วิกฤติโควิด-19…สู่จุดเปลี่ยนสังคมอินทรีย์

“สามพรานโมเดล ชวนช้อปสินค้าออร์แกนิกผ่านแอพพลิเคชั่น Thai Organic Platform ชูคอนเซ็ปต์ อยู่บ้านก็จ่ายตลาดได้  พร้อมยกระดับเกษตรกรอินทรีย์สู่แม่ค้าออนไลน์”วิกฤติโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ร้านอาหาร  จนแทบทุกแห่ง  มีจำนวนผู้เข้าพักเป็นศูนย์ และยังส่งผลกระทบกลับไปยังคนต้นน้ำ ผู้ผลิตอาหารอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เช่นเดียวกันกับเกษตรกรอินทรีย์เครือข่ายสามพรานโมเดล ที่หลายปีมานี้ เปลี่ยนจากการทำเกษตรเคมี  มาสู่วิถีอินทรีย์ พัฒนาเรียนรู้ จนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค มีลูกค้าประจำ ระดับโรงแรมห้าดาว ร้านอาหารชื่อดัง หลายแห่งในกรุงเทพ รวมถึงสวนสามพราน ดูทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี เกษตรกรมีรายได้มั่นคง  บางรายแทบไม่ต้องทำตลาดเลย เพราะผลผลิตถูกจองไปหมดแล้ว

แต่วันนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสมรณะ ได้เปลี่ยนโลก สังคมบอบช้ำ เศรษฐกิจแย่ลงอย่างสิ้นเชิง ใครจะคาดคิดว่า ออร์เดอร์ จากแหล่งรายได้ที่คิดว่ามั่นคงจะหายวับไปกับตา แถมพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไปอย่างชิ้นเชิง   ผู้บริโภคไม่อยากออกจากบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทว่า ในช่วงภาวะวิกฤติเช่นนี้ การค้าขายบนออนไลน์ จึงเป็นทางออกเดียวที่ได้ผลดีที่สุด ที่จะทำให้ผลผลิตจากฟาร์ม เดินทางไปหาผู้บริโภค  ทำให้ในที่สุดโปรเจกต์ “ไทยออร์แกนิกแพลตฟอร์ม” ที่มุ่งเชื่อมสังคมอินทรีย์ ให้มาเจอกันบนโลกออนไลน์  ต้องเร่งสปีดสุดๆ  เพื่อสร้างช่องทางให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าออร์แกนิก ขณะที่เกษตรกรเอง ก็เริ่มเปลี่ยนความคิด หันมาสนใจใช้ช่องทาง Thai Organic Platform ขายสินค้ากันมากขึ้น

อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สวนสามพราน และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ผู้ริเริ่มขับเคลื่อนสามพรานโมเดล เล่าถึงผลกระทบจากสถานการณ์ครั้งนี้ ว่า หนักมากจริงๆ  ในส่วนธุรกิจของเขาเอง คือ    สวนสามพราน ก็ต้องปิดให้บริการชั่วคราว ทุกส่วนทั้งห้องพัก ห้องอาหาร สปา และกิจกรรมการท่องเที่ยว   โดยเริ่มปรับบริการ Organic Express ขาย อาหาร ขนม พืชผักผลไม้ ที่บริเวณตลาดสุขใจ หน้าสวนสามพราน ให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านรวมถึงบริการ Delivery ซึ่งแต่ละวันไม่มีรายได้มากนัก แต่ก็ยังเป็นกำลังใจให้พนักงานหลายร้อยชีวิตที่ยังคงทำงานอยู่   และสิ่งที่เขาห่วงตอนนี้ คือ เกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลกว่า 200 ครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้

แต่ละคนเขาวางแผนการผลิตไปแล้ว จู่ๆ ตลาดหายไป เขาจะไปขายใคร ผลไม้อีกมากมายๆ ที่จะทยอยออกสู่ตลาดไม่กี่วันนี้ จะระบายอย่างไร จะไปถึงมือผู้บริโภคที่อยากจะกินได้อย่างไร   เราจึงต้องมาเร่ง  เปิดใช้แอพพลิเคชั่น Thai Organic Platform เพื่อเปิดพรีออเดอร์  สินค้าของตลาดสุขใจ และเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล ให้ผู้บริโภคสามารถออเดอร์สินค้าจากเกษตรกรได้ก่อนล่วงหน้า และสามารถ มารับได้โดยที่ไม่ต้องมาเดินหาซื้อของในตลาด ซึ่งได้เริ่มต้นไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก” คุณอรุษ เล่าผลกระทบที่เกษตรกรได้รับ

ทั้งนี้ จุดเด่นของ Thai Organic Platform  คือ ให้ประสบการณ์เหมือนไปจ่ายตลาดจริง  เพราะราคาสินค้าเท่ากันกับซื้อที่ตลาด  และเป็นการซื้อตรงจากเกษตรกร มีสินค้าครบทั้ง ข้าว พืชผัก ผลไม้ และสินค้าแปรรูป ซึ่งหลังจากเริ่มเปิดใช้งานแอพ ก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคได้ ทั้งในกรุงเทพ นครปฐม และจังหวัดอื่นๆด้วย เสียงสะท้อนส่วนใหญ่ชอบที่เป็นการซื้อตรงจากเกษตรกรอินทรีย์ ที่สำคัญราคาเดียวกับตลาด และสามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของผลผลิต มั่นใจ เชื่อถือได้

