สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังสนามช้างอารีนา อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โอกาสนี้ ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
จากนั้น เสด็จไปทอดพระเนตรงาน “COLORS OF BURIRAM 2025” ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ ภาคเอกชน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 มีนาคม ถึงวันที่ 16 เมษายน 2568 ภายใต้แนวคิด “The Gradients” เพื่อสืบสานและต่อยอดโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” โครงการในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ถ่ายทอดผ้าไทยในมุมมองใหม่ ให้มีความทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และเหมาะสำหรับทุกช่วงวัย รวมทั้ง เพื่อสืบสานอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยให้คงอยู่สืบต่อไป และเพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าของผู้ผลิต และผู้ประกอบการ OTOP ทั่วประเทศ
ภายในงาน มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับผ้าไหมบุรีรัมย์ นวัตกรรมการทอผ้าและงานหัตถกรรม แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 การจัดแสดงนิทรรศการ ” ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ถ่ายทอดองค์ความรู้จากเส้นไหม การทอ การสาวไหม และการย้อมผ้าไหม สู่การพัฒนาเป็นเสื้อผ้าไทยประยุกต์ สะท้อนอัตลักษณ์ผ้าไหมเมืองบุรีรัมย์ซึ่งแฝงไว้ด้วยความผูกพันธ์ทางสายใยจากรุ่นสู่รุ่น ประกอบด้วย The Tradtions จัดแสดงผ้าไหมไทยจากทั่วแถบอีสาน ที่แสดงถึงวิถีความเป็นมาและวัฒนธรรมของกลุ่มชนท้องถิ่นต่าง ๆ รวมทั้ง ผ้าพื้นถิ่นที่หาชมได้ยาก และเกือบจะสูญหายไป
รวมทั้ง นำเสนอความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และพัฒนาการทางศิลปะของผ้าไหมไทย, The Cultivation in Fashion วิวัฒนาการของผ้าไหมไทยในโลกแฟชั่นร่วมสมัย เน้นการผสมผสานเข้ากับงานออกแบบสมัยใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และสร้างเสน่ห์ให้กับแฟชั่นยุคปัจจุบัน
ซึ่งเป็นผลงานของนักออกแบบรุ่นใหม่ The Cultivation in Creative Lifestyle การผสมผสานนวัตกรรมการนำผ้าไหมไทยมาประยุกต์ใช้กับเครื่องประดับและของใช้ในชีวิตประจำวันแบบร่วมสมัย เน้นแนวคิด Up-cycling และการสร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ เพื่อต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน, The Reclamation and Innovaiton การอนุรักษ์ผ้าไหมไทยโบราณ ควบคู่ไปกับการค้นคว้า และพัฒนานวัตกรรมผ้าไหมในยุคปัจจุบันทั่วประเทศไทย และ Conclusion ที่มุ่งเปิดศักยภาพของผ้าไทย ด้วยการทำให้ผ้าไทยพื้นถิ่นสามารถ “จับต้องง่าย สวมใส่สบาย ใช้ได้จริง”
ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัสความสวยงาม และฟังก์ชันการสวมใส่ การใช้สอย ที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันผ่านผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ ผ้าไทยในเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของแต่งบ้าน และอุปกรณ์การเดินทาง
