ขึ้นอยู่กับชะตากรรม? – สันต์ สะตอแมน

สันต์ สะตอแมน

ฟังด้อมส้ม-แกนนำ 3 นิ้ว ยื่นคำ (ขู่) ขาด “ห้ามลดเพดาน112” แล้ว..

คุณพิธาก็อย่าพลาดอ่านข้อความจากนี้ที่คุณโบว์-ณัฏฐา มหัทธนา โพสต์ จะได้รู้ทำไมประชาชนอีกมากไม่อยากให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล ..

“แน่นอนว่า เมื่อการโหวตในสภาเสร็จสิ้น เราทุกคนพึงเคารพมตินั้นและขึ้นกระดานใหม่ไปด้วยกัน

แต่เมื่อยังมีเวลาที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ต่อไปนี้คือเหตุผลส่วนหนึ่งของคนที่ไม่ต้องการได้รัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเป็นผู้นำ

1.เราต้องการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา แต่ไม่ต้องการแนวทางแบบพรรคก้าวไกล 2. เราไม่ได้มีค่านิยมร่วมกับพรรคก้าวไกลในหลายเรื่อง

เราเห็นว่า บ้านเมืองสามารถพัฒนาสู่ความทันสมัยไปตามกาลเวลา โดยไม่ต้องทำลายคุณค่าแห่งความเป็นไทย และสิ่งดีๆ มากมายที่เป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมของชาติเรา

3. เราไม่เชื่อว่าแนวคิดทางเศรษฐกิจที่เอียงไปทางสังคมนิยม จะนำสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 4. เราไม่เชื่อว่าการส่งเสริมเสรีภาพอย่างแทบไม่มีขอบเขต จะสร้างสังคมที่ดีกว่าเดิม

5. เรากังวลกับท่าทีของพรรคต่อกลุ่มคนที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน เราตั้งข้อสงสัยกับการเคลื่อนไหวเดินสายไปตามภาคต่างๆเพื่อพูดถึงประวัติศาสตร์บาดแผล ทั้งที่ชาติไทยรวมเป็นหนึ่งมานานแล้ว

6. เราไม่ต้องการสังคมที่เห็นการหมิ่นประมาทเป็นเรื่องเบาๆ ข้อเสนอแก้กฎหมายหมิ่นประมาททั้งระบบ ทั้งหมิ่นศาล หมิ่นเจ้าพนักงาน

โดยเฉพาะหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา ให้เหลือเพียงโทษปรับ เป็นการสร้างค่านิยมที่เราไม่เห็นด้วย

เราต้องการสังคมที่มีความเคารพให้เกียรติกัน แลกเปลี่ยนความเห็นต่างอย่างมีอารยะ และไม่ทำร้ายทำลายชีวิตกันด้วยการหมิ่นประมาท

7. กฎหมายทุกมาตราแก้ไขปรับปรุงได้ แต่เราไม่เห็นด้วยกับการแก้ ม.112 ในแบบที่พรรคก้าวไกลเสนอ ซึ่งมีบทยกเว้นเป็นการเปิดโอกาสให้มีการกล่าวหาสถาบันฯได้

ลดโทษจนไม่เหลือขั้นต่ำ จำคุกสูงสุดหนึ่งปี และกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ฟ้อง

เราเห็นเจตนาว่าพรรคต้องการทำอะไรต่อสถาบันหลักของชาติ และนั่นคือ เจตนารมณ์ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

8. เราไม่ไว้ใจพฤติกรรมของพรรคก้าวไกลตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่แสดงออกสนับสนุนให้ท้ายกลุ่มการเมืองที่ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างสันติ ต่อเติมความแตกแยกในสังคม

9. เราไม่เชื่อในการเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยความโกรธแค้นเกลียดชังและปลุกปั่นอารมณ์ฐานเสียง โดยเฉพาะที่เป็นเยาวชนให้แสดงออกในทางที่เป็นโทษทั้งต่อตนเองและสังคม

10. เราไม่ไว้ใจในประสบการณ์ ทัศนคติ และพฤติกรรมของหลายๆ คนที่พรรคส่งมาให้เป็นผู้แทนราษฎร

11. เราไม่เชื่อในการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างไม่จบไม่สิ้น เราไม่ซื้อการแปะฉลาก “ประชาธิปไตย” ให้ตัวเอง ทั้งที่ทุกพรรคการเมืองได้ผ่านการเลือกตั้งมาในสนามและกติกาเดียวกัน

12. เราเชื่อว่า ยังมีพรรคการเมืองที่เป็นผู้นำได้ดีกว่าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่จะขับเคลื่อนทั้งงานบริหารและงานสภาได้ราบรื่นกว่า

สร้างเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจให้ประเทศได้ดีกว่า เปลี่ยนแปลงสังคมให้พัฒนาไปในทางที่สร้างสรรค์กว่า

และในไม่กี่วันข้างหน้า เราต้องการการตัดสินใจ “เลือก” ที่คำนึงถึงเหตุผลเหล่านี้ในรัฐสภา เมื่อทุกมือในสภาได้ตัดสินใจมีมติเป็นเสียงข้างมากแล้ว

ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เราจะเคารพมตินั้นแล้วเดินหน้าต่อไปด้วยกันค่ะ.”

ครับ..อ่านจบ ทบทวนซ้ำ ก็ให้เห็นด้วยกับคุณโบว์ในทุกๆ ข้อ และเห็นด้วยด้วยว่า ไม่ว่าผลออกมาอย่างไร เราต้องเคารพมติแล้วเดินไปด้วยกัน..

ส่วน..จะขึ้นสวรรค์ หรือลงนรก..

ขึ้นอยู่กับชะตากรรมประเทศล่ะนะ!

Written By
More from pp
“พีระพันธุ์” เป็นประธานปล่อยขบวนเรือพนมพระ “ประเพณีชักพระ-ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว จังหวัดสุราษฎร์ธานี” ขรก. ประชาชน นักการเมืองท้องถิ่นภาคใต้แห่ต้อนรับคึกคัก
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ เป็นประธานเปิดและปล่อยขบวนประกวดเรือพนมพระทางบก “ประเพณีชักพระ-ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว จังหวัดสุราษฎร์ธานี” อย่างยิ่งใหญ่
Read More
0 replies on “ขึ้นอยู่กับชะตากรรม? – สันต์ สะตอแมน”