ผักกาดหอม
พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก…
ก็ไม่รู้รัฐบาลแพทองธารจะไปได้สักกี่น้ำ
ลำพังปัญหาภายใน สทร.ก็ยำเสียเละแล้ว ยังต้องเจอปัจจัยภายนอก ที่ควบคุมอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ยืนมองตาปริบๆ
เตรียมรับแรงกระแทกกันนะครับ รอบนี้จะรุนแรงกว่าเดิม สงครามรัสเซีย-ยูเครน ดูท่าจะบานปลาย หลังยูเครนส่งกองทัพโดรนเข้าไปถล่มหลายสนามบินของรัสเซีย สร้างความเสียหายให้กองทัพอากาศรัสเซียอย่างหนักเป็นประวัติการณ์
แทบไม่ต่างจากญี่ปุ่นส่งฝูงบินถล่ม เพิร์ลฮาร์เบอร์ จนยับเยิน
ผลคือผลักสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ ๒ เต็มตัว
คราวนี้คาดกันว่ารัสเซียจะตัดสินใจเปิดสงครามขนาดใหญ่กว่าเดิมเต็มตัวเช่นกัน
ในแง่เลวร้ายสุดอาจขยายวงกว้างเข้าไปในยุโรปตะวันออก
แน่นอนครับปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้ว จะสาหัสมากกว่าเดิม
นายกฯ หุ่นเชิดเตรียมอะไรไว้บ้างหรือยัง อย่าพึ่งพาพ่อมากไป เพราะ ณ เวลานี้ “ทักษิณ” เหมือนคนจนตรอก จะเสือกทุกเรื่องคงลำบาก
ดูอย่างกรณีเขมรเล่นสงครามประสาท จะฟ้องศาลโลกยึดเอาปราสาทตาเมือนธมคืน คอนเนกชัน “ทักษิณ-ฮุน เซน” หายไปไหนหมด
เขมรขย่มโครมๆ สทร.ยังเงียบกริบ!
ไหนบอกว่าซี้ย่ำปึ้ก
เรื่อง ปราสาทตาเมือนธม ดูจะขยายวงมากขึ้นเรื่อยๆ จากการปั่นสถานการณ์จากฝั่งเขมร
“ทักษิณ” บอกเคลียร์ใจกับ “ฮุน เซน” แล้ว อย่าไปเติมเชื้อไฟ ให้เกิดการกระทบกระทั่งบริเวณชายแดน
ที่ยิงกันขอให้กลายเป็นการเตะตะกร้อร่วมกัน!
แล้วเป็นไงครับ
ลูกตะกร้ออยู่ไหน
ถ้าคุยกันจริง กรณีนี้เหมือนถูก “ฮุน เซน” หักหลัง
เพราะถ้อยแถลงของ “ฮุน เซน” ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภากัมพูชาวานนี้ (๒ มิถุนายน) ซัดประเทศไทยเต็มๆ
“…เป็นการให้เกียรติประเทศเพื่อนบ้านในการร่วมกันคลี่คลายความขัดแย้ง โดยใช้วิธีการทางการทูต…”
“…หากไทยยังคงปฏิเสธและหลีกเลี่ยงการใช้วิธีการดังกล่าว สะท้อนชัดเจนว่าฝ่ายไทยมีเจตนาซ่อนเร้น หากบริสุทธิ์ใจทำไมต้องกลัวการขึ้นศาล…”
“…บันทึกความเข้าใจ (MOU 2543) ที่ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องเขตแดนเมื่อปี ๒๕๔๓ นั้น ใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะผ่านมาแล้ว ๒๕ ปี แต่กัมพูชาและไทยยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเกิดการปะทะกันเมื่อวันที่ ๒๘ พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต ๑ นาย…”
“…ถ้าเราไม่ยอมให้ศาลตัดสิน ปัญหานี้ก็จะเหมือนกับฉนวนกาซาที่ไม่มีวันจบสิ้น การต่อสู้เล็กๆ น้อยๆ หรือใหญ่ๆ จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วทำไมเราถึงต้องกลัวการขึ้นศาลถ้าเราบริสุทธิ์…”
“…กัมพูชามุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะไม่รุกล้ำดินแดนของประเทศอื่น เพียงแต่ต้องการรักษาดินแดนที่สืบทอดมาจากยุคอาณานิคมของฝรั่งเศสและต่อมาก็รักษาไว้ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ…”
“…สิ่งที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อย เราจะต้องปกป้อง…”
