เปลว สีเงิน
“ไทยโพสต์”
พาดหัวข่าวผลเลือกตั้ง “นายกฯ อบจ.” เมื่อ ๑ กุมภา.๖๘ บรรทัดเดียว…จบ
“อบจ.น้ำเงิน” พรึ่บ!
แซมเป็นสนิมสร้อยด้วยถ้อยคำผ่านอักษรตัวเล็กๆ ในบรรทัดรองว่า
“บ้านใหญ่” กวาด “ทักษิณ” ไม่ขลัง พท.พลาดเป้า “ส้มจืด” ส่ง ๑๗ ได้ แค่ ๑
ข่าวไทยรัฐ ๒ กุมภา.รายงานตัวเลขสรุป ว่า
เพื่อไทย ส่ง ๑๖ จังหวัด ได้เก้าอี้มาครอง ๑๐ จังหวัด
ปราจีนบุรี, นครพนม, นครราชสีมา, มหาสารคาม, สกลนคร หนองคาย, เชียงใหม่, น่าน, แพร่, ลำปาง
แต่พรรคในเครือข่ายเก็บเก้าอี้ให้ได้ถึง ๖ จังหวัด คือ นนทบุรี, สมุทรสาคร, ฉะเชิงเทรา, จันทบุรี, ชลบุรี, ตราด
“พรรคภูมิใจไทย” กวาดเก้าอี้ไปครอง ๑๔ จังหวัด คือ ลพบุรี, สมุทรปราการ, ระยอง, บึงกาฬ, บุรีรัมย์, อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ, มุกดาหาร, เชียงราย, พิจิตร, แม่ฮ่องสอน, กระบี่, พังงา, สตูล
“พรรครวมไทยสร้างชาติ” ได้เก้าอี้ไป ๔ จังหวัด คือ ภูเก็ต, สมุทรสงคราม, สุราษฎร์ธานี, พัทลุง
“พรรคประชาธิปัตย์” ได้เก้าอี้ไป ๓ จังหวัด สงขลา, ตรัง, ประจวบคีรีขันธ์
“พรรคประชาชาติ” ได้ ๒ เก้าอี้ จังหวัด ยะลา, นราธิวาส
“พรรคชาติไทยพัฒนา” ได้ ๒ เก้าอี้ นครปฐม, สุพรรณบุรี
“พรรคประชาชน” ส่งทั้งหมด ๑๗ จังหวัด ได้ ๑ เก้าอี้ ที่จังหวัดลำพูน
“พรรคพลังประชารัฐ” ได้ ๑ เก้าอี้ ที่ สิงห์บุรี
“พรรคกล้าธรรม” ๑ เก้าอี้ ที่ หนองบัวลำภู
ที่ไม่มีกลุ่มการเมืองช่วย แต่ด้วย “บารมีตัวเองล้วนๆ” มี ๓ จังหวัด สระบุรี, นครนายก และปัตตานี
ดูแล้ว “น้ำเงิน” ก็พรึ่บไม่เกินหน้า “สีแดง” ซักเท่าไหร่หรอก กระมุบ-กระมิบส่ง ได้มาแค่ ๑๔ จังหวัดเอง
สู้เพื่อไทยไม่ได้หรอก ทักษิณตัวเป็นๆ เหาะไปหาเสียง-หาคะแนนเอง ส่ง ๑๖ ได้ตั้ง ๑๐ จังหวัดแน่ะ!
ถือว่า แม้ว “ยังไม่เสียหมา” ซะทีเดียว!
พูดถึงการเมืองเรื่อง “สี” ใน ๒ ทศวรรษ คือในรอบ ๒๐ ปี
๑๐ ปีแรก การเมืองเรื่องบ้าน-เรื่องเมือง มี ๒ สี คือ “สีแดง” กับ “สีเหลือง”
มา ๑๐ ปีหลัง “แดงกินเหลือง” แล้วบ้านเมืองก็ “อินเตอมิสชั่น” โดย “รัฐบาล ๓ ป.” เข้ามาสลับฉาก ตอนปี ๒๕๕๗
แล้ว “แดง” ก็แตกกอต่อสายพันธุ์เป็น “ส้ม” ร่วมถล่มเมือง
“แดงผสมสายพันธุ์ส้ม” เป็นสีผสม “แดงส้ม” รบทัพจับศึกกับรัฐบาล ๓ ป.สู่การเลือกตั้งปี ๒๕๖๒
แดงส้มไม่แพ้ แต่ก็ยังเอาชนะ ๓ ป.ไม่ได้!
