เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น. พันเอกรวิรักษ์ สัตตบุศย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช เปิดเผยภายหลังนำทีม “ฉก.พญานาคราช” โดยมี นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช พ.ต.อ. สราวุฒิ ปรีดาภรณ์ ผกก.สภ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ทำหน้าที่หัวหน้าพนักงานสืบสวน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายหลังได้รับเบาะแสจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่า มีการลักลอบนำเข้าเมล็ดฝ้ายเข้ามาในราชอาณาจักรไทยผ่านทางท่าเรือแหลมฉบัง
ซึ่ง ฉก.พญานาคราชได้วางแผนเข้าตรวจสอบ 2 จุด คือ 1) ท่าเรือแหลมฉบัง และ 2) ที่ตั้งบริษัทที่นำเข้าเมล็ดฝ้าย เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ
โดยเบื้องต้นเข้าตรวจสอบเส้นทางการนำเข้าเมล็ดฝ้าย ณ ท่าเรือแหลมฉบังพบข้อมูลในระบบแจ้งนำเข้าสินค้าของด่านตรวจพืช (NSW) มีชื่อผู้นำเข้ารายเดียวกันกับที่มีการแจ้งการนำเข้ากากเมล็ดฝ้ายไว้กับด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง และจากการประสานข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังพบว่าตู้สินค้าทั้งหมดถูกปล่อยออกไปจากเขตท่าเรือแหลมฉบังหมดแล้ว
จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบและขยายผลไปถึงโกดังให้เช่าเก็บสินค้า เลขที่ 319/10 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ซึ่งบูรณาการกำลังเข้าตรวจสอบร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
พบในโกดังมีเมล็ดฝ้าย จำนวน 231,942 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1,831,876.29 บาท ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามตาม พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และการตรวจค้นพบว่าสินค้าเป็นเมล็ดฝ้ายจริงตามที่ได้รับข้อมูลมา ซึ่งสินค้าที่สำแดงอันเป็นเท็จนี้ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. 2507 และแก้ไขเพิ่มเติม (นำเข้าสิ่งต้องห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต) และสำแดงข้อมูลอันเป็นเท็จในเอกสารแจ้งการนำเข้า และความผิดตามมาตรา 202, 244 และ 252 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และความผิดตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จึงได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดดังกล่าว รวมทั้งได้ทำการเก็บตัวอย่างสินค้ามอบให้พนักงานสอบสวนและทำการยึดอายัดห้ามเคลื่อนย้ายไว้ในโกดังเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป และชุดจับกุมได้มาลงบันทึกจับกุมไว้ที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
นอกจากนี้ ฉก.พญานาคราชเตรียมขยายผลไปยังกระบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายอื่นอย่างเข้มข้นไม่ลดละ หากพบการกระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเอง พร้อมเดินหน้าลุยเพื่อขจัดสินค้าเกษตรเถื่อนให้หมดไปจากประเทศไทยตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์