“ป่าน่าน” ใน “เมืองน่าน” #เปลวสีเงิน

เปลวสีเงิน

๔-๕ วันมานี้

ไฟไหม้บางส่วนที่ “โรงพยาบาลรามาธิบดี” คงรู้กันแล้ว

ช่วงนี้ ท่านจึงเห็นข้อความตามโซเชียล ว่า

“มูลนิธิรามาธิบดี ขอเชิญร่วมบริจาคซ่อมแซมอาคาร 1 โรงพยาบาลรามาธิบดี หลังเกิดเหตุไฟไหม้

ชื่อบัญชี มูลนิธิรามาธิบดี

กรุงเทพ 090-3-50015-5 

กสิกรไทย 879-2-00448-3

ไทยพาณิชย์ 026-3-05216-3

LINE @ramafoundation

โทรศัพท์ 02-201-1111

ใบเสร็จลดหย่อนภาษี 2 เท่า

ผมอยากบอกว่า ทำบุญที่ไหน-กับใครจะได้บุญ-ได้อานิสงส์ทันตาเห็น เหมือนการ “ช่วยชีวิตคน” ยามเจ็บไข้ได้ป่วย เห็นจะไม่มี

นั่นคือ การทำบุญกับ “โรงพยาบาลหลวง” ก็เท่ากับทำบุญ “ช่วยชีวิตคน” ในนาทีเป็น-นาทีตาย กุศลมหาศาล

ฉะนั้น เห็นที่ไหนบอกบุญเรื่องสร้างโรงพยาบาล ท่านอย่ารีรอ จะสิบบาท-ร้อยบาท ขอให้จิตตั้ง ทำไปเลย

บุญทานนั้น “สำเร็จที่ใจ” มิใช่จากจำนวนเงิน

ผมไปโรงพยาบาลราชวิถี พระมงกุฎ รามาฯ ศิริราช ทีไร เห็นคนเจ็บ-คนป่วย เป็นร้อย-เป็นพัน แออัดมารอรับการรักษา

สงสาร เห็นใจ ทั้งคนป่วย ทั้งพยาบาล ทั้งหมอ ฉะนั้น ทางไหน ที่เป็นทางสงเคราะห์โรงพยาบาล ทำไปเลย

ช่วยเขาเท่ากับช่วยเรา บุญทานนี้ “ไม่มีสูญ”

เพราะใครล่ะ จะอยากมาโรงพยาบาล ถ้าไม่เพราะถูกเจ็บไข้ได้ป่วยคุกคามชีวิต อันเป็นทุกขเวทนาอย่างยิ่ง

ความเจ็บป่วย มันไม่เลือกผู้ดี-มีจน เกิดได้กับทุกคน ทุกเวลาและตอนนั้น ต่อให้เอาเงินมากองเท่าภูเขา ก็ไม่มีความหมาย เท่ามีโรงพยาบาล มีหมอ ซักคน มาช่วยชีวิตเรา

เมื่อต้นสัปดาห์ สถาบัน K Agro-innovate Insititute:KAI ภายใต้มูลนิธิกสิกรไทย

นำคณะ คุณภูมิชาย ล่ำซำ, คุณวรรณพร พรประภา, คุณอรัญ-คุณอรุณ เอี่ยมสุรีย์, คุณไซม่อน, คุณบวรสินธ์ ตันธุวนิตย์ และศาสตราจารย์พิเศษ วิบูลย์ ตั้งกิตติภาภรณ์

ไปเยี่ยมชมอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน “โรงพยาบาลน่าน” ซึ่งผมได้ติดตามไปด้วย

“นพ.ณัฐวิชช์ จักร์เจริญฤทธิ์” ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการฯ รพ.น่าน ท่านพาคณะชมภายในโรงพยาบาลจนทั่ว

น่าน ผมไปครั้งแรก ราวๆ ปี ๒๕๐๙-๑๐ ป่าเขาร่วม ๘ ล้านไร่ ไม่มีคำว่าภูเขาหัวโล้น แม้ในตัวเมืองน่าน ไปทางไหน เหมือนเดินอยู่ในสวนป่า-สวนส้ม

การไป-มาลำบากมาก ยุคนั้น ๕ โมงเย็น ก็ไม่มีรถกล้าวิ่งเข้า-ออกแล้ว กลัวคอมมิวนิสต์ดักซุ่มยิง จากสองข้างทางที่เป็นป่า

