23 มกราคม 2568 นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางพร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)
นำกำลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซ้อนแผนบุกเข้าจับกุม นายปัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี นายช่างโยธาปฏิบัติงาน สำนักงานเขตพระโขนง
ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นผู้รับเหมาเขียนแบบก่อสร้างห้างคอมมูนิตี้มอลล์ 7 คูหา เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ 2 งาน ในพื้นที่เขตพระโขนง ถูกนายปัญญา ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นนายช่างโยธา เรียกเก็บเงินค่าออกใบอนุญาตการก่อสร้างอาคารโครงการดังกล่าวจำนวน 420,000 บาท
ด้วยความกลัวว่าหากไม่ยอมจ่ายเงินตามข้อเรียกร้องจะถูกกลั่นแกล้งจนกระทบต่อการดำเนินการก่อสร้างโครงการจึงยอมจ่ายเงินให้ก่อน 220,000 บาท จากนั้นจึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับทางกรุงเทพมหานคร เพราะมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก่อนที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะสั่งการให้ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมประสานข้อมูลร่วมกับตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อกวาดล้างเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
จึงเป็นที่มาของการออกหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับประโยชน์โดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ,เป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดฯ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบ” ขณะกำลังเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการ โดยจับกุมตัวได้ภายในห้องทำงานสำนักงานเขตพระโขนง พร้อมตรวจยึดเงินสดของกลาง 2 แสนบาท
จากนั้นไม่นาน นายปัญญา ได้ติดต่อมายังผู้เสียหายอีกครั้ง เพื่อทวงถามเงินส่วนที่เหลืออีก 2 แสนบาท เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดแน่ชัด ทางพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินส่วนที่เหลือไปส่งมอบ ก่อนกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์
กระทั่งเมื่อเห็นผู้ต้องหารับมอบเงินจากผู้เสียหายแล้ว จึงตัดสินใจนำกำลังบุกเข้าจับกุมตัวได้พร้อมกับเงินสดของกลางดังกล่าว และเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในห้องทำงาน พร้อมคุมตัวมาสอบปากคำยังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ต่อไป