ผักกาดหอม
อาฟเตอร์ช็อก
คนไทยจะได้ยินคำนี้ไปอีกสักพักครับ
การสั่นสะเทือนของแผ่นดินที่เกิดขึ้นตามมา หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวหลัก บอกไม่ได้ครับว่าจะจบเมื่อไหร่
อาจเป็นสัปดาห์ หรือเดือน แต่จะลดความรุนแรงลงเรื่อยๆ
ไม่รุนแรงเท่าแผ่นดินไหวครั้งแรก
ฉะนั้น ความตื่นตระหนกเป็นเรื่องสำคัญ
การจะดับความตื่นตระหนกของประชาชนได้เป็นหน้าที่ของรัฐ ที่ต้องชัดเจนถึงสถานการณ์ และการเตือนที่ฉับไว ทันการณ์
แผ่นดินไหวใหญ่ผ่านไปแล้ว อาฟเตอร์ช็อกตามมา พร้อมๆ กับความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล และหน่วยงานรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
แผ่นดินไหวก่อนเที่ยง ประชาชนได้รับข้อความเตือนถึงการปฏิบัติตนตอน ๓ ทุ่ม
บางคนถึงวันนี้ก็ยังมิได้รับข้อความใดๆ เลย
นายกรัฐมนตรีอุตส่าห์แสดงความเป็นผู้นำ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยแบ่งๆ ความรับผิดชอบ สุดท้ายก็อีหรอบเดิม
วานนี้ (๓๑ มีนาคม) ช่วงสายๆ ผู้คนที่อยู่ในตึก หูตาแหกกันอีกรอบ
เพราะตึกลั่นจนรู้สึกได้
ผ่านไปครู่ใหญ่ กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า จากสถานการณ์พบการสั่นไหวในตึกสูง หลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ คือ อาฟเตอร์ช็อก ที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวที่เมียนมามีขนาดเล็ก
ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย!
แต่ “ผู้ว่าชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ไปอีกทาง
“…เรื่องนี้ต้องมีสติให้ดี ขอให้อย่ากังวลจนเกินเหตุ เพราะหลายอาคารมีการขยับเป็นปกติตามแรงลม ยืนยันว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ได้มีเหตุแผ่นดินไหวเพิ่มเติม ไม่มีอาฟเตอร์ช็อก โครงสร้างอาคารที่แข็งแรงอยู่แล้วไม่มีการพังทลาย…”
ขณะที่นายกรัฐมนตรีดูเหมือนจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของรัฐบาลเลย
“ขอยืนยันว่า ขอให้รอข่าวจากทางการจะเป็นข่าวที่ได้รับการรับรองว่าถูกต้อง และไม่เกิดการสร้างความกังวลหรือตื่นตระหนกระหว่างพี่น้องประชาชนค่ะ”
ข่าวทางการจะมากี่โมง?
คือ…สถานการณ์แบบนี้ มี อาฟเตอร์ช็อก ก็ต้องบอกว่ามี
แล้วอธิบายเพิ่มเติมว่า มันไม่ได้รุนแรง และจะไม่ส่งผลใดๆ แบบนี้เข้าใจได้
แต่การปฏิเสธไปเลยว่าไม่มี เพราะไม่ต้องการให้ผู้คนตกใจ มันเท่ากับโกหกประชาชนมิให้รับรู้ถึงสถานการณ์ที่แท้จริง
ก็ไม่ทราบ นายกฯ ยกไอแพดดูโซเชียลบ้างหรือเปล่า ที่ประชาชนแตกตื่นเพราะ ได้ยินเสียงตึกลั