เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ร่วมกับ สภากาชาดไทย เชิญชวนมาเป็น “ผู้ให้” ด้วยการร่วมบริจาคเลือดแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนหลังวิกฤตโควิด-19

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บริจาคโลหิตลดน้อยลง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้ป่วยที่มีความจำเป็นในการใช้โลหิตในการรักษาอย่างต่อเนื่อง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เล็งเห็นถึงสภาวะขาดแคลนโลหิตในทุกกรุ๊ปเลือด หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยซึ่งเริ่มคลี่คลาย จึงได้ร่วมกับ สภากาชาดไทย เชิญชวนจิตอาสาทั้งผู้บริหาร พนักงานในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป และประชาชนทั่วไปที่สนใจ เข้าร่วมบริจาคโลหิตประจำปี 2563 ครั้งที่ 2 มาทำบุญช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ด้วยการบริจาคโลหิต  ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2563  ณ ห้อง MPassion ชั้น 14 อาคารอเวนิว เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์  รัชโยธิน

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ให้ความสำคัญในความร่วมมือจัดหาเพื่อเพิ่มจำนวนโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยในภาวะขาดแคลน โดยได้ร่วมกับ สภากาชาดไทย จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ปีละ ครั้ง เพื่อร่วมสนับสนุนให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย บรรลุเป้าหมายในการรับบริจาคโลหิตให้ได้ 730,000 ยูนิตต่อปี  ในปีนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตอีก 2 ครั้ง คือ ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 และครั้งต่อไปจะจัดในวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 11.0015.00 น. ณ ห้อง M Passion ชั้น 14 อาคารอเวนิว เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน จึงขอเชิญชวน ผู้บริหาร พนักงานในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป และประชาชนทั่วไปที่สนใจ เข้าร่วมบริจาคโลหิตในวัน เวลา และสถานที่ ดังกล่าวข้างต้น


คุณสมบัติของผู้บริจาคโลหิต

เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวอายุ 18-60 ปีน้ำหนักตั้งแต่ 45 กิโลกรัมขึ้นไปไม่อยู่ในระหว่างรับประทานยาปฏิชีวนะ ยาป้องกันเลือดแข็งตัว ฮอร์โมนเพศ,   ไม่มีประวัติเป็นโรคมาลาเรียในระยะเวลา ปีไม่ได้รับการถอนฟันหรือขูดหินปูน ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนบริจาคเลือด ไม่มีบาดแผลสดหรือแผลติดเชื้อใด ๆ ตามร่างกายผู้หญิงที่ไม่อยู่ในระยะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนบริจาคโลหิต

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนวันที่จะบริจาคโลหิตอย่างน้อย 6 ชั่วโมงขึ้นไปสุขภาพต้องแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เป็นไข้หวัด หรืออยู่ระหว่างรับประทานยาปฏิชีวนะใด ๆงดรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย    24 ชั่วโมงงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังบริจาคโลหิต ชั่วโมง เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดีไม่ควรเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมาก ก่อนบริจาคโลหิต วัน และผู้บริจาคโลหิตได้ดื่มน้ำก่อนบริจาคโลหิต 30 นาที ประมาณ 3-4 แก้ว ซึ่งเท่ากับปริมาณโลหิตที่เสียไปในการบริจาค

หลังการบริจาคโลหิตเสร็จแล้ว ควรนั่งพักประมาณ 10-15 นาที รับประทานขนมหรืออาหารว่าง  ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่ม 1-2 แก้ว แล้วรับประทานอาหารตามปกติ ไม่ควรงดอาหาร โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ตับ ไข่ เลือดหมู เลือดไก่ ผักใบเขียวและผักที่มีสีเหลือง รวมทั้ง งดสูบบุหรี่หลังบริจาคโลหิต1 ชั่วโมง งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่ถ้าจะดื่มผู้บริจาคโลหิตควรรับประทานอาหารให้มากพอก่อนดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์

การบริจาคโลหิตถือเป็นการทำความดีที่ง่าย เป็นการให้โอกาสตัวเองได้ช่วยเหลือผู้อื่น และเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่  ตลอดจน ส่งผลดีต่อร่างกายซึ่งเป็นการกระตุ้นร่างกายให้สร้างเม็ดเลือดแดงขึ้นมาใหม่ (เม็ดเลือดแดงมีอายุประมาณ 120 วัน) ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น มีผลให้สุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้น สำหรับผู้หญิงสามารถบริจาคได้ทุก เดือน ส่วนผู้ชายบริจาคได้ทุก เดือน

ข้อดีของการบริจาคโลหิตนั้นมีมากกว่าที่ทุกคนคิด ไม่เพียงช่วยต่อลมหายใจของผู้ป่วยแล้ว ผู้บริจาคยังได้รับสิทธิพิเศษ ดังนี้

– บริจาคโลหิต ครั้งขึ้นไป เมื่อเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลสังกัดสภากาชาดไทย จะเสียค่าใช้จ่ายเพียงครึ่งเดียวของค่ารักษาพยาบาล และยังได้อยู่ห้องพิเศษ

– บริจาคโลหิต 24 ครั้งขึ้นไป จะได้รับการยกเว้นค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยสามัญ และหากต้องอยู่ห้องพิเศษผ่าตัดคลอดบุตร จะเสียค่าใช้จ่ายเพียงครึ่งเดียวของค่ารักษาพยาบาล

– บริจาคโลหิตครบ 100 ครั้ง จะได้เข็มเชิดชูเกียรติจากสภากาชาดไทย และเมื่อเสียชีวิตญาติจะสามารถนำเอกสารการบริจาคเลือดไปขอพระราชทานเพลิงศพได้

 

Written By
More from pp
ทส. ผนึก GIZ ชูความสำเร็จพัฒนานโยบายไทย สู้ Climate Change พร้อมขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ
องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ร่วมกับ สำนักงานนโยบายเเละเเผนทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม (สผ.) จัดกิจกรรม “Glocal Climate Change: Act Locally, Change...
Read More
0 replies on “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ร่วมกับ สภากาชาดไทย เชิญชวนมาเป็น “ผู้ให้” ด้วยการร่วมบริจาคเลือดแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนหลังวิกฤตโควิด-19”