สันต์ สะตอแมน
ระเบิด..ตูม!
มันไม่เกี่ยวกับทักษิณลงไปหรอก แต่..มันเกี่ยวอะไรกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องลงไป 3 จังหวัดชายแดนใต้
และฝ่ายการเมือง ข้าราชการ อย่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รวมถึงประชาชน ก็คอยพินอบพิเทาไปยืนรอต้อนรับ มอบดอกไม้ที่สนามบินนราฯ นั่นเล่า?
สื่อมวลชนก็แห่แหนพากันไปทำข่าว ยังกับว่านายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งๆที่ตำแหน่งแห่งหนก็เป็นเพียง “บิดาพ่อนายกฯ” กับที่ได้รับการอุปโลกน์..
“ที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน” พ่วงท้ายด้วย “คดีความ” ที่ติดตัวอยู่!
หนำซ้ำ ใช้เฮลิคอปเตอร์ตำรวจเป็นยานพาหนะในฐานะอะไร เป็นข้อสงสัยที่ชาวบ้านเขาอยากรู้
ที่อ้าง..ลงไป “เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในหลายมิติ
ทั้งด้านความมั่นคง ด้านศาสนา และด้านการศึกษาของประชาชนในพื้นที่” นั้น
รัฐบาล-นายกฯ และฝ่ายความมั่นคง แต่ละยุคสมัยก็ได้หารือ ดำเนินการมาตลอด หลังจากที่นายทักษิณก่อหวอดจุดชนวนด้วยคำว่า “โจรกระจอก” และตามด้วย..
นโยบาย “กำปั้นเหล็กและถุงกำมะหยี่” แต่กลับใช้ “กำปั้นเหล็ก” ทุบจนเละ ทำให้เกิดแผลในใจที่บาดลึกกับพี่น้องไทยมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนใต้มาจวบปัจจุบัน!
แล้ว..คำ “ขอโทษ” ได้เคยหลุดจากปากนายทักษิณไหม?..ไม่มี มีก็แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เอ่ยกล่าว..
“ผมขอโทษแทนรัฐบาลที่แล้ว และขอโทษแทนรัฐบาลนี้” ท่ามกลางชาวมุสลิมกว่า 2,000 คน ในงานฉลองวันอีฎิ้ลฟิตริ ของชาวมุสลิม มื่อปี 2549 นู้น!
ซึ่งแม้จะขอโทษ-ยอมรับผิด เหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็ยังคงมีอยู่ต่อมาๆ หนักบ้าง-เบาบ้างตามแต่นโยบายของแต่ละรัฐบาล
และวันสองวันที่นายทักษิณลงไป ก็ยังทำกระมิดกระเมี้ยน ไม่ยอมจะขอโทษแต่กลับใช้ลีลา-โวหาร..
“เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100 % แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย”
นี่..ไม่ได้สำนึกว่าสิ่งที่ผิดพลาดในครั้งนั้น เป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรง ทำให้เกิดความเดือดร้อน สูญเสียต่อชีวิต แต่นายทักษิณคิดเป็นความผิดพลาดที่เบาบาง เพียงเล็กน้อยไปนู้น!
อย่างไรก็ตาม พลันเห็นภาพ-ข่าวพี่น้องชาวมุสลิมคอยต้อนรับขับสู้นายทักษิณด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็ให้รู้สึกยินดี-ดีใจกับเจ้าตัว และหวังความเกลียดชัง-ความแค้นจะไม่มีอีกแล้ว
เสียงระเบิดตูมตามก่อนหน้าที่เครื่องบินนายทักษิณลงจอด ให้ถือเสียว่าเป็นเสียงของการต้อนรับพ่อนายกฯ ไร้เดียงสาผู้มาเยือน และจะเป็นเสียงสุดท้ายที่ได้ยิน!
ด้วยนายทักษิณได้บอกกับที่ประชุมว่า.. “ตั้งใจมาดูสถานการณ์ในปัจจุบัน และอยากมาดูมารับฟังด้วยตัวเองว่าเป็นสถานการณ์เป็นอย่างไร รวมถึงมาสานงานที่ทำไว้เมื่อครั้งเป็นนายกฯ
เพราะการแก้ไขปัญหาใช้เวลานานมากยังไม่ยุติเสียที มันก็ควรจะยุติได้ในสมัยรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเป็นรัฐบาลเพื่อไทยและลูกสาวตนเป็นนายกรัฐมนตรี”
ก็..ขอให้เป็นเช่นนั้น แต่ระยะเวลารัฐบาลแพทองธารจะอยู่บริหารประเทศยาวนานเป็นเทอม-สองเทอมเชียวหรือ?
และนายทักษิณเองก็คิดว่าจะอยู่เบื้องหลัง “บัญชาการ” ทุกอย่างเบ็ดเสร็จแบบนี้ต่อไปได้อีกยาวไกลกระนั้นรึ?
พระเจ้าน่ะ ไม่ได้โง่!