“แดงส้ม” จึงใช้คำว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” เป็นแบรนด์สร้างจุดขายร่วมของพรรคพี่-พรรคน้อง “เพื่อไทย-อนาคตใหม่” ที่ถูกยุบเป็น “ก้าวไกล” และมาเป็น “พรรคประชาชน” ปัจจุบัน
เลือกตั้งปี ๒๕๖๖….
๓ ป. “เสื่อมเอกภาพ” ไส้ศึกและกาฝาก เมื่อ ๓ ป.แตกซาก ก็แยกย้ายไปซบขอนไม้ใหม่
ผลเลือกตั้ง “ฝ่ายประชาธิปไตย” ชนะ แต่ลักษณะ “แดงถูกส้มกลืน”!
ท่ามกลางแดงขมขื่นแต่ส้มเริงร่าที่ “ล้ม ๓ ป.” ได้สำเร็จ บ้านเมืองส่อว่า “เสร็จมัน” แน่
แต่เป็นที่มหัศจรรย์ เพราะพลันปรากฎ
“สีน้ำเงิน” ไม่รู้แทรกมาจากไหน โด่ขึ้นมาแทงเหงือก ขณะ “แดงส้ม” กำลังอ้าปากเขมือบเมือง
การเมืองเรื่องบ้านเมือง จึงเป็น ๓ สี “ส้ม-แดง-น้ำเงิน” ในปีที่ ๑๐ สุดท้าย ของวงรอบ ๓๐ ปี ณ ขณะนี้
ส้มคือ พรรคประชาชน แบ็กอัพ โดยธนาธร, แดง คือ พรรคเพื่อไทย แบ็กอัพ โดยทักษิณ, สีน้ำเงิน คือพรรคภูมิใจไทย แบ็กอัพ โดยเนวิน
หลัง ๓ ป.เสื่อมสลาย เส้นทางล่มชาติ-ล้มสถาบัน มัน “สมูธ แอส ซิลค์”
น้ำเป็นของปลา ฟ้าเป็นของนก บ้านเมืองไทยเป็นของแดงส้ม ซึ่งไม่ต่างลูกกอล์ฟที่จ่อปากหลุม แค่เขี่ย ก็..พล็อก!
เหลืออีกขั้นเดียว การ “กัดกร่อนบ่อนเซาะ” ก็จะบรรลุขั้นสุดท้าย
คัดเลือก ๒๐๐ สว. “แดงส้ม” กางมุ้งนอนฝันสมบัติแบ่ง สภาล่างคือ สภาผู้แทน “เรียบร้อย” ในกำมือสองเราแล้ว
ทางเปิดโล่งทุกทิศ แล้วแบบนี้ “สภาบน” คือ วุฒิสภา จะต่าง “ส้มในเข่ง-ตะพาบในไห” ตรงไหน หยิบมากินซะเมื่อไหร่ก็ได้!
แต่ผลที่ออกมา………
“แดงส้ม” ที่เดินสายทั้งใต้ดิน-บนดิน หงายท้องสองสลึง
“สีน้ำเงิน” โผล่พรวด ๒๐๐ ที่นั่งสว.คว้าไป ๑๕๐-๑๖๐ ที่นั่ง!?
“แดงส้ม” รากเลือดลงกระเพาะ!
ฝันสลายที่จะ “กินรวบ” รัฐสภาเบ็ดเสร็จ แก้กฎหมายจากราชอาณาจักรไทยที่แบ่งแยกไม่ได้ ให้แบ่งแยกได้ อยู่เห็นๆ
แต่ “สว.สีน้ำเงิน” เหมือนผุดขึ้นมาเหยียบหางทิ่มหอกโมกขศักดิ์ปักลิ้น ที่จะกระเดือกลงคอ กลับต้องดิ้นกระแด่วแทน
แล้วเมื่อเสาร์ ๑ กุมภา. “เลือกตั้งนายกอบจ.” ๔๗ จังหวัด มี ๒ พรรคแดงส้ม “ทักษิณ-ธนาธร” เท่านั้น
ยกคณะพล่านพล่ามให้คำจำกัดความการเมืองส่วนท้องถิ่น คือ “มือตีน” ของพรรคเพื่อการเมืองระดับครองชาติ
ต่างคนต่างถูมือมั่นใจ ยังไงก็ “คู่คี่” วะ
แต่ผลปรากฎว่าต้อง “ขี้แตก” ทังคู่!