สภาพเมืองเหมือนในหนัง “คาวบอย” มีโรงแรมเทวราชเท่านั้นเป็นศูนย์กลางที่ทันสมัยที่สุดแห่งยุค

“โรงพยาบาลน่าน” ถ้าจำไม่ผิด ยุคนั้น “นพ.บุญยงต์ วงษ์รักมิตร” ปูชนียบุคคลแห่งวงการแพทย์เป็นผู้บริหาร

ท่านสร้างตำนานในการอุทิศตน ทั้งซื่อสัตย์สุจริตต่อวิชาชีพ ไม่ยอมทิ้งโรงพยาบาล อยู่รักษาชาวบ้าน รักษาทหาร ที่บาดเจ็บจากการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ จนมีบันทึกเป็นเป็นเกียรติประวัติไว้ว่า

“มีหนังสือจากสำนักงานสมุหราชองครักษ์ แจ้งว่า ในหลวงทรงพอพระราชหฤทัยกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ รพ.น่าน และมีพระประสงค์ที่จะสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ และความต้องการอื่น

นพ.บุญยงค์:เราก็กราบบังคมทูลฯ ไปว่า มีอะไรบ้างที่เราขาดแคลน ทั้งเครื่องมือแพทย์ และการขยายอาคารเพื่อรับผู้บาดเจ็บ

หลังจากนั้น “ในหลวง” ก็ทรงมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากการสู้รบที่ รพ.น่านอีกครั้ง เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๑๑      

สิ่งของพระราชทาน ได้แก่เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ เครื่องดูดเลือดและน้ำจากปอด เครื่องรมยาสลบ เครื่องปรับอากาศ ประดิษฐานอยู่บนโต๊ะ ยังความปลาบปลื้มให้กับหมอหนุ่ม

แต่ที่เหนืออื่นใด เมื่อพระองค์ท่านพระราชทานสิ่งของให้แล้วก็ตรัสว่า

“เงินที่ขอไปนั้น ฉันนำมามอบให้แล้ว ขอให้หมอดำเนินการก่อสร้างเองนะ ไม่ต้องผ่านราชการ ฉันไว้ใจเธอ”

นั่นก็นานมาเกือบ ๖๐ ปีแล้ว…..

โรงพยาบาลน่านใน พศ.๒๕๖๘ นี้ ขอบอกให้เห็นภาพว่า “โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์” เป็นฉันใด ด้านความทันสมัยที่ครบเครื่อง ทั้งเครื่องมือแพทย์ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์

“โรงพยาบาลน่าน” ก็อย่างนั้น เพียงขนาดโรงพยาบาลเล็กกว่าเท่านั้น!

ถึงตรงนี้ คงอยากรู้กันว่า แล้วไปเอาเงินที่ไหนมาสร้าง ซึ่งจากงบประมาณหลวง อย่าหวัง?!

อยากให้อ่านนี่ครับ “คุณบัณฑูร ล่ำซำ” ประธานกิตติคุณธนาคารกสิกรไทยในฐานะ รองประธาน “มูลนิธิรักษ์ป่าน่าน”

ในพระราชูปถัมภ์ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี”

ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่ง ในปาฐกถาเทิดพระเกียรติ วันมหิดล ประจำปี ๒๕๖๕ เรื่อง “น่านแซนด์บอกซ์” ว่า

“ปีที่แล้ว ผมผ่าตัดใหญ่ต่อมลูกหมาก แล้วรีบกลับไปทำงานต่อ ขึ้นเขานั่งรถจนต่อมลูกหมากอักเสบ

คืนหนึ่ง กำลังจะเข้านอน “ปัสสาวะไม่ออก” ก็ตกใจจึงโทรศัพท์ไปปรึกษาคุณหมอที่ผ่าตัด

ซึ่งคุณหมอแนะนำให้ไป  “โรงพยาบาลน่าน” ก็เดินทางไป  “ห้องฉุกเฉิน”โ รงพยาบาลน่าน ตอนกลางคืน

มีคุณหมอหนุ่ม ๒ คน ออกมาต้อนรับ

ระหว่างนั้น ก็สอดส่ายตามองเห็นห้องอุบัติเหตุโรงพยาบาลจังหวัดน่าน ซึ่งอยู่ในสภาพ “ดีกว่าโรงรถนิดเดียว”

สภาพโทรมมาก ขนาดเป็นโรงพยาบาลอยู่ในเมือง!

