30 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน เพื่อมอบนโยบายในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจในการปฏิบัติงาน และสามารถเร่งรัดการดำเนินงานสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกและรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส พร้อมด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ส. ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัด ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมพิธีฯ
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนสำคัญของการเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ พร้อมขอบคุณทุก ๆ ฝ่าย ที่ร่วมมือกันปฏิบัติงานจนเห็นผลเป็นรูปธรรม เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ สามารถนำพาลูกหลานกลับคืนสู่ครอบครัวได้อีกครั้ง รวมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ส่วนหน้า ที่ได้นำนโยบายไปปฏิบัติจนได้ผลจริง ถือเป็นการสร้างโอกาสให้คนไทย กลับมาพัฒนาศักยภาพของตนเองอีกครั้ง สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลเรื่องการสร้างโอกาส เพราะหากประเทศยังมีปัญหายาเสพติด ก็จะเป็นการตัดศักยภาพของคนไทย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า นโยบายภายใต้ธีม “Seal Stop Safe” เพื่อป้องกันยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ จำเป็นต้องเพิ่มกำลัง ผนึกกำลังทหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 51 อำเภอชายแดน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นคงขึ้น ในส่วนของรัฐบาลพร้อมดูแลสนับสนุนทหารและอาสาสมัครอย่างครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในชุมชนผ่านโครงการท่าวังผาโมเดล จ.น่าน และ ธวัชบุรีโมเดล จ.ร้อยเอ็ด พบว่าผู้ที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด นอกจากหายกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว ยังมีความภาคภูมิใจที่สามารถหลุดพ้นจากยาเสพติดได้ สิ่งที่ทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนปฏิบัติการในวันนี้ คือการให้โอกาสทำให้ผู้ที่เคยติดยาเสพติดได้กลับมาทำประโยชน์ให้สังคมอีกครั้ง นอกจากนี้ การเตรียมความพร้อมให้ผู้ที่ผ่านการบำบัดถือเป็นสิ่งสำคัญ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกคน เพื่อให้ผู้ผ่านการบำบัดมีระเบียบ มีความพร้อมในการทำงานต่อไป
“สิ่งที่จะต้องทำต่อคือการสร้างอาชีพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาทั้งระบบ จำเป็นต้องบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน เพื่อให้ผู้ที่ผ่านการบำบัด สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ขอเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อประเทศชาติ และขอให้ทุกคนมั่นใจว่า หากงานนี้สำเร็จไปด้วยดี จะสร้างคนที่มีคุณภาพกลับคืนสู่สังคม” นายกรัฐมนตรี ย้ำ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมผู้ร่วมพิธีร่วมกันปักธงทำพิธีเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน