สงครามสุดท้ายกับ ‘ทักษิณ’ #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

นั่นแหละครับ…

“ทักษิณ ชินวัตร” ยังอยู่

ยังไม่หนี!

ก็อาจไม่คิดหนี

หรือไม่ก็…ยังมีเวลาให้หนีอยู่

สรุปคือข่าวลือที่ว่าก็แค่ลือ ยังไม่ใช่ข่าวจริง ของจริงต้องรอก่อนวันที่ ๑๓ มิถุนายน ได้วัดใจกันว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะไต่สวนแล้วมีคำสั่งในวันเดียวกันเลยหรือไม่

ถ้าใช่และ “ทักษิณ” ยังอยู่ ก็เอาใจไปเลยครับ คราวนี้นายแน่มาก ยอมเสี่ยงเพราะไม่รู้ว่าศาลท่านจะมีคำสั่งออกมาเช่นไร

ระหว่าง “ทักษิณ” รับโทษไปแล้ว ทุกอย่างจบแล้ว

กับยังไม่รับโทษ ฉะนั้นต้องเข้าคุกสถานเดียว

แต่วานนี้ (๒๗ พฤษภาคม) “ทักษิณ” ยังมีเค้า สทร.อยู่

บอกกับนักข่าวว่า “ยังอยู่ดีกินดีไม่ได้ไปไหน”

นับเป็นบุญของ “ทักษิณ” ครับ ที่อยู่ดีกินดี ในยามที่ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน ชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะรัฐบาลไร้ฝีมือในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

มีคำพูดของ “อ้วน ภูมิธรรม” ฟังแล้วชวนให้คิดว่าคืออะไร

สืบเนื่องจากคำถามของนักข่าวที่ว่า มีข่าวลือว่าทักษิณหนีเป็นเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้คนไม่มั่นใจ เนื่องจากทักษิณเคยหนีมาก่อน

คำตอบคือ

“…ใช้ประสบการณ์อย่างเดียวแล้วมาตัดสินใจไม่ได้ ต้องดูว่ามีเหตุมีผลหรือไม่ เพราะสภาพและเงื่อนไขเปลี่ยนไปเยอะ ไม่เหมือนกันต้องค่อยๆ ดู…”

เงื่อนไขอะไรที่เปลี่ยนไป?

“ภูมิธรรม” รู้อะไรที่ประชาชนไม่รู้

“ทักษิณ” ไปตกลงอะไรกับใครโดยที่ประชาชนไม่รู้

มันชวนให้คิดครับ เพราะเมื่อมติแพทยสภาออกมาชัดเจนว่า ไม่มีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ว่า “ทักษิณ” ป่วยวิกฤต แล้วการไปรักษาตัวห้องวีไอพี โรงพยาบาลตำรวจจะถูกต้องตามกฎหมายได้อย่างไร

มิหนำซ้ำแพทย์ ๓ รายยังถูกลงโทษ

เมื่อผิดแล้วจะกลับทำให้เป็นถูกได้อย่างไร

เรื่องนี้มีเหตุมีผลพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์

มิใช่ไสยศาสตร์

ฉะนั้นเงื่อนไขที่เปลี่ยนไปคงไม่ใช่การทำลายล้างเหตุผลที่เป็นวิทยาศาสตร์ นะครับ

ไม่งั้นประเทศนี้คงจะอยู่กันลำบาก!

แต่…ดูเหมือน “ทักษิณ” จะมั่นใจเกินร้อยว่า เรื่องนี้จะไม่จบในวันที่ ๑๓ มิถุนายน

“…อย่าเพิ่งสรุป ไม่มีอะไรต้องสรุปล่วงหน้า ผมเชื่อว่า ผู้พิพากษาที่พิจารณาก็ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะต้องดูพยานหลักฐานดูการสืบพยานโจทก์ พยานจำเลย

ดังนั้นอย่าไปสรุปเอง อย่าไปทำนายอะไรล่วงหน้า อย่าไปคาดการณ์ล่วงหน้า มันไม่มีอะไร…”

ถ้าเป็นแบบนี้ ๑๓ มิถุนายน “ทักษิณ” อาจยังปรากฏตัว

แต่ทำไม “ทักษิณ” ถึงมั่นใจว่าจะเป็นแบบนั้น

มีการเปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาเพื่อดิสเครดิตแพทยสภาโดยตัว “ทักษิณ” เอง

“เป็นหน้าที่แพทยสภาที่ดูหน้าที่จริยธรรมของแพทย์ แต่ก็มีกรณีที่แพทย์นั้นไม่มีจริยธรรมเสียเอง

อย่างเช่นในไลน์กลุ่มแพทยสภามีคนมาด่าผม แล้วก็มีแพทยสภาอีกคนส่งสติกเกอร์ไลน์ว่า Yes อย่างนี้เรียกว่าจริยธรรมมีปัญหาเสียเอง แต่ถ้าทุกฝ่ายรักษาจริยธรรมในวิชาชีพ มันก็ไม่มีปัญหาอะไร…”

จะใช้เรื่องนี้เป็นข้อต่อสู้ในศาลหรือ

แล้วจะไปลดความน่าเชื่อถือของเวชระเบียนที่ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า “ทักษิณ” ป่วยวิกฤตได้อย่างไร

ประเด็นมันอยู่ตรงนี้

อาจมีแพทยสภาบางคนพูดแบบนั้นจริง แต่จะมีจริยธรรมหรือไม่เป็นอีกเรื่อง

ถ้าแพทยสภาบางท่านด่า “ทักษิณ” ไม่ยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าตัวเองมิได้ป่วยวิกฤต แต่สมคบคิดเพื่อไม่ให้ตัวเองติดคุก แบบนี้ก็ควรด่า เพราะเอาเปรียบผู้อื่น

เอาเข้าจริง “ทักษิณ” เอง ไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นว่าไม่มีจริยธรรมด้วยซ้ำ เพราะตัว “ทักษิณ” ไม่เคยเห็นหัวจริยธรรม

“ทักษิณ” แทบไม่เคยแสดงตนเลยว่าเป็นผู้มีจริยธรรม

ในการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ “ทักษิณ” ยอมรับด้วยซ้ำว่าตัวเองโกง

นี่จึงเป็นความพยายามในการทำลายความน่าเชื่อถือของแพทยสภา

ถ้าคิดว่า ถูกต้องแล้ว ก็เชิญครับ

เหมือนที่รัฐบาลพยายามสร้างความชอบธรรมให้ “ยิ่งลักษณ์” อยู่ในขณะนี้

ถึงขนาดบิดเบือนคำพิพากษาศาลปกครองกลางก็ทำ

“อ้วน ภูมิธรรม” ช่างมีบทบาทกับเรื่องพวกนี้จริงๆ

“…เมื่อศาลฯ ได้ดูรายละเอียด และมีคำตัดสินออกมา จากต้องชดใช้ค่าสินไหมโครงการรับจำนำข้าวที่ ๓.๕ หมื่นล้านบาท เหลือเพียง ๑๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท เนื่องจากคิดไม่ตรง และเกิดความผิดพลาด

แต่ศาลฯ ไม่ได้สั่งบังคับว่า จะต้องไปจ่ายอะไร ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า การคำนวณตัวเลขค่าใช้จ่าย มีความผิดพลาดตั้งแต่แรกที่กำหนดมา

แสดงให้เห็นว่า มีปัญหา จึงมีช่องให้พิจารณา…”

แน่ใจแล้วหรือครับว่าจะช่วย “ยิ่งลักษณ์” ไม่ต้องจ่ายชดเชยสักบาทให้ได้

ก็อาจเป็นไปได้ครับ เพราะอย่างน้อยเรื่องนี้ก็มีพรรคส้มเป็นแนวร่วมจากอุปาทานหมู่ที่เกิดจากการชี้นำของ “ปิยบุตร แสงกนกกุล”

ตรงไหนที่ศาลบอกว่า ไม่ต้องจ่าย

ถ้ากล้าก็ทำเลย

นึกถึงภาพช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์พยายามเข็น พ.ร.ก.นิรโทษกรรมเหมาเข่งขึ้นมาทันที

มาวันนี้ รัฐบาลแพทองธาร กำลังหาทางช่วยให้ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” พ้นผิด

แรกๆ ก็คงดูถูกดูแคลนกันไปครับว่า “สนธิ-จตุพร” ความคิดเก่าแล้ว ไม่มีมวลชน

ในจุดเริ่มต้นก็อาจเป็นเช่นนั้น แต่นานวันเข้ายิ่งตระกูลชินวัตรแสดงธาตุแท้มากขึ้นเท่าไหร่ ความไม่พอใจของผู้คนจะมากขึ้นเท่านั้น

อย่าไปดูถูกว่าม็อบจุดไม่ติด เพราะพฤติกรรรมคนเปลี่ยนไปชุมนุมหน้าจอโทรศัพท์มือถือแทน

แรกๆ ก็อาจจะใช่ แต่เมื่อไหร่ที่สถานการณ์สุกงอม จากหน้าจอ เป็นลงถนน
ก็ลองดูครับ เพราะครั้งนี้จะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายกับระบอบทักษิณจริงๆ.

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
พะแนงแร็พและพะแนงเบอร์เกอร์ จัดจ้านรสพะแนง ถึงเครื่องแน่นเต็มคำ
เท็กซัส ชิคเก้น (Texas Chicken) ขอแนะนำเมนู ใหม่! พะแนงแร็พและพะแนงเบอร์เกอร์ จัดจ้านรสพะแนง ถึงเครื่องแน่นเต็มคำ
Read More
0 replies on “สงครามสุดท้ายกับ ‘ทักษิณ’ #ผักกาดหอม”