เปลว สีเงิน
ตั้งแต่ “เพื่อไทย-เพื่อทักษิณ” เข้ามาเป็นรัฐบาล
ประเทศเหมือนต้อง “กาลกิณี”!
ต่างประเทศ ทั้งจากมิตรบ้านใกล้เรือนเคียง อย่างพม่า,เขมร ทั้งจากมิตรแดนไกล อย่างยุโรป-สหรัฐฯ ต่างแสดงตนเป็นปฎิปักษ์กับไทยเปิดเผย
เกียรติภูมิไทยไม่เคยตกต่ำ ด้วยถูกต่างชาติหยามศักดิ์ศรี จนเข้าลักษณะ “คนดูชา-หมาดูถูก” เช่นนี้มาก่อน
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย การต่างประเทศ ที่ไทยเราเคยมีบทบาทผู้นำอาเซียนในเวทีโลก
ถึงวันนี้ เหลือแต่ร่องรอยในอดีต ปัจจุบันกลายเป็น “ไทยหน่อมแน้ม” ให้ชาวอาเซียนยิ้มหยัน?
วันนี้ ไม่มีคำไหนสะท้อนภาพไทย ใต้รัฐบาลนายกฯ Gen Y บริหาร ใต้การครอบงำของอดีต “นักโทษโกงบ้าน-กินเมือง” ผู้เป็นพ่อได้ตรงตัวมากไปกว่า คำว่า
“ตกต่ำถึงขีดสุด”!!!
ภาคประชาชน ขนาดตอน “โควิดระบาด” ว่าร้ายแรงแล้ว แต่ก็ยังไม่ “แล้งในอก” ถึงขั้น “สิ้นสุข-ทุกข์ถมทับ” ไปทุกหย่อมหญ้าอย่างตอนนี้
มองไปไหน มันมืดมิดไปหมด มองไม่เห็นทางอนาคตเลย!
แล้ววันนี้ ชาวบ้าน-ชาวเมือง อยู่กันด้วยอะไร?
คำตอบที่สะท้อนจริง คนเสื้อแดงส่วนหนึ่ง สื่อที่คอยกระพืออีกส่วนหนึ่ง อยู่ด้วยการบริโภค “ลมตดทางปาก” ของชายคนนั้น
และ “ลมตดทางปาก” นั้น ยังเป็น “ลมใต้ปีก” พยุงรัฐบาลเพื่อไทย ให้นายกฯ Gen Y โชว์แฟชั่นบริหาร พร่าเกียรติ พร่าศักดิ์ศรีประเทศ
๑๐ ล้านเสียง “ซึ้งใจ” กันแล้วใช่มั้ย…..?
-น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ค่าไฟ ค่าครองชีพ เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ลดทันที
-ครอบครัวไหนมีรายได้รวมไม่ถึง ๒ หมื่นบาท จะอุดหนุนให้มีรายได้ ๒ หมื่นบาทต่อดือนทันที
-เติมเงินให้ทุกคนด้วยนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ๑ หมื่นบาทในพื้นที่กำหนดทันที
-ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ๓๐๐ บาทต่อวัน เป็น ๖๐๐ บาท ปริญญาตรี เงินเดือน ๒๕,๐๐๐ ทันที
นี่ก็ ๒ ปีแล้ว มีอะไร “ทันที” บ้าง นอกจาก ถูกหลอกทันที หนี้สินเพิ่มพูนทันที ในขณะที่ “เงินคงคลัง” หดหายไปทันที
ประเทศหมดตูด ถึงขั้นตั้งท่าเตรียมสร้างหนี้นอกประเทศ
กะการจะออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์มาผลาญต่อ ซึ่งมันจะเป็นการ “กู้นอกประเทศ” เป็นครั้งแรกในรอบ ๒๐ ปี!?
ได้ยิน “พ่อนายกฯ-พ่อรัฐบาล” ตดทางปากวานซืน รัฐบาลนี้อยู่ครบ ๔ ปี “ครบเทอม” เลือกตั้งกันปี ๒๕๗๐
จะเลือกปลายปีนี้ ปีหน้า หรือปีโน้น รอซักครู่ ก็จะซึ้ง
แต่ตอนนี้ อยากแนะให้ไปถามคุณหมอ “อมร ลีลารัศมี” ประธานอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจแพทยสภา เรื่องชั้น ๑๔ ก่อนดีมั้ย?
ว่าถึงปี ๗๐ พ่อรัฐบาล ยังจะได้ “รับจ๊อบ” เป็นผู้ช่วยหาเสียงอยู่นอกคุก หรือจะต้องกลับไปนอนคุยกับ “ผู้กำกับโจ้” ที่แดน ๕!?
ก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น มาดูเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ที่กำหนดในวันที่ ๒๔ มีนา.กันหน่อย
น่าจะได้อภิปรายแน่ เพราะพรรคประชาชน-ฝ่ายค้าน ยอมเปลี่ยนชื่อทักษิณในญัตติ ไปเป็นนายหมู-นายแมว ตามที่ประธานวันนอร์ต้องการแล้ว
พรุ่งนี้ จะหารือเรื่อง “เวลาอภิปราย” ว่าจะสรุปลงตัวกันที่ “กี่วัน-กี่ชั่วโมง” ก็คอยดูเขาละกัน
แต่ไม่ว่าจะอภิปรายวันเดียวหรือหลายวัน ผมดูดาวแล้ว บอกนายกฯ ได้คำเดียว
๑๔ มีนา.คือเมื่อวันศุกร์ เกิดจันทรคราส ดาวจันทร์หมายถึงประชาชน เมื่อจันทร์ดับ แม้มองไม่เห็นในไทย
แต่อิทธิพล “จันทร์ดับ” ครอบงำจิตใจประชาชนให้อึดอัด-ขัดข้อง ไม่พอใจรัฐบาลตั้งแต่ยอดยางยันยอดหญ้า
ครั้นถึง ๒๙ มีนา.หลังวันอภิปรายแค่ ๕ วัน เกิดสุริยคราส ที่ราศีมีน ภพวินาศดวงเมือง เล็งราศีกันย์ ไม่เห็นในไทยเช่นกัน
คราสทั้งพระจันทร์-พระอาทิตย์ขนาบ “หน้า-หลัง” การซักฟอกนายกฯในวันที่ ๒๔ มีนา.อาการเช่นนี้
ท่านว่า “น่าเป็นห่วง”!
จิตใจผู้คนจะสับสน แปรปรวน เครียดเขม็ง จริงในลวง-ลวงในจริง อารมณ์คนสังคมรวมจะระเบิด เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำฉับพลันทันด่วน
คราสนี้ จะมีอิทธิพลครอบงำไปเป็นเดือน ยิ่งไปบรรจบเดือนพฤษภา.ที่ ๒ นักเลงโต “ราหูเดินสวนเสาร์” ในทางแคบ
แบบนี้ ท่านว่า ทั้งตัวผู้นำและรัฐบาล เข้าสมการ ถอดรหัสออกมาได้ว่า
“อะวังสิโร” แปลว่า ผู้มีหัวลง!
ช่วงนี้ ดาววิปริตทั้งนั้น ที่สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ยกเรื่องไทยส่ง ๔๐ อุยกูร์ให้จีนเป็นเหตุ แล้วขู่จะไม่ออกวีซ่าให้คนในรัฐบาลและบีบจะตัด FTA ไทยนั้น
ผมบอกได้คำเดียว ยุโรป-สหรัฐเขา “เตะเด็กโชว์” ไม่ได้จริงจังอะไรหรอก เราต้องเข้าใจ ในความเป็น “ตีนใหญ่” ที่ต้องเชือดไก่ให้ลิงดูในบางเรื่อง-บางกรณี
เป็นทั้งการ “รักษาหน้า-รักษากติกา” ของเขาบนเวทีโลก ทั้งเป็นการปรามประเทศเล็ก-ประเทศน้อย ใครไปเป็นกิ๊กกับจีนกับรัสเซีย จะต้องถูกฉาดเข้าที่ “บ้องหู” อย่างนี้
เราก็ต้อง “รู้เขา-รู้เรา” ไม่จำเป็นต้องไปกร่างใส่เขา เราเป็นแค่นกแก้ว-นกขุนทอง การไปโก่งคอส่งเสียงร้องแข่งพวกอินทรี-อีแร้ง เดี๋ยวก็ถูกขย้ำจริงๆ
เรื่องอย่างนี้กับพวกเขา ไม่ต้องไปเถียง-ไปพูดเรื่องเหตุผล สิ่งที่ไทยควรทำคือ “น้ำขุ่นเอาไว้ข้างใน-น้ำใสเอาไว้ข้างนอก”
วันพระไม่ได้มีหนเดียว เดือนนึงมีตั้ง ๔ วันพระ ทั้ง ๘ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ตลาดการค้า ทั้งตลาดยุโรปและตลาดสหรัฐฯ มันจำเป็นที่เราต้อง “ระงับความหยิ่ง” เพื่อรักษาตลาดเอาไว้
นึกซะว่า “หมาเยี่ยวรดภูเขาทอง” แล้วจะสบายใจ!
