เปลว สีเงิน
ถามจริงๆ….
การเอาเงินร่วม ๓ หมื่นล้านแจกเด็กวัย ๑๖-๒๐ ปีประมาณ ๓ หมื่น คนๆละ ๑ หมื่น นั้น
รัฐบาลเพื่อไทย
หวังดีแต่ประสงค์ร้ายกับประเทศในทางยาว ใช่อย่างนั้นหรือเปล่า?
เพราะการเอาเงินหมื่นมาหว่านแจกเด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมร่วม ๓ ล้านคน ชนิดไม่มีเหตุผลเช่นนี้
มันคือการ “วางยาประเทศ” ด้วยการนำ “เงินง่าย” มามอมเมาให้เด็ก “หลงติด” ซึ่งไม่ต่างกับมอมให้ติดยาเสพติด ติดการพนัน
และมันจะเพาะเป็นนิสัยติดตัวไปจนโต
แล้วคิดซิ ในเมื่อ “กำลังของชาติ” ในอนาคต ติด “เงินง่าย” แล้วใครอยากทำงานเอาเหงื่อ เอาสมอง เอาสติปัญญาไปทำงานหาเงิน?
รอเงินง่าย จากรัฐบาลเอาเงินงบประมาณมาแจก “แลกกากะบาท” ไม่ง่าย สบายกว่าหรือ?
และนี่ คือ “ประชานิยม” ที่พัฒนาการจากนักการเมืองระบบเลือกตั้ง แบบอย่างเรื่อยมาแต่ยุค “รัฐบาลทักษิณ”
เงินงบประมาณแทนที่นำไปใช้พัฒนาประเทศ กลับเอาไปทำประชานิยมกับชาวบ้านระดับรากหญ้าตามต่างจังหวัด
“ลด-แลก-แจก-แถม” จนชาวบ้านติดกับดักของพรรค ไม่ต้องประกอบอาชีพอะไรก็มีรายได้
เพียงไปร่วมกิจกรรมของพรรคแต่ละวัน แต่ละเดือน
จากประชานิยมระดับชาวบ้าน จนการเป็น “ฐานเสียงเลือกตั้ง” คืองานอาชีพอย่างหนึ่ง
และตอนนี้ อาชีพนั้น ถูกขยายฐานลงสู่ระดับเยาวชน ตั้งแต่อายุ ๑๖-๒๐ ปี ด้วยวิธีให้เสพติด “เงินแจก”
ผมไม่อยากใช้คำว่า “สารเลว”
แต่การทำเช่นนี้ ไม่มีคำไหนที่เหมาะเจาะลงตัวปานฟ้าดินสร้างสรรค์ อย่างนั้นจริงๆ
คิดดูซิ อายุ ๑๖ คือเด็กอยู่ในวัยเรียนระดับมัธยมขึ้นไปใช่มั้ย?
หน้าที่ของเด็ก คือการมุ่งมั่นต่อการเรียน
จู่ๆ เพื่อไทยเอาเงิน ๑ หมื่นไปแจก บอกว่า “เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ” ซึ่งเด็กวัยเรียน นอกเป้าหมาย “พายุหมุน” อยู่แล้ว
แต่รัฐบาลแพทองธาร ลูกตาสิน โดยรัฐมนตรีพิชัย นายเผ่าภูมิ นายจุลพันธ์ กลับไร้สำนึกทางหิริ-โอตตัปปะ
ใช้เงินหมื่น “ตกเบ็ด” เด็ก…
จะบอกว่า ไม่ได้มุ่งหมาย “เพาะพันธุ์” ทางการเลือกตั้งที่จะมีในปี ๒๕๗๐ ซึ่งอีก ๒ ปี กลุ่มเป้าหมายนี้ ก็อายุ ๑๘ แต่มันก็ไม่มีเหตุผลอื่นที่จะคิด
เด็กอยู่วัยมัธยม เมื่อได้เงินหมื่นฟรีๆ โดยไม่คิดจะได้ แถมไม่มีเหตุผลทางความจำเป็นที่ต้องได้
แต่เมื่อเงินหมื่นดิจิทัลหล่นปุ๊ลงกระเป๋า มันล่อให้เด็ก “ใจแตก”
วัยเรียน นอกจากตั้งใจเรียน จะต้องรับผิดชอบอะไร?
ก็แทบไม่มี
ดังนั้น เมื่อมีเงิน “เกินภาวะ” เข้ามา แวบทางดื่ม กินเที่ยว เล่นพนัน ไปจนถึงยาเสพ จึงเป็นเส้นทาง “เงินหมื่น” ชักลากไปง่ายมาก
เคราะห์ดีนะ ที่เงินนี้มาก่อนที่ “เพื่อไทย” จะทำเว็บ “พนันออนไลน์” ออกมารองรับ
ไม่งั้น ๑ หมื่น จากยอด ๓ หมื่นล้าน ต้องไหลไปอยู่ที่ “มัน” มากกว่าครึ่งแน่!
จะเอาไปจ่ายค่าเทอม ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นการแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง เขาก็ห้าม
แต่เอาไปซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ เขากลับไม่ห้าม!?