ก็ตามพาดกะบาลหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์นั่นแหละว่า “อบจ.น้ำเงินพรึ่บ”
บอกจาก “จิตใต้สำนึก” คนไทยส่วนใหญ่เลยได้เลยว่า คนไทยส่วนใหญ่ ถ้าได้ยินคำว่า “สีแดง-สีส้ม” ชนะ เข้าไปยึดนั่น ครองตำแหน่งนี้-นั้น ในระบบบริหารและปกครองบ้านเมือง
“ผวา” มันจะพาบ้านเมืองกูไปทางไหน?
แต่พอได้ยิน “สีน้ำเงิน” ทุกคนจะ “โล่งใจ-หายห่วง” ด้วยสำนึกไทย มันจะบอกใจตัวเองโดยอัตโนมัติว่า
“สีน้ำเงิน” เป็นสีแห่งความมั่นคง “อบอุ่น-ปลอดภัย” ทั้งบ้านเมืองและสถาบัน “สบายใจ” ได้
อันที่จริง การเลือกตั้งอบจ.เป็นการปกครองส่วนท้องถิ่น ก่อนๆ การเมืองระดับชาติไม่ค่อยลงไปเจ้ากี้-เจ้าการอะไร
เพิ่งมายุค “แดงส้ม” มีแผนคิดมิดี-มิร้ายในทาง “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ใช้รัฐสภาในการเมืองระดับชาติเป็นเส้นทางเดินแผนเท่านั้นแหละ
การ “ตีป่าล้อมเมือง” เริ่มทันที โดยพรรคแดงส้มหวังใช้อบจ.เป็นมือ-เป็นตีนทางเลือกตั้งใหญ่ให้พรรค สู่การเข้าคุมรัฐสภาเบ็ดเสร็จ
หมูกำลังจะหามอยู่แล้วเชียว “พรรคสีน้ำเงิน” คือภูมิใจไทยของ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” ที่มี “นายเนวิน ชิดชอบ” แบกอัพ ดันเป็นคานเข้ามาสอด
แดงส้ม “เลยอดแดก” อย่างที่เห็น!
ดูตัวเลข “บัตรเสีย” และบัตร “ไม่ประสงค์เลือกผู้ใด” ในหลายๆ จังหวัดแล้ว มันมีความหมายทางการเมืองน่าใคร่ครวญกับ “ทุกพรรค-ทุกคน” มากทีเดียว
อย่างโคราช-นครราชสีมา มาใช้สิทธิ์ ๑,๑๕๕,๑๔๒ คน
บัตรดี ๙๗๒,๙๐๒ ใบ บัตรเสีย ๗๑,๓๐๖ ใบ
บัตรไม่เลือกผู้สมัครคนใด ๑๑๐,๙๓๔ ใบ
รวม บัตรเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๑๘๒,๒๔๐ ใบ
———————————–
เชียงใหม่ มาใช้สิทธิ์ ๘๗๗,๖๔๐ คน
บัตรดี ๗๗๘,๒๒๗ ใบ บัตรเสีย ๔๑,๗๙๘ ใบ
บัตรไม่เลือกผู้สมัครใด ๕๗,๖๒๕ ใบ
รวม บัตรเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๙๙,๔๒๓ ใบ
——————————–
เชียงราย ผู้มาใช้สิทธิ์ ๖๐๕,๗๘๐ คน
บัตรดี ๕๒๕,๙๒๘ ใบ บัตรเสีย ๓๖,๔๔๖ ใบ
บัตรไม่เลือกผู้สมัครใด ๔๓,๔๐๖ ใบ
รวม บัตรเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๗๙,๘๕๐ ใบ
……………………………
จังหวัดสงขลา ผู้มาใช้สิทธิ์ ๖๘๗,๙๔๔ คน
บัตรดี ๕๗๒,๔๙๖ ใบ บัตรเสีย ๒๘,๕๙๓ ใบ
บัตรไม่เลือกผู้ใด ๘๖,๘๕๕ ใบ
รวมบัตรเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๑๑๕,๔๔๘ ใบ
…………………………
สมุทรปราการ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 569,659 คน
บัตรดี 547,604 ใบ บัตรเสีย 22,055 ใบ
บัตรไม่เลือกผู้ใด 42,142ใบ
รวม บัติเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๖๔,๑๙๔
————————————
จังหวัดนนทบุรี มาใช้สิทธิ์ 432,613 คน
บัตรดี 382 ,782ใบ บัตรเสีย 12,268ใบ
บัตรไม่เลือกผู้ใด 37,562ใบ
รวม บัตรเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๔๙๘๓๐ ใบ
……………………………..