วันนั้น เหตุการณ์ผ่านมา ผมรอดมาได้ ก็บอกผู้อำนวยการโรงพยาบาล (พญ.อัจฉรา ละอองนวลพานิช) ว่า

“มูลนิธิรักษ์ป่าน่าน” จัดงบให้ ๕๐ ล้านบาท ช่วยทำห้องอุบัติเหตุให้ดีกว่านี้

และเมื่อร่วมประชุมกันอีกที ผมเพิ่งตระหนักว่า ในการแพทย์แผนสมัยปัจจุบัน เงิน ๕๐ ล้านบาท “ทำอะไรไม่ได้เลย”

ในที่สุด ก็ถกกันยาว งบประมาณบานปลายออกมาเป็น “ตึกอุบัติเหตุ-ตึกรังสี”ที่ทันสมัยที่สุดในลานนา

มูลค่าประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาท!

“สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”เสด็จฯ วางศิลาฤกษ์ เมื่อเมษายน ปีที่แล้ว

อีก ๒ ปีเสร็จ มีทั้งอุปกรณ์ต่างๆ มากมายและรายการนี้จะแล้วเสร็จแน่นอน ถ้า “มูลนิธิรักษ์ป่าน่าน” ทำ จะไม่ทิ้งงาน

ไม่ว่าราคาจะแพง เงินจะเฟ้อ หรือเงินบาทจะอ่อน ก็ต้องทำให้เสร็จอีก ๒ ปี

อันนี้ ทำให้สมบูรณ์ของการเดินหมากรัฐศาสตร์และสาธารณสุขศาสตร์พร้อมกัน รู้สึกดีและเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง”

 …………………………………..

สรุป ที่ไปเห็น “โรงพยาบาลน่าน” สภาพใหม่แกะกล่อง สูง ๔ ชั้น นั้น

ชั้น ๑  X-Ray ฟัน, เต้านม, อัลตราซาวน์

ชั้น ๒ ศูนย์ผ่าตัด, งานวิสัญญี

ชั้น ๓ ห้องตรวจสวนหัวใจ, ผู้ป่วยวิกฤติหัวใจและหลอดเลือด, ห้องตรวจสมรรถภาพหัวใจ, ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ

ชั้น ๔ งานเทคนิคการแพทย์

ลงมือสร้างเฟสแรก ปี ๖๕ สร็จปี ๖๖ ด้วยงบประมาณกว่า ๑,๓๐๐ ล้านบาท

และเฟส ๒ อาคารรังสี งบก่อสร้าง กว่า ๔๐๐ ล้านบาทอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกกว่า ๒๐๐ ล้านบาท

ทั้งสองส่วนนี้ จะเป็นทั้ง “แผนกฉุกเฉิน” และ “ศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์”

สมตามชื่อที่ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” พระราชทานว่า

“ศูนย์การแพทย์รัตนนันทเวช” อันหมายถึง “ศูนย์กลางของการรักษาของจังหวัดน่าน”

โรงพยาบาลน่าน เป็นโรงพยาบาลหลวง ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขก็จริง แต่แบบแปลนไม่เหมือนกับโรงพยาบาลไหนๆ ของกระทรวง

เพราะคุณบัณฑูรให้คุณหมอปรึกษาหารือกับผู้ออกแบบเองว่า ต้องการแบบไหน ที่สะดวก สอดรับกับการใช้งานของแพทย์-พยาบาลในการรักษาผู้ป่วย

คุณบัณฑูรเน้น ๒ เรื่อง

๑.ต้องอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวและต้นไม้เดิมไว้เป็นเอกลักษณ์โรงพยาบาล และ

๒.ต้องจัดสัดส่วนให้มีพื้นที่สำหรับ แพทย์ พยาบาล บุคลาการทางการแพทย์ ได้มีที่พักผ่อน ที่สันทนาการ ห้องรับประทานอาหาร

กระทั่งห้องพักนอนสำหรับแพทย์ที่เหนื่อยล้าตอนอยู่เวรยามค่ำคืน ก็ต้องมี พร้อมเครื่องอำนวยความสดวก