ในส่วนของเกษตรกรอินทรีย์ที่ขายบนแพลทฟอร์ม อย่าง คุณอรุณี พุทธรักษา หัวหน้ากลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ เล่าถึงทัศนคติที่เปลี่ยนไป ว่า จากที่คิดว่ายาก มันไม่จำเป็น วันนี้รู้แล้วว่า ไม่ทำไม่ได้ พอเริ่มลงมือทำ ไอ้ที่คิดว่ายาก มันก็ง่ายขึ้นๆ มีปัญหาก็แก้กันไป นึกอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรให้ของดีๆ ที่เราปลูกไปถึงคนกินโดยไม่เน่าเสีย

และอีกหนึ่งข้อดีของการซื้อสินค้าบนแพลทฟอร์มนี้ ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินตรงไปยังบัญชีเกษตรกร ทำให้ในภาวะวิกฤติเช่นนี้เราได้เห็นรอยยิ้มและแววตาของเกษตรกร ที่คลายความกังวลลงได้บ้าง  “ นั่งๆ อยู่ที่ฟาร์ม ก็ได้ยินเสียง ติ๊งส์ ๆๆๆ เฮ้ย มีเงินเข้ามาจากไหน นึกขึ้นได้คนซื้อของจากบนแพลตฟอร์ม สิ่งเล็กๆ ที่กำลังเริ่มก้าว คือความหวัง และพลังยิ่งใหญ่ของเกษตรกรอินทรีย์

ด้านคุณทิพย์วัลย์  เมธาราษฎร์ หนึ่งในผู้บริโภค ที่ปกติซื้อของที่ตลาดสุขใจทุกสัปดาห์  เล่าถึงการปรับตัว ว่า จริงๆ นิยมการได้เลือกซื้อสินค้าด้วยตนเองมากกว่า  ไม่ได้สนใจซื้อจากออนไลน์ เพราะไม่มั่นใจว่าจะได้สินค้าตามที่เห็นภาพไหม แต่ในเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่หยุด ก็ไม่อยากไปตลาดนานๆ การซื้อออนไลน์จึงเป็นทางเลือก ซึ่งเริ่มทดลองใช้ แรกๆ ก็รู้สึกว่ายุ่งยาก เพราะมีการจ่ายเงินหลายจุดเคยชินกับการจ่ายให้ระบบหนึ่งเดียว แต่เมื่อทราบว่า เป็นการจ่ายตรงไปยังเกษตรกร ก็รู้สึกดี และอยากสนับสนุน  อย่างไรก็ตามยังอยากไปตลาดจริง เพราะมีของหลากหลาย ได้ถาม ได้คุยกับพ่อค้าแม่ค้า

ผู้บริโภคสามารถดาวโหลดแอพพลิเคชั่น Thai Organic Platform และสมัครฟรีไม่มีค่าใช้ใดๆ ผ่านมือถือ หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ www.thaiorganicplatform.com โดยฟังก์ชันที่เกี่ยวกับการซื้อสินค้าอินทรีย์ ภายใต้เมนู ช้อปปิ้ง” จะมีรายการสินค้าตามหมวดหมู่ เช่น ผัก ผลไม้ สินค้าแปรรูป ในเบื้องต้นประมาณ 200 รายการ โดยรอบรับพรีออเดอร์จะเปิดทุกหลังเที่ยงวันจันทร์ถึงเที่ยงวันพุธ และจัดส่งช่วงเช้าวันเสาร์ในทุกสัปดาห์ สำหรับจุดบริการรับสินค้าจะมี 2 แห่งคือ  1. ตลาดสุขใจ นครปฐม เวลา 9.00 -16.00 น. 2. ร้านปฐม ซอยทองหล่อ 23  กรุงเทพ เวลา 11.00 -16.00 น. กรณีผู้บริโภคต้องการให้จัดส่งถึงบ้าน สามารถใช้บริการขนส่งรายย่อยได้โดยผู้บริโภคเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Line @ thaiorganicplatform FB: ไทยออร์แกนิกแพลตฟอร์ม หรือโทร 064-295-4289     (คุณศศิธร กิจกอบชัย)

อนึ่ง แอพลิเคชั่น Thai Organic Platform มุ่งเชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าอินทรีย์ ตั้งแต่ผู้ผลิตคือเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการ และ ผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแหล่งผลิตอาหารและสินค้าออร์แกนิก และมีความมั่นใจในคุณภาพความเป็นอินทรีย์อย่างแท้จริง โดยไทยออร์แกนิกแพลตฟอร์ม อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของมูลนิธิสังคมสุขใจ และได้รับสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

Written By
More from pp
“พล.อ.ประวิตร” เดินหน้าไม่รอช้าลงแก้ปัญหาน้ำดูแลปชช. จัดทีมลงพื้นที่สมุทรสงคราม-สมุทรสาคร 13 ม.ค.นี้
12 มกราคม 2566 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการโครงการด้านทรัพยากรน้ำ ในจังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดสมุทรสาคร
Read More
0 replies on “วิกฤติโควิด-19…สู่จุดเปลี่ยนสังคมอินทรีย์”