มหาสารคาม มาใช้สิทธิ์ ๔๕๓,๕๖๗ คน
บัตรดี ๔๐๘,๑๐๘ ใบ บัตรเสีย ๒๙,๐๐๗ ใบ
บัตรไม่เลือกผู้ใด ๑๖,๔๕๒ ใบ
รวม บัตรเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๔๕,๔๕๙ ใบ
——————————-
จังหวัดยะลา มีผู้มาใช้สิทธิ์ ๒๒๔,๗๐๗ คน
บัตรดี ๑๗๖,๘๔๐ ใบ บัตรเสีย ๑๘,๕๓๓ ใบ
บัตรไม่เลือกผู้ใด ๒๙,๓๓๔ ใบ
รวม บัตรเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๔๗,๘๖๗ ใบ
……………………………
สุพรรณบุรี มาใช้สิทธิ์ ๓๙๓,๘๔๙ ใบ
บัตรดี ๓๕๓,๔๖๐ ใบ บัตรเสีย ๑๖,๒๗๔ ใบ
บัตรไม่เลือกผู้ใด ๒๔,๑๑๓ ใบ
รวม บัตรเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๔๐,๓๘๗ ใบ
——————————
กำแพงเพชร มาใช้สิทธิ์ ๒๗๒,๒๗๘ คน
บัตรดี ๒๓๖,๐๘๔ ใบ บัตรเสีย ๑๔,๗๑๒ ใบ
บัตรไม่เลือกผู้สมัครคนใด ๒๑,๔๘๒ ใบ
รวม บัตรเสีย+บัตรไม่เลือกใคร ๓๖,๑๙๔ ใบ
———————————
จังหวัดลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิ์ ๒๔๒,๓๘๑ คน
บัตรดี ๒๑๒,๗๗๗ ใบ บัตรเสีย ๑๕,๑๓๑ ใบ
บัตรไม่เลือกผู้สมัครคนใด ๑๔,๔๗๓ ใบ
รวม บัตรเสีย+บัตรไม่เบือกใคร ๒๙,๖๐๔ ใบ
นี่เป็นตัวอย่างให้คิด เลือกตั้ง ๔๗ จังหวัด คนมีสิทธิ ๔๗ ล้าน ออกมาใช้สิทธิ อย่างเก่งระดับ ๖๐%
แต่ “บัตรเสีย” และบัตร “ไม่เลือกใครเลย” แค่ ๑๑ จังหวัด เกือบ ๑ ล้านใบ
นี่คือจำนวนคนไม่เอา “แดงส้ม” คือเพื่อไทยและพรรคประชาชนล้วนๆ เพราะ ๒ พรรคนี้เท่านั้นที่ลงสมัครในนามพรรค!
เฉพาะที่จังหวัด “ศรีสะเกษ-อีสาน” “เชียงราย-เหนือ”
ซึ่งทักษิณกร่างลงไป “ไล่หนู-ตีงูเห่า” ด้วยตัวเอง
แล้วเป็นไง….
“หนูกัดหมา-งูรัดแม้ว” แจวอ้าว หนีไปเย็บหน้าแหกที่มาเลย์โน่น!
เปลว สีเงิน
๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