ถามคำ ทำอย่างนี้ (มึง) เอาอะไรคิด
และคิดนี้ “คิดดี” หรือ “คิดร้าย” กับสังคมประเทศ ผ่านการทำลายเยาวชนทาง “มอมเมา” ให้หลงติด?
ถ้าคิดจะให้เงินกับเด็กน่ะนะ มันมีวิธีจูงใจผ่านการให้ด้วยวิธี “สร้างสรรค์” เยอะแยะ
อย่างรายการ “เก่งจริง-ชิงค่าเทอม” ทางโทรทัศน์ช่อง ๓๑ ONE ที่เข้าให้เด็กนักเรียนมาตอบคำถามทางวิชาการต่างๆที่เด็กเรียน ตอบได้มีเงินค่าเทอมให้นั้น
แบบเนี้ย ทำไมรัฐบาลไม่สนับสนุน ไม่ใช่เป็นการให้ แต่เป็นสิ่งที่เด็กเขาได้จากสติปัญญา น้ำพัก-น้ำแรงของเขาเอง
พ่อ-แม่ภูมิใจ สถาบันศึกษา ครู-อาจารย์ ภูมิใจ ทุกคนภูมิใจ และตัวเด็กก็ภูมิใจ-มีกำลังใจใฝ่เรียนรู้
เด็กแบบนี้แหละ ที่โตขึ้น จะเป็น “กำลังหลัก” ของชาติที่หวังได้
ไม่ใช่เอาเงิน ๓ หมื่นล้านไปแจกเพื่อทำลาย ซึ่งมันอัปรีย์-จัญไร อันคนมีสำนึกทางรับผิดชอบ เขาไม่ทำกัน!
เพื่อไทยย้อนคิดสิ….
เป็นรัฐบาลวันแรก อ้างเศรษฐกิจจะตาย ต้องรีบกระตุ้น
ประกาศแจกเงินดิจิทัล ๕.๖ แสนล้าน คนอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป คนละหมื่น ๕๐ ล้านคน
บอกเป็น “พายุหมุน” กระชาก GDP ให้โตอย่างน้อย ๑%
สังคมกระแอม-กระไอในเล่ห์ลับ-กลลวงต่อการล้วงควักกินตับประเทศ ลดลงมาเหลือ ๕ แสนล้าน
จะกู้มาแจก สังคมต้าน ซ้ำกู้มาแจก “ผิดกฎหมาย” ก็ยักซ้าย-เยื้องขวา ตัดเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีมาแจก!
แจกต่อเมื่อผ่านไปเป็นปี….
ถ้าเศรษฐกิจวิกฤตจริงตามอ้างแต่แรก ตายหมดประเทศไปก่อนแล้ว ไม่รอเป็นปีหรอก
ก็ตัดเงินพัฒนาประเทศมาแจกไป ๒ งวด รวมยอดประมา ๑.๘ แสนล้านบาท
เศรษฐกิจโตตามอ้างบ้างมั้ย?
คำตอบคือ งบซอฟต์ พาวเวอร์โต งบยกคณะไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋ต่างประเทศโต งบกลางผลาญจนโต
แต่เศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน ปานปลากระดี่แถกดอน!
แล้วเฟส ๓ แจก “ตกเบ็ด” คะแนนนิยมเด็กอายุ ๑๖-๒๐ อีก ๓ หมื่นล้าน รวม ๓ เฟส แจกล้าง-แจกผลาญไปกว่า ๒ แสนล้านบาท
กลุ่มก้อนการเมืองกระเป๋าโต ส่วนประชาชนระดับกลาง-ล่าง หัวแม่ตีนโต!
ยังมีอีกแสนกว่าล้านที่จะแจก “ตกเบ็ดคะแนนเสียง” ล่วงหน้า ก็ตรองกันดูละกัน เพื่อไทยบริหารสร้างชาติ หรือผลาญชาติ?
เป็นรัฐบาลมา ๒ ปี เอาที่เห็นๆ ผลาญ-สูญเปล่าไปกว่า ๒ แสนล้าน ยังพอว่า
แต่สร้างนิสัย “รอแจก” ให้กับคนไทยนี่ซี มันเป็นอุปสรรคพัฒนาประเทศที่น่ากลัว
ถามว่า แล้วรัฐบาลเพื่อไทย มีผลงานอะไรทาง “สร้างรายได้” เข้าประเทศที่เป็นรูปธรรมบ้าง?
ไม่มี…แค่เกาะ “กินบุญประเทศ” ด้านท่องเที่ยวที่เหนี่ยวนำเข้ามาด้วยศักยภาพตัวประเทศเอง!
แล้วเราคิดว่า ควรให้รัฐบาลเพื่อไทย แทะประเทศอยู่ไปเรื่อยๆ หรือไม่?
หรือควรให้พ้นไป ก่อนที่ประเทศจะพัง-เงินคงคลังหมดเกลี้ยง แล้วกู้ทิ้งหนี้ฝากไว้ให้คนรุ่นต่อไปรับกรรมก้อนโต?
