ผักกาดหอม
ขอถามรัฐบาลเป็นครั้งที่ร้อย…
ใครคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง
ระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” กับ “แพทองธาร ชินวัตร”
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ
เพราะรัฐบาลมีความรับผิดชอบต่อการบริหารประเทศตามรัฐธรรมนูญ
แต่คนที่ชี้นิ้วสั่งรัฐบาลได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย
ที่สำคัญมิได้ ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ แต่อย่างใด
ที่ผ่านๆ มาไม่ค่อยมีการพูดถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๔ สักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เป็นบทบัญญัติที่สำคัญในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
มาตรา ๑๖๔ กำหนดไว้ดังนี้ครับ…
“ในการบริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีต้องดําเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) ปฏิบัติหน้าที่และใช้อํานาจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ เปิดเผย และมีความรอบคอบและระมัดระวังในการดําเนินกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม
(๒) รักษาวินัยในกิจการที่เกี่ยวกับเงินแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด
(๓) ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
(๔) สร้างเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรม ผาสุก และสามัคคีปรองดองกัน
รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องที่อยู่ในหน้าที่และอํานาจของตน รวมทั้งต้องรับผิดชอบร่วมกันต่อรัฐสภาในการกําหนดนโยบายและการดําเนินการตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี”
หลักๆ คือรัฐบาลต้องบริหารประเทศตามกฎหมาย สุจริต เสียสละ
เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรานี้ ได้รับการอธิบายไว้ในความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ดังนี้ครับ
บทบัญญัติแห่งมาตรานี้เป็นบทบัญญัติใหม่ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีให้ชัดเจน เนื่องจากในรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ได้กำหนดหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีไว้แต่เพียงว่ามีหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขใดไว้ เพราะถือว่าคณะรัฐมนตรีเป็นองค์กรสูงสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน
การใดๆ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติมักจะทำให้เข้าใจว่ามีผลใช้บังคับได้เสมอ
ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งศาลปกครองขึ้น การตรวจสอบการใช้อำนาจของคณะรัฐมนตรีจึงมีมากขึ้น เป็นการสมควรที่จะกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ให้ชัดเจนว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีจะต้องดำเนินการในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอย่างไร จึงได้มีการบัญญัติมาตรานี้ขึ้น
โดยได้วางหลักว่าคณะรัฐมนตรีจะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่บัญญัติไว้ในอนุมาตรา (๑) – (๔)
นอกจากนี้ บทบัญญัติในวรรคสองเป็นการกำหนดหลักความรับผิดชอบร่วมกันของคณะรัฐมนตรี และหลักความรับผิดชอบของรัฐมนตรีต่อรัฐสภาในการบริหารราชการแผ่นดิน อาทิ นโยบายของคณะรัฐมนตรี การเสนอกฎหมาย เป็นต้น ซึ่งการปฏิบัติงานต่างๆ ย่อมมีผลผูกพันคณะรัฐมนตรีที่จะต้องรับผิดชอบต่อรัฐสภา
