ผักกาดหอม
รับทราบ…
ประธาน กกต. “อิทธิพร บุญประคอง” ตอบเรื่อง “ผู้ช่วยหาเสียง” ชัดเจนแล้วครับ
“…ไม่ผิด คุณทักษิณ มีสิทธิเลือกตั้ง
หากศาลจำกัดสิทธิรับสมัครการเลือกตั้ง จำกัดสิทธิในการมีสิทธิเลือกตั้งก็ถือว่าเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ เราตอบพรรคการเมืองไปแล้วตั้งแต่ปี ๖๒-๖๓ เราตอบกันมานานแล้วและยึดถือเป็นข้อปฏิบัติ…”
ก็ยาวไป…
หลังจากนี้ หมายถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นในคราวต่อๆไป ทุกคนมีสิทธิ์เป็น ผู้ช่วยหาเสียงได้ แค่คนนั้นมีสิทธิเลือกตั้ง
แต่ต้องถามไปยังประธาน กกต.ช่วยให้ความชัดเจนด้วยว่า เป็นการถามตอบตามข้อสงสัยใน ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๓
หรือระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑
นอกจากตอบพรรคก้าวไกลเมื่อปี ๒๕๖๓ ว่า ผู้ช่วยหาเสียงไม่จำเป็นต้องมีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่นั้นๆ เพื่อเปิดให้มีการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางแล้ว ยังตอบพรรคการเมืองไหนไปอีกบ้าง
เพราะแม้ระเบียบ ๒ ฉบับนี้ มีคำว่า ผู้ช่วยหาเสียงเหมือนกัน แต่มีความต่าง ตรงที่ ผู้ช่วยหาเสียง ตามระเบียบเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น มิได้ให้พรรคการเมืองเสนอชื่อไปยัง กกต.
เมื่อ กกต.สรุปว่า ผู้ช่วยหาเสียงในระเบียบ ๒ ฉบับนี้ มีคุณสมบัติเหมือนกัน ต่อๆ ไปก็ต้องยอมให้ คนแบบ “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นเวทีปราศรัยเลือกตั้งท้องถิ่น
“ผู้ช่วยหาเสียง” ตามระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ทำหน้าที่อะไร?
สื่อสารนโยบายพรรค
โดยผู้ช่วยหาเสียงจะช่วยอธิบายหรือเผยแพร่นโยบายของพรรคไปยังประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยเน้นสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นในตัวผู้สมัครของพรรค
สร้างการรับรู้ในพื้นที่
ด้วยความที่ผู้ช่วยหาเสียงมักเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือได้รับความไว้วางใจในท้องถิ่น จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างการยอมรับและเพิ่มโอกาสที่ผู้คนในพื้นที่นั้นจะสนับสนุนพรรค
เชื่อมโยงพรรคกับประชาชน
การมีผู้ช่วยหาเสียงช่วยให้พรรคสามารถเชื่อมโยงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
“ผู้ช่วยหาเสียง” ตามระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่นมีหน้าที่คล้ายกันแค่ตัดพรรคการเมืองออก
สาระสำคัญของเรื่อง เราต้องย้อนกลับไปที่ ปรัชญาการกระจายอำนาจ ที่หลายพรรคการเมืองเอาไปเป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง
ว่าตามตำราเลยครับ!