อย่างที่ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลยุค “พล.ต.อ.สมยศ” ทำไว้ จน “มาดามแป้ง” ร้องไห้ กับหนี้สินที่ทิ้งค้างหลายร้อยล้าน แถมมี “นอก-ใน” เป็นปริศนาอีกเดือนละเป็นล้าน!
การบริหารมา ๒ ปี ยังต้องขนเงินหลวงมาไล่แจก อ้างต้อง “กระตุ้นเศรษฐกิจ”
นั่นเท่ากับยอมรับโดยปริยาย ว่าที่บริหารมา ๒ ปี ไม่มีน้ำยา เป่าตูดยังไง เศรษฐกิจก็ไม่ฟื้น จึงต้องแจกลูกเดียว!?
แบบนี้ ยิ่งควรต้องเฉดหัวออกไป
หรือว่าที่ไล่แจกตั้งแต่เด็กมัธยมครั้งนี้คือ “หมัดจาก” เป็นการสั่งลาของรัฐบาล “นางทองกีบม้า” คนนี้?
สามารถบอกได้ว่า ตอนนี้ รัฐบาลเพื่อไทย “พังราบทุกแนวรบ” ในการกินรวบ!
-พรบ.ประชามติ เปิดทางฉีกรัฐธรรมนูญ ก็พัง
-แก้เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญ ตั้งสสร.เขียนใหม่ ก็พัง
-กำจัด “สว.สีนำเงิน” ที่ขวางกินรวบรัฐสภา ก็พัง
-คนชั้น ๑๔ ที่ลำพองเหนือคุก “คุก” ก็กำลังคืนมา
-กาสิโน, พนันออนไลน์ “แสนล้าน” เห็นๆ ทำท่าหายวับ
-ขนเงินประเทศแจกซื้อเสียงล่วงหน้า ทำท่าย้อนศร
-นายกฯ Gen Y หน้าผากแคบสั้น เก้าอี้สั่น ขาใกล้หัก
-ซักฟอก “ขึงพืด” ในสภา ทีท่าส่ออาการไม่ยุบก็ลาออก
ดูแนวรบทุกด้านของนายกฯ เพื่อไทยแล้ว….
พังทุกแยก-แหกหมดทุกแนว ยิ่งเมื่อวาน ขุนศึกเพื่อสังคมชาติตัวพ่อ ทนายนกเขา-นิติธร, ตู่-จตุพร นำทัพเอง ยกพลประชิดติดหน้าทำเนียบ….
พร้อมประจัญบาน ถ้ารัฐบาลแพทองธาร นำพรบ. “เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” และพนันออนไลน์เข้าครม.
“ไอ้เสือ-อีเสือ” ถอย ชนิดหางจุกตูด!
โดยมีการบ้านแปะหลัง เป็นคำถามว่า เศรษฐกิจแห้งขอด เงินคงคลังยังมีเหลืออยู่หรือไม่
แล้วรัฐบาลยังขนมาแจกไม่หยุด-ไม่หย่อน ลองจาระไนให้ประชาชนเจ้าของเงินดูซิว่า ไปตัดเอางบตรงไหนมาบ้าง?
๕,๐๐๐ ล้านบาท ทำซอฟต์ พาวเวอร์ แจงบัญชีซิว่า เอาไปทำตรงไหน อะไรบ้าง ผลได้คุ้มเสียขนาดไหน แจงให้ชัดซิ
และที่ปั้นจิ้ม-ปั้นเจ๋อไปโชว์รองเท้ากีบม้าในงาน ITB อันเขาไม่ได้เชิญนั้น แจงบัญชีค่าใช้จ่ายซิว่า
ผลาญไปกี่ร้อยล้าน กับงานวัดการท่องเที่ยวที่เยอรมัน?
ไม่แจงก็ไม่เป็นไร
๒๔ มีนา.ในงานซักฟอกนายกฯ คงมี “ฝ่ายค้าน” ลุกขึ้นมาสวดอภิธรรมพร้อมสดับปกรณ์แน่!
ก็บอกไม่รู้กี่บอก ว่ารอบนี้เป็นรอบ “เช็กบิล” บัญชีกรรม
ถึงเวลา “กรรม” ทำหน้าที่ มันน่ากลัว
ก็อย่างที่เห็นๆ อย่าให้ต้องจาระไน ว่าน่ากลัวยังไง!
วงแหวนแห่งกรรมกำลังบีบขมับผู้ชั่วร้าย ซึ่งมันผู้ซึ่งทำไว้กับประเทศและประชาชน กำลังทุรน-ทุราย
“ไฟสุมขอน” ยังไม่ร้อนระอุเท่า “ไฟนรก” เผาใจ ให้มันตายก่อนตาย
แล้วดูซิว่า….
เงินทองที่มันโกงชาติประชาชนไป สุดท้าย เงินทองเหล่านั้น ช่วยอะไรมันได้บ้าง?
“สูทั้งหลาย…
จงมาดูโลกนี้อันตระการอยู่ดุจราชรถ อันคนเขลาหมกอยู่ แต่ผู้รู้หาข้องอยู่ไม่”
ตั้งแต่บัดนี้ไปเถิด!
เปลว สีเงิน
๑๒ มีนาคม ๒๕๖๘