นี่คือ คิดอย่างผู้บริหารที่สามารถครองใจคน การเอาใจเขา-มาใส่ใจเรา “การสั่งการใดๆ เมื่อได้ใจคน ไม่มีงานไหนที่ไม่สำเร็จ”

ผมเดินไปแต่ละที่แล้ว รับรู้ได้เลยว่า การส่งต่อในการรักษาจากแผนกหนึ่งไปสู่อีกแผนกหนึ่ง มันเชื่อมต่อ ไหลลื่น แม้ต้องขึ้น-ลงลิฟต์บ้าง แต่ก็ไม่รู้สึกว่า เป็นอุปสรรคต่อเคสฉุกเฉิน

เขาออกแบบได้ตามจุดประสงค์การใช้งานดีจริงๆ กระทั่งว่าอยู่ในโรงพยาบาลแท้ๆ แม้ป่วยกายยังไม่หาย

แต่ป่วยใจ หายก่อน ด้วยบรรยากาศที่ “เหมือนห้าง”

มีกระทั่งห้องประชุมยังกะโรงละครแสนอลังการ เดินๆ ไป มีภาพเขียนอาจารย์ “เทพศิริ สุขโสภา” ประดับให้ดูเพลินตา

ยังกะอยู่ใน “พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ” ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แถมขายด้วย

คุณภูมิชายยังซื้อมา ๒ ภาพๆ ละกว่า ๕๐,๐๐๐ บาท รายได้เป็นค่าบำรุงรักษาโรงพยาบาล

ได้ดู ได้เห็น ได้ทราบการก่อเกิดของโรงพยาบาลน่านแล้วปลื้มใจ ดีใจ กับพี่น้องชาวน่านทุกคน ที่มีโรงพยาบาลทันสมัย เครื่องมือ และแพทย์-พยาบาลพร้อมเช่นนี้

จะว่าอิจจาก็อิจฉาพี่น้องชาวน่าน ที่ “สมเด็จพระเทพฯ” องค์ประธาน “มูลนิธิรักษ์ป่าน่าน” ทรงพระเมตตายิ่ง

พระราชทานเงินมูลนิธิ เพื่อการก่อสร้างโรงพยาบาลน่าน “ทั้งหมด และมูลนิธิฯ ยังรับดูแล-รักษาค่าใช้จ่ายต่อเนื่องตลอดไป

โดย “คุณบัณฑูร ล่ำซ่ำ” รองประธาน “มูลนิธิรักษ์ป่าน่าน” และมูลนิธิ “ธนาคารกสิกรไทย” เป็นผู้สนองงาน ปฎิบัติให้เป็นไปตามนั้น

พูดถึงน่าน…
ทุกวันนี้ ถ้าบอก “ไปน่าน” จะมีคนร้อง อ๋อ…แล้วพูดต่อว่า “คุณบัณฑูรอยู่ที่นั่น” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

หมายถึง ชื่อคุณบัณฑูรกับจังหวัดน่านขณะนี้ ในความรู้สึก-เข้าใจของคนจำนวนมาก เป็น “สิ่งเดียวกัน” ที่ใช้ “เรียกแทนกันได้” ไปแล้ว!

มูลนิธิรักษ์ป่าน่าน, คุณบัณฑูร, มูลนิธิกสิกรไทย ตามที่ผมไปดู-ไปสัมผัส มีพันธะทางสังคม เพื่อการคืนป่า คืนเมือง คืนต้นน้ำ สร้างอาชีพให้คนน่านอยู่ร่วมป่า ในอีกหลายเรื่องที่ต้องเล่า

เป็น “คน” นั้น ไม่ยาก

แต่การเป็นคน “มีค่า” เพื่อสังคมนั้น ไม่ง่ายจริงๆ!

เปลว สีเงิน

       ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ

 

Written By
More from plew
สังคมคิด-วิปริตคน- เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน นับจากข่าว ๑๓ หมูป่าติดถ้ำแล้ว อดีตตำรวจบุกศูนย์เด็กเล็ก กราดยิง ๓๘ ศพ ที่หนองบัวลำภู เมื่อ ๖...
Read More
0 replies on ““ป่าน่าน” ใน “เมืองน่าน” #เปลวสีเงิน”