ฟังรวมๆ จะเข้าใจว่า
“ทุกพรรค” ที่ร่วมตั้งรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์ เมื่อปี ๒๕๖๒ นั่นคือพวกทำรัฐประหาร ไม่อยากจับมือ
แต่ “พลังประชารัฐ” เบอร์ ๓๗ ของลุงป้อมเปล่านะ
ได้ยินกันมิใช่หรือที่ “ลุงป้อม” ประกาศกลางสภาตอนฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนั่นนะ ว่า
“ผมไม่เกี่ยว ผมไม่รู้เรื่องด้วย นี่..คนนี้คนเดียว”
แล้ว “ลุงป้อม” ก็ชี้ไปที่นายกฯ ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ!
ตามนัยนี้ จึงมีพรรครทสช.คือ “รวมไทยสร้างชาติ” เบอร์ ๒๒ ของพลเอกประยุทธ์ “พรรคเดียว” เท่านั้น ที่เพื่อไทยจะไม่จับมือ
แล้วดูวลีต่อมาของประโยค คนเขียนให้อุ๊งอิ๊งท่องมาพูด จบ “ประโยคกำกวม” นั้น ด้วยคำถามว่า
“…..เราจะอยากจับมือด้วยหรือไม่?”
บอกแล้ว ภาษามันดิ้นได้ ฉะนั้น ต้องพินิจให้ดี
ถ้าอุ๊งอิ๊งพูดว่า “เราจะไม่จับมือ” มันก็ชัด ว่าจะไม่จับมือกับพรรคที่เคยตั้งรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์
แต่อุ๊งอิ๊งใช้กลภาษาถาม “เราจะอยากจับมือด้วยหรือไม่?”
“ความอยาก-ไม่อยาก” มันเป็นความรู้สึก
ไม่ใช่จริงที่เกิดขึ้น!
การบอก “ไม่อยากจับมือ” มันจะจับก็ได้-ไม่จับก็ได้ ถมไป คนที่เราไม่ชอบหน้ากัน แต่ต้องฝืนทักทายกัน
อย่างสส.เพื่อไทย ใช่ว่าอยากเป็นหมาในคอกทักษิณกันทุกคน บางคนก็ไม่อยาก แต่จำเป็นต้องอยู่ เพราะอาหารเม็ดสมบูรณ์
ทั้งชื่อคอกทักษิณ ยังหลอกคนตาบอดให้เลือกได้อยู่!
ฉะนั้น เมื่อได้ยินเศรษฐาใช้ประโยคบอกเล่า “เราจะไม่จับมือพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ”
เท่ากับ “ปิดทางตัน” ให้ตัวเอง
ครั้นจะสร้างสะพานตั้งด่านเก็บเงินทีหลัง มันก็จะเสียหมา-เสียหมู่บ้านเอา จึงอยากเตือนล่วงหน้า
ว่ากันจริงๆ “เศรษฐา” โอเวอร์แอคชั่น “เกินราคา” ไปมั้ย?
ต้นทุนการเมือง คุณมีอะไร…..
ถึงเที่ยวชี้หน้า-ชี้หัวพรรคอื่นเขา จะเอาพรรคนั้น-ไม่เอาพรรคนั้น มาร่วมตั้งรัฐบาล….หือ?
แล้วรู้หรือ ว่าพรรคอื่นเขาอยากตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทยและอยากได้คนอย่างคุณเป็นหัวหน้ารัฐบาลในตำแหน่งนายกฯ ซึ่งเป็นผู้นำเขา?
ที่สำคัญ…….
พวกเพื่อไทย เมาอาหารเม็ดหรือเมาโพล เห็นทึกทักกันจริ๊ง ว่าเลือกตั้งเที่ยวนี้จะได้สส.กัน ๓๐๐-๔๐๐ คน จนตอนนี้ เริ่มแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันแล้ว
ผมไม่แย้งท่าน เพราะท่านอยู่กับโพล ส่วนผมผลุบๆ โผล่ๆ อยู่กับชาวบ้านนอกโพลที่เรียกว่า “พลังเงียบ”
“พรรครวมไทยสร้างชาติ” ของนายกฯ สส.เขตสู้เพื่อไทยไม่ได้แน่ เพราะสังเกต ในพรรคเองก็ยังหลอมไม่เข้าเนื้อ
แต่ชาวบ้านนอกโพล………
ไปทางไหน เห็นแต่ ใครมีลูก สั่งลูก, มีเมีย สั่งเมีย, มีผัว สั่งผัว ส่วนคุณตา-คุณยาย ต่างท่องจำ
“เลือกลุงตู่ เบอร์ ๒๒ รวมไทยสร้างชาติ”!
สส.เขต เท่าไหร่ไม่รู้ แต่คะแนนพรรครวมไทยสร้างชาติ คนจะเลือก “ลุงตู่ เบอร์ ๒๒” มากกว่า ๖ ล้านเสียงแน่
แต่ ๖ ล้าน ผมว่าน้อยไป…
แฟนๆ ลุงตู่ ต้องออกมา X เบอร์ ๒๒ ให้ได้ซัก ๘-๑๐ ล้าน
แบบนั้น……..
ถึงจะพออวดพรรคที่เอาชาติบ้านเมืองด้วยกัน “ร่วมตั้งรัฐบาล” ได้
“คุณอนุทิน-ลุุงป้อม-คุณจุรินทร์-คุณวราวุธ” ก็จะไม่อึดอัดใจกับ
“ผู้นำคนเก่า ในรัฐบาลใหม่”!
เปลว สีเงิน
๒๔ เมษายน ๒๕๖๖