เราไม่ได้หงอ แต่นอกจากต้องรู้สถานการณ์แล้ว ควรต้องรู้วิถีดวงดาว เพื่อเราจะได้เลือกอาวุธ เลือกยุทธวิธีในการรับมือได้ถูก
การใช้ศิลปะในการดำรงวิถีประยุกต์เข้ากับศาสตร์ ไม่ยาก-ไม่ง่าย ถ้าไม่มืดดำด้วย อีโก้ ยะโส-โมหะ
ศิลปะที่ว่านั้น โบราณท่านสอนว่า อย่าเป็นคนแบบ “สากกะเบือ” ต้องเป็นคนแบบ “ทัพพี-กระจ่า” ชีวิตจึงจะรอด
คนแบบ “สากกะเบือ” รู้จักมั้ย อย่างไปตักข้าวสารในถังมาหุงกิน ใช้สากกะเบือไปตัก ตรงทื่ออย่างสาก ข้าวสารซักเม็ดก็ไม่ติดขึ้นมาให้ไปหุง
ถ้าเอาทัพพีหรือกระจ่าไปตัก ด้วยปลายทัพพี-ปลายกระจ่าที่โค้งเว้าเป็นกระเปาะไปตัก จะไม่อดตาย มาก-น้อย มีข้าวสารติดปลายให้ไปหุงกิน
โค้งเว้าของทัพพี-กระจ่า ก็ดี ตรงทื่อของสาก ก็ดี คือศิลปะให้เลือกใช้ให้ถูกลักษณะงาน โค้งเว้าและตรงทื่อนั้น จะยังประโยชน์ให้สำเร็จ
“ทมะ” แปลว่า “การรู้จักข่มจิต-ข่มใจตนเอง”
“ทันคน” หมายถึง รู้เท่าทันคนที่เราต้องติดต่อ คบค้าสมาคม เพื่อรู้เท่าทันความคิดของเขาว่า จะส่งผลดี หรือไม่ดี ต่อตัวของเราหรือหน้าที่การงานของเราอย่างไร
“ทันโลก” หมายถึง รู้เท่าทันโลก รู้ว่าโลกนี้ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด และเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพื่อที่เราจะสามารถปรับตัวได้ทัน
นี่คือ “ทมะ” เป็นคำสอนของพระพุทธองค์ จะกี่พัน-กี่ล้านปี คำสอนพระพุทธองค์ “เหนือกาล-เหนือเวลา” ประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่อง
จะว่าไป การที่สหรัฐฯ ขู่ จะไม่ออกวีซ่าให้รัฐบาลและคนในแวดวงที่ส่งอุยกูร์ให้จีน
เราๆ ท่านๆ ไม่เห็นเดือดร้อน
อยากให้สรัฐฯ ทำตามที่พูดให้เห็นผลเร็วๆ ซะด้วยซ้ำ อยากดูว่า แพทองธาร ภูมิธรรม ทวี โดยเฉพาะทักษิณ ทำวีซ่าแล้วจะถูกถีบหน้าหงายให้เห็นจริงหรือไม่?
แต่สส.โรม สส.กัณวีร์ สว.อังคณา ธนาธร ตัวแทนวิญญานยุโรป-สหรัฐฯ ยื่นปุ๊บ สหรัฐฯ ตีตราลงวีซ่าเปรี้ยง อย่างนั้นหรือไม่!?
ก็จะได้หัวเราะเยาะโลกให้เยี่ยวกะปริด!
“ในดีมีเสีย-ในเสียมีดี” อย่างน้อย แอกชั่นของสภายุโรปและสหรัฐฯ ก็ทำให้เราต้องระลึกผ่าน “ประวัติศาสตร์ชาติ” ไว้เสมอว่า
“ตัวไทย-ใจจ้องขายชาติ” ไม่เคยสูญพันธุ์!
ประวัติศาสตร์ “ไม่มีซ้ำร้อย” เว้นแต่ วันไหนคนไทยพูดว่า “ธุระไม่ใช่” ก็เตรียมได้เลย
จาก “ราชอาณาจักรไทย”
“แก้รัฐธรรมนูญ” ตั้งสสร.เขียนใหม่ “เป็นไทย-สาธารณรัฐ”!
เปลว สีเงิน
๑๗ มีนาคม ๒๕๖๘