หลักการกระจายอำนาจ คือการจัดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น
การกระจายอำนาจ คือ การมุ่งให้ท้องถิ่นมีอำนาจ และอิสระทั้งในทางการเมือง และการบริหาร
โดยแบ่งอำนาจและความรับผิดชอบของรัฐบาลและท้องถิ่นภายใต้กรอบการจัดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น
ให้น้ำหนักระหว่างการรวมศูนย์อำนาจ ที่มุ่งให้อำนาจและความรับผิดชอบแก่รัฐบาลกลาง กับการกระจายอำนาจ ที่มุ่งให้อำนาจและความรับผิดชอบต่อรัฐบาลท้องถิ่น
หลักการที่น่าสนใจคือ การกระจายอำนาจทางการเมือง (Political Decentralization)
การกระจายอำนาจทางการเมือง คือ การกระจายอำนาจที่ทำให้เกิดระบบการเมืองของท้องถิ่น ที่มีตัวแสดงทางการเมืองของท้องถิ่น เข้าไปมีส่วนร่วมถกเถียงต่อรองกันในประเด็นปัญหาของท้องถิ่นเอง
ระบบการเมืองของท้องถิ่น ต้องเป็นอิสระจากระบบการเมืองระดับชาติ โดยการกระจายอำนาจทางการเมืองสู่ท้องถิ่นที่ดี ต้องทำให้ระบบการเมืองของท้องถิ่นเกิดการขับเคลื่อน การจัดองค์การ การนำเสนอทางความคิด การมีส่วนร่วม การแข่งขันและการรวบรวมผลประโยชน์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นด้วย
นอกจากนี้ การกระจายอำนาจทางการเมืองต้องอาศัยกลไกแบบตัวแทน (representation) ของการเลือกตั้งในท้องถิ่น ที่ช่วยให้ผลประโยชน์ที่หลากหลายของประชาชนเข้าไปมีส่วนในการตัดสินใจทางการเมืองของท้องถิ่น
กล่าวอีกนัยหนึ่งเป้าหมายการกระจายอำนาจทางการเมือง คือ การทำให้ท้องถิ่นมีความพร้อมรับผิดชอบต่อการทำสิ่งต่างๆ ต่อประชาชนในท้องถิ่น
ถัดไปคือ การกระจายอำนาจทางการบริหาร (Administrative Decentralization)
การกระจายอำนาจทางการบริหาร คือ การมอบให้ท้องถิ่นมีอำนาจการตัดสินใจที่เป็นอิสระจากการควบคุมของส่วนกลาง ทั้งด้านการตัดสินใจนโยบายทั่วไป การควบคุมบุคลากร และการควบคุมทางการเงินการคลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจในการจัดเก็บภาษีจะบ่งบอกได้ว่าท้องถิ่นมีความเป็นอิสระในทางบริหารดีที่สุด มากกว่าการมีรายได้จากเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลาง ที่มีอิสระน้อยกว่า
และการกระจายอำนาจทางการคลัง (Fiscal Decentralization)
การกระจายอำนาจทางการคลัง คือ การถ่ายโอนงบประมาณและอำนาจการบริหารจัดการงบประมาณจากส่วนกลางให้กับท้องถิ่น เพื่อให้ท้องถิ่นมีอิสระในการบริหารจัดการด้านการคลังและงบประมาณของตนเอง
อ่านหลักการตามตำราตรงนี้จบแล้วลองกลับไปฟังสิ่งที่ “ทักษิณ” ปราศรัยอีกครั้ง ก็จะพบความจริงว่า “ทักษิณ” คือตัวทำลาย!
กกต.ยืนยันได้มั้ยครับว่าวันนี้ “ทักษิณ” กำลังทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยหาเสียง” เลือกตั้ง อบจ. ไม่ใช่ “ผู้สั่งการรัฐบาล”
รับ ๓๐๐ แสดง ๓ ล้านจริงๆ ครับ
มันเกินเลยผู้ช่วยหาเสียงไปเยอะ
“ทักษิณ” กำลังทำลายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างย่อยยับ
ให้ท้องถิ่นเป็นมือไม้ให้รัฐบาล
ท้องถิ่นไหนเป็นพวกเดียวกับรัฐบาลจะได้งบประมาณเต็มๆ
มันย้อนแย้งกันไปหมด
ถามประธาน กกต.อีกครั้งว่า จะให้การเมืองระดับชาติเข้าไปครอบงำการเมืองท้องถิ่น ด้วยการส่งคนไปเป็น ผู้ช่วยหาเสียง แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นผู้บงการการหาเสียง ใช่หรือไม่
ก่อนตอบ ดูภาพรวมให้ชัดเสียก่อนว่า หลักการปกครองแต่ละระดับนั้นมีปรัชญาอย่างไร
ถ้าคิดว่าฉิบหายก็ช่างมัน ก็ไม่ต้องทำอะไร
นั่งบีบสิวในสำนักงานไปเถอะครับ