แต่ “ทักษิณ” ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งโดยที่หลายคนไม่รู้ตัว
เช่นเคยครับ…
บนเวทีปราศรัยเลือกตั้งนายก อบจ.ศรีสะเกษ เห็นว่าต้องระดมตำรวจกว่า ๒๐๐ นายไปดูแลความเรียบร้อยในการปราศรัยของ “ทักษิณ”
คงไปได้ข่าวอะไรมา
แต่ก็ดีครับกันไว้ดีกว่าแก้
“ทักษิณ” ยังคงปราศรัยในรูปแบบเดิม ใช้นโยบายรัฐบาลนำ อ้างความสำเร็จในอดีตนำกลับมาทำอีกรอบ
“…พี่น้องไม่เคยลืมผมเลย คราวที่แล้วมาทำพิธีไล่หนูตีงูเห่าก็เกือบตีเกือบหมดจังหวัด พี่น้องก็สนับสนุนให้ สส.พรรคเพื่อไทยกับผม ดังนั้นภารกิจของผมต้องทำให้พี่น้องพ้นความทุกข์ยาก…”
ซัด “อนุทิน” เข้าให้
สงสัยต้องออกรอบตีกอล์ฟที่สนามอัลไพน์อีกครั้ง
ต้องกระทุ้ง กกต.อีกรอบ “ทักษิณ” ไปปราศรัยในฐานะ ผู้ช่วยหาเสียง ไม่ใช่ผู้มีอำนาจ ที่จะไปบริหารอะไรได้ แต่ “ทักษิณ” พูดราวกับตัวเองเป็นผู้นำรัฐบาล
“…วันนี้ถ้าเราไม่จัดการเรื่องยาเสพติดให้เด็ดขาด ลูกหลานเราลำบาก ประชาชนอยู่กันลำบาก หวาดผวากลัวคนติดยามันหลอนประสาท มันไล่ฆ่าพี่ฆ่าน้องหมด ผมเห็นแล้วไม่ไหวจริงๆ ตอนผมเป็นนายกฯ ครั้งแรกเห็นเหตุการณ์แบบนี้ บอกเลยว่ารับไม่ไหว วันนั้นที่จัดการสามเดือนเกลี้ยงเลย ดังนั้นสิ้นปีนี้ต้องจบ ยาเสพติดต้องหมด…”
“…ผมกลับมาจากต่างประเทศดูเรื่องอะไรจับอะไรมีปัญหาหมด เละหมด ดังนั้นต้องรื้อใหม่เยอะแยะเลย ยากหน่อยแต่ก็ทำได้เพื่อพี่น้อง เพราะพี่น้องไม่เคยลืมผม ผมก็ต้องทำงานตอบแทนพี่น้อง โดยเฉพาะพี่น้องศรีสะเกษ ต้องตอบแทนบุญคุณเพราะไม่เคยลืม ขอทีไรสนับสนุน เที่ยวนี้เลยต้องขออีกรอบได้ไหม ขอวิวัฒน์ชัยเป็นนายก อบจ. เพื่อเป็นมือไม้ให้ผม อาจจะงงว่าผมตำแหน่งอะไร ตำแหน่ง สทร.ไง เลยต้องเสือกไปทุกเรื่อง ไม่เสือกก็ไม่ไหวเพราะเป็นห่วงพี่น้องจริงๆ…”
“…เที่ยวนี้ศรีสะเกษขอเพื่อไทยทั้งหมดเลยได้ไหม แล้วถ้าแก้ปัญหาศรีสะเกษไม่ได้ ชี้หน้าด่าผมเลย แต่ขอหมดเลยนะ อย่าขี้เหนียว อย่าไปแบ่งให้คนนั้นนิด คนนี้หน่อย เลือกนายก อบจ.ให้ผมและเลือกทีม สจ.ให้ แล้วผมจะมาช่วยกันแก้ปัญหาให้พี่น้อง รับรองว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะราบรื่นเพราะมันมีมือไม้ ผมอยากทำอะไรให้ศรีสะเกษอีกเยอะ แต่ยังไม่อยากพูดตอนนี้เดี๋ยวโดนหาเรื่องว่าสัญญาว่าจะให้…”
“…ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหายาเสพติด ถ้าไม่ใช้เพื่อไทยแล้วจะไปใช้ใคร ยิ่งผมกลับมาถ้าไม่ใช้ยิ่งแย่ ต้องใช้ แก่ยังขยัน พี่น้องรีบใช้แล้วเรามาแก้ปัญหาร่วมกัน รับรองว่าสิ่งนี้จะแก้ได้อย่างรวดเร็ว กลางปีทุกอย่างจะดีขึ้น ขอให้พี่น้องมีกำลังใจ และคราวหน้าผมมาเยี่ยมอีก ผมมาบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพี่น้องไม่ลืมผมเลย นายก อบจ.และ สจ.ให้ผมนะ และเลือก สส.ยกจังหวัดให้ผมสักรอบ แล้วได้เห็นผมบ่อยๆ แน่
วันนี้มาขอเองพี่น้องอย่าใจร้าย กลับไปบอกพี่น้องเพื่อนฝูงด้วยว่าทักษิณมาขอเองขอมือไม้หน่อย จะรับใช้พี่น้องศรีสะเกษให้เต็มที่…”
กกต.เข้าไปดูหน่อยนะครับ เพราะตำแหน่งเสือกทุกเรื่อง ไม่มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินใดๆ ทั้งสิ้น
ฉะนั้น เข้าข่าย หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หรือไม่
“ทักษิณ” พูดเสียงดังฟังชัดนะครับว่า ตัวเองจะเป็นคนแก้ปัญหาให้
ชาวบ้านมีปัญหาอะไรจะแก้ให้หมด
และแก้สำเร็จด้วย
ถ้าไม่สำเร็จให้ชี้หน้าด่า
แถมยังให้คำมั่นสัญญา ไปรับปากอะไรมากมาย
ขึ้นอยู่กับ กกต.แล้วครับว่า จะบังคับใช้กฎหมายหรือไม่
หรือหากปล่อยเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ก็ระวัง กกต.จะเป็นฝ่ายถูกบังคับใช้กฎหมายเสียเอง