ยังไม่จบครับ “ฮุน เซน” ยังไปโพสต์เฟซบุ๊กรายงานผลการประชุมสมาชิกสภาแห่งชาติและวุฒิสภาว่า ได้มีมติ ๑๘๒ เสียง เห็นชอบเกี่ยวกับข้อแถลงการณ์ของฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ในการยื่นฟ้องปัญหาข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชา-ไทย ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
นี่แหละครับเพื่อนซี้ของ “ทักษิณ”
ก็ไม่ผิดคาดเท่าไหร่ เพราะประเมินกันอยู่แล้วว่า ที่เขมรปั่นสถานการณ์ขึ้นมาก็เพื่อจะเอาไปฟ้องศาลโลก
อ้างข้อพิพาทเขตแดนกับไทยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย ว่าทั้งหมดเป็นของกัมพูชา
รัฐบาลไทยใบ้กินครับ หนีหน้ากันหมด
ทหารขอให้ปิดด่าน รัฐบาลบอกไม่ต้อง
ไม่รู้จะเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ หากปิดด่านใกล้วันที่ ๑๓ มิถุนายนนี้ มีคนเสียวสันหลังแน่นอน เพราะเส้นทางธรรมชาติที่หมาใช้ลอด อาจถูกปิดตายไปด้วย
วันนี้ไอ้คนเสือกทุกเรื่อง มันหายหัวไปอยู่ที่ไหน ถึงไม่ยอมออกมาเสือกให้เป็นเรื่องเป็นราว
ถูก “ฮุน เซน” หยามขนาดนี้ จะไม่หือไม่อือบ้างเลยหรือ
อยากให้เสือกเรื่องนี้ครับ
แต่ก็หายเข้ากลีบเมฆ
เหลือเชื่อครับ…ตลอดทั้งวันจันทร์ที่ผ่านมา คนในรัฐบาลไทยไม่มีใครโผล่หัวมาสื่อสารกับประชาชน แม้แต่คนเดียว
นักข่าวตามหากันให้วุ่น
นายกฯ ไม่รู้อยู่ไหน สมกับเป็นนายกฯ หุ่นเชิดจริงๆ
“ทั่นรัฐมนตรีอ้วน ภูมิธรรม” ไปทำอะไรที่ไหนก็ไม่มีใครรู้
เหมือนประเทศไทยไม่มีรัฐบาล!
เป็นวันแห่งความอัปยศจริงๆ
รู้หรือเปล่าว่าทางเขมรวางแผนเป็นฉากๆ
แต่งนิยายตั้งแต่วันที่ยิงกันแล้ว
๕ ข้อที่ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ประท้วงไทยมีอะไรบ้าง
ข้อแรก ทหารของเขาตายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ข้อสอง ทหารกัมพูชาประจำการอย่างต่อเนื่องและสันติ
ข้อสาม รัฐบาลกัมพูชาขอประท้วงอย่างแข็งกร้าว ต่อการโจมตีด้วยอาวุธปืน อย่างไม่มีเหตุผล โดยทหารไทย ซึ่งเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา และการละเมิดเจตนารมณ์ของมิตรภาพและความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ดังที่สะท้อนให้เห็นในบันทึกความเข้าใจ พ.ศ. ๒๕๔๓
ข้อสี่ รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้มีการสืบสวนเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ นำตัวผู้ที่รับผิดชอบเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ข้อห้า กัมพูชายังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างเต็มที่ และแก้ไขปัญหานี้และปัญหาชายแดนทั้งหมดโดยสันติวิธี และทางการทูต โดยใช้กลไกที่มีอยู่
เป็นพระเอกเลยครับ!
บอกตรงๆ ว่าไม่ได้ห่วงกองทัพ เพราะเขายันอยู่ ไม่เหลือบ่ากว่าแรง รบเมื่อไหร่พร้อมเมื่อนั้น
แต่รัฐบาลนี่สิ จะเอาไง หรือจะเกรงใจคุณพ่อฮุน เซนไปเรื่อยๆ
ไม่กล้าพูดเพราะกลัวเขมรงอแง เจรจาเรื่องผลประโยชน์กันไม่รู้เรื่องใช่หรือเปล่า
ครับ…ในมุมกลับกัน ที่เห็น “ฮุน เซน” ขี่อยู่ในขณะนี้ อาจไม่ใช่ภาพจริง
ก็เห็นตั้งท่า จะเปิดเจรจาผลประโยชน์ทางทะเลกันมาตั้งแต่ตั้งรัฐบาลใหม่ๆ
ถ้ารบกันจริงก็ไม่มีทางคุยกันรู้เรื่อง
แต่ถ้าเอาสงครามมาต่อรอง เขมรขอเป็นฝ่ายปิดด่าน ห้ามหมาลอดเข้า-ออก บันเทิงแน่นอนครับ
ต่อให้เป็นเสือสิงห์ เจ็บเมื่อไหร่ ฝูงหมาป่าก็รุมทึ้งเมื่อนั้น
โชคดีครับ…สทร.
