‘ส้ม’ คิด ‘ทักษิณ’ สั่งทำ #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ได้เวลาลากไส้…

เริ่มมีการขุดคุ้ยว่า ตอนหาเสียงเลือกตั้งปี ๒๕๖๖ พรรคเพื่อไทย ไม่เคยพูดเรื่องเปิดกาสิโน เลยแม้แต่น้อย

จริงครับ!

ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา ก็ไม่มีการพูดถึง นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดินเลย

มาโผล่เอาตอนการแถลงนโยบายของรัฐบาลพ่อเลี้ยงนี่แหละครับ

วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ นายกฯ แพทองโพย แถลงชัดถ้อยชัดคำ สามารถหาอ่านหรือฟังเสียงได้เป็นการทั่วไป

“…นโยบายที่สี่ รัฐบาลจะสร้างรายได้ใหม่ของรัฐด้วยการนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี (Informal Economy) และเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) เข้าสู่ระบบภาษี ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ ๕๐ ของ GDP เพื่อนำไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค รวมทั้งอุดหนุนค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานของประชาชน พร้อมทั้ง จะปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน…”

นี่ไม่ใช่จุดเริ่มต้น และรัฐบาลไม่ได้เป็นคนคิดนโยบายนี้แต่แรก

แต่เป็น “ทักษิณ ชินวัตร”

วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๗ “ทักษิณ” พูดในงาน Dinner Talk: Vision for Thailand 2024 ตอนหนึ่งว่า…

“…ในเรื่องนโยบายเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ผมเคยคิดไว้แต่โดนค้าน แต่วันนี้มีคนเชียร์มาก นโยบายนี้ที่จริงแล้วพื้นที่ที่เป็นกาสิโนมีไม่ถึง ๑๐% แต่มีในส่วนอื่นๆ น้อยมาก เช่น สวนสนุกและโรงแรม แต่ละแห่งต้องลงทุนเป็นแสนล้านบาทใน กทม.และในต่างจังหวัดต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า ๕ หมื่นล้านบาท…”

“…เราจะถือโอกาสเติมในสิ่งที่เราขาด เราต้องทำที่ที่เตรียมพร้อม สิ่งไหนที่เราขาดเราจะให้คนที่มาลงทุนเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์…”

“…สำหรับเรื่องของเศรษฐกิจใต้ดิน วันนี้คนไทยขาดทุนให้พนันออนไลน์ มียอดฝาก ๓ ล้านล้านต่อปี และคนไทยขาดทุนประมาณ ๕ แสนล้าน ถ้าเราเก็บภาษีประมาณ ๓๐% ได้ประมาณ ๓ หมื่นล้านบาท และเราเอาภาษีที่ได้เอียร์มาร์ก แทกซ์ ให้ส่งเด็กไปต่างประเทศ หรือจ้างครูเก่งๆ มาสอนนักเรียนในประเทศ…”

“…ประเทศไทยวันนี้เหมือนเม็กซิโก และโคลอมเบียในสมัยก่อนที่เศรษฐกิจใต้ดินเราสูงมาก ถ้าเศรษฐกิจเราขึ้นมาบนดินได้อีก ๕๐% ก็ทำให้จีดีพีเราโตได้อีก ๕๐% เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจในระบบเรามีไม่ถึง ๑ ใน ๓ ของเศรษฐกิจนอกระบบ…”

นี่คือบทพิสูจน์ “ทักษิณ ริ แพทองธาร ยำ”

ในเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย ก็เพิ่งนำเสนอนโยบายนี้เมื่อไม่นานมานี้เอง

ใช้ชื่อนโยบายว่า “นำธุรกิจนอกระบบ เข้าสู่ระบบ ปกป้องประชาชน”

พร้อมอธิบายรายละเอียด…

“…ธุรกิจใต้ดินและธุรกิจนอกระบบ ถูกคิดเป็นมูลค่ากว่า ๔๙% ของ GDP ประเทศไทย เป็นทั้งอำนาจมืด เป็นช่องทางคอร์รัปชัน และเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของประชาชน ประเด็นนี้ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องพลิกธุรกิจเหล่านี้ขึ้นมาบนดิน นำเข้าสู่ระบบและให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย เมื่ออยู่ในภายใต้กฎหมายแล้วจะทำให้สามารถปกป้องประชาชนได้ นอกจากนี้รัฐยังเก็บภาษีได้มากขึ้นด้วย นำเงินมาพัฒนาประเทศ พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย…”

นับเป็นเรื่องน่าตกใจที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าเป็นนโยบาย “ปกป้องประชาชน”

หลังการแถลงนโยบายของนายกฯ แพทองโพย เริ่มมีการนำเสนอ นโยบายนำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน ถี่ขึ้น

เพจเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย ขยายความนโยบายที่ ๔ ที่ นายกฯ แพทองโพยแถลงว่า เศรษฐกิจใต้ดิน คือ การสร้างรายได้ในรูปแบบที่ผิดกฎหมาย หรือกฎหมายไม่รองรับ เข้าสู่ระบบ ซึ่งอาจหมายความรวมถึง Entertainment Complex, Sex Worker รวมถึงการขยายเวลาสถานบันเทิง ขายสุรา หรือทบทวนการโซนนิงสถานบันเทิง

จะสังเกตเห็นว่ามีการใช้คำว่า “ซึ่งอาจหมายความรวมถึง Entertainment Complex, Sex Worker”

โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๗ นี่เอง

แสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทย มิได้ศึกษาผลกระทบของนโยบายมาก่อนแต่อย่างใด แต่ได้อ้างผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร สภาผู้แทนราษฎร แทน

ไฮไลต์มันอยู่ที่ สส.ที่เสนอญัตติให้ตั้งกรรมาธิการชุดนี้ครับ

ไม่ใช่ สส.พรรคเพื่อไทย

แต่เป็น ๒ สส.พรรคก้าวไกลในขณะนั้น

คือ “กันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์” และ “นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ”

ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจหาก สส.พรรคส้ม ไม่ค่อยจะวิจารณ์นโยบายเทาๆ ของรัฐบาล

จะเห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ทำอะไรเลย จู่ๆ นโยบายเปิดกาสิโน อ้างว่าเป็นสถานบันเทิงครบวงจร กลายเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

พรรคเพื่อไทยพยายามนำผลการศึกษาของกรรมาธิการฯ มานำเสนอในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ

เช่นอ้างว่า

รัฐสามารถสร้างรายได้จากการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตจากธุรกิจสถานบันเทิงแบบครบวงจรและกาสิโน เป็นจำนวนปีละหลายแสนล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาการตั้งบ่อนกาสิโนเป็นสิ่งที่ต้องห้ามตามกฎหมายภายในประเทศ ทำให้คนไทยต้องเดินทางไปเล่นการพนันที่ถูกกฎหมายยังประเทศอื่นๆ

ถ้ารัฐมีการส่งเสริมให้มีสถานบันเทิงแบบครบวงจรและกาสิโนในประเทศไทยให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะส่งผลให้ชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น รัฐมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยวของประชาชน

หากมีการสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจรและกาสิโนในประเทศ รัฐจะสามารถสร้างงานให้ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ทั้งแรงงานโดยตรงที่ทำงานในสถานที่ดังกล่าว รวมทั้งแรงงานในภาคส่วนที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจภาคการก่อสร้าง และภาคบริการ และอาหารการกิน เป็นต้น

การลดภาระของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการปราบปรามการพนันเถื่อน การช่วยลดปัญหาผู้มีอิทธิพล และลดปัญหาประชาชนนำเงินออกไปเล่นการพนันนอกประเทศ เป็นต้น

ขณะที่ผลเชิงลบกลับนำเสนอเพียงน้อยนิด โดยระบุว่า ก่อให้เกิดปัญหาต่อสังคมได้หากรัฐไม่มีมาตรการควบคุมสถานกาสิโนอย่างเข้มงวดและโปร่งใส

เช่น สังคมเสื่อมศีลธรรม ปัญหาฉ้อโกง ปล้น ลักทรัพย์ การก่ออาชญากรรม ตลอดจนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาครอบครัว

พรรคเพื่อไทยลักไก่อ้างว่ามีการเสนอญัตติตั้งกรรมาธิการฯ มาตั้งแต่ มีนาคม ๒๕๖๒-มีนาคม ๒๕๖๖ แต่ข้อเท็จจริงพบว่ามีการตั้งกรรมาธิการฯ ชุดที่อยู่ในแผนของรัฐบาลคือ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๖

มี “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รัฐมนตรีช่วยคลังเป็นประธาน

รัฐบาลได้อ้างสิงคโปร์โมเดลเพื่อสร้างความชอบธรรมสำหรับการเปิดบ่อนกาสิโนในไทย

ข้อเท็จจริงคือรัฐบาลสิงคโปร์ อนุมัติให้มีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนถูกกฎหมายในปี ๒๕๔๘ และเริ่มให้บริการในปี ๒๕๕๓

แต่ก่อนนั้นใช้เวลาศึกษาผลกระทบถึง ๑๐ ปี

ขณะที่รัฐบาลพ่อเลี้ยง มิได้สั่งทำการศึกษาผลกระทบใดๆ หยิบเอาผลศึกษาของกรรมาธิการฯ ที่ใช้เวลาศึกษาไม่กี่เดือน

ที่น่าสนใจคือ รัฐบาลให้ความสำคัญมากถึงขนาดให้นายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธานซูเปอร์บอร์ดกาสิโน มีอำนาจออกใบอนุญาตให้ทุนที่สนใจได้

ทำไมต้องเป็นนายกฯ

นี่คือวาระแห่งชาติหรือ?

ผลประโยชน์มหาศาลครับ อะไรที่เกี่ยวข้องกับการ “ออกใบอนุญาต” สำหรับประเทศไทยแล้ว ถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำเลยทีเดียว

หรือมหากาพย์เส้นทางธรรมชาติภาค ๓ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
พันธุ์ไทย สร้างปรากฏการณ์ใจฟู! เปิดตัว “คัลแลน-พี่จอง” Brand Presenter คู่แรกของพันธุ์ไทย ชูกลยุทธ์ Fandom Marketing ขยายฐานคนเจนใหม่ ผ่าน Real User ตัวจริง
ไปดิ๊~ Go Go! เป็นกระแสฮือฮาอีกครั้ง เมื่อกาแฟพันธุ์ไทยคว้าสองหนุ่มเกาหลียูทูบเบอร์ชื่อดัง ‘คัลแลนและพี่จอง’ มาสร้างปรากฏการณ์ใจฟู ผ่านกลยุทธ์ Fandom Marketing ส่งมอบประสบการณ์ตรงจากแฟนพันธุ์ไทยตัวจริงกับเมนูโปรด อเมริกาโนไม่หวาน...
Read More
0 replies on “‘ส้ม’ คิด ‘ทักษิณ’ สั่งทำ #ผักกาดหอม”