สันต์ สะตอแมน
มีคนสงสัย..
ใครนะที่ไปดีล-ตกลงกับนายทักษิณ ชินวัตร ให้กลับเข้ามาประเทศไทยโดยไม่ต้องติดคุกสักวันเดียว!
และในข้อตกลงนั้น ได้อนุญาตให้นายทักษิณเดินหน้า MOU 44 ด้วยใช่ไหม? แกถึงได้ทะลุทะลวงแบบไม่ฟังเสียงคัดค้าน..
ประกาศจะเอาผลประโยชน์ใต้ท้องทะเลมาแบ่งกัน 50/50ให้สำเร็จ!
หรือแม้แต่ “บ่อนกาสิโน” ก็รวมอยู่ในดีลนี้ด้วยใช่ไหม นายทักษิณถึงมั่นอก-มั่นใจ ลั่นทุกเวทีหาเสียงต้องเกิดขึ้นให้ได้ในรัฐบาลชุดนี้..
ถึงกับทุบโต๊ะคำราม (แบบเสือหิว)..ไม่ต้องทำประชามติกาสิโน!
หาเสียงบนเวทีก็เป็นอีกดีลใช่ไหม?.. “ผมได้รับพระเมตตา พระมหากรุณาธิคุณให้ได้กลับมารับใช้ประชาชน” จนทำให้กกต.ก็แกล้งทำเป็นหูหนวก-ตาบอดอยู่ในขณะนี้
เขาว่า..ถ้าทั้งหมด มีอยู่ในข้อตกลงจริงก็จะได้ทำใจยอมรับ และจะได้วางเฉยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่นายทักษิณต้องการ ไม่ใช่ไม่รักชาติ..
แต่เมื่อผู้มีอำนาจถึงขนาดแอบตกลงกับนักโทษที่หนีคดีอยู่ต่างประเทศยาวนานถึง 17 ปีให้กลับมามีอิทธพล มากบารมี ย่ำยีความยุติธรรมเสียจนป่นปี้โดยเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
แล้วเรา-ประชาชน จะไปขัดขวางให้เหนื่อยแรงและเสี่ยงคุก-เสี่ยงตะรางเพื่ออะไร ก็เอากันไปให้ถึงที่สุดตามดีลก็แล้วกัน!
นี่..ผมก็ฟังจากเขามาประมาณนี้ ซึ่งก็เข้าใจและเห็นใจ พลางปลอบประโลมไปว่า..คนที่เขาดีลเขาไม่ได้โง่น่า อาจปล่อยให้นายทักษิณได้สำแดงฤทธิ์-ปลดปล่อยให้เต็มที่ก็เป็นได้..
อย่าได้ท้อแท้ สิ้นหวัง..นายทักษิณน่ะ ได้อำนาจมากี่หนแล้วล่ะ แล้วเป็นไง สุดท้ายก็ต้องทิ้งลูก-ทิ้งเมียหนีไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองนู่น!
ครั้งนี้ ก็คอยดูไปเถอะ..ไม่แน่นะ ที่คำก็พ่อ (มึง) สองคำก็ควาย สามคำก็หมา สี่คำก็โยนเชือกให้ อาจเกิดจากความกลัว-ความกังวลจนสติแตกก็ได้
ส่วนเขาคนนั้นจะเชื่อหรือไม่ ผมก็มองไม่ออกเพราะเขานั่งฟังอย่างสงบนิ่ง ก่อนที่จะเอ่ยคำเสียงค่อย..
“ขอให้เป็นอย่างคุณสันต์ว่าเถอะนะ”!
ครับ..ต้องยอมรับว่าผ่านตาแค่พาดหัวข่าว ส่วนเนื้อหารายละเอียดไม่ได้ใส่ใจอ่านด้วยเป็นข่าวผัวๆ เมียๆ ตามประสาคนในแวดวงการบันเทิง
แต่พอได้อ่านข้อความที่ ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ อาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม โพสต์..อือน่าสนใจแฮ่ะ อาจารย์ว่า..
“กรณีนักร้องดัง กับโลก 2 ใบ หลังจากเรื่องเปิดเผยออกมาทั้งหมด พอเข้าใจ “หัวอกพ่อ” ฝ่ายที่ถูกกระทำจากนักร้องเสมือน “เมียเก็บ” มาหลายปี
ผู้ชายมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกสาวตัวเองตลอดหลายปี แถมยังเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าอยากเลิกกับเมียหลวงแล้วมาอยู่กับลูกสาวตัวเอง
เอาเงินจากครอบครัวที่เมียหลวงเก็บ มาใช้ปรนเปรอลูกสาวตัวเอง ให้ความหวังแบบนั้นแบบนี้ คบหาเหมือนสัมพันธ์ลึกซึ้งพร้อมจะตัดกับเมียหลวง
แล้วมาวันนึงบอกว่า “ผมดีกับเมียหลวงแล้วนะ คุณช่วยออกไปจากชีวิตผมได้ไหม อย่ามายุ่งกันอีกเลย” ส่วนเมียหลวงก็มาฟ้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายอีก
เอาจริงๆ นักร้องดังอาจจะโชคดีที่พ่อของฝ่ายผู้หญิงเป็นนายพล เลยแค่ขู่ฮึ่มๆ เพราะกลัวจะเสียหน้าที่การงาน
ลองพ่อฝ่ายหญิงเป็นคนธรรมดา แล้วเจอผู้ชายที่มาทำแบบนี้กับลูกสาวตัวเอง ผมว่าเขาคงไปกระทืบนักร้องดังถึงบ้านให้เมียหลวงดูแล้วล่ะครับ
ป.ล.ไม่สนับสนุนทุกพฤติกรรมที่คนทุกฝ่ายในเหตุการณ์นี้ทำ จะแค่อยากบอกว่าพอรู้เรื่องทั้งหมด ก็เข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อได้เลย”
อ้อ..เป็นอย่างงี้น่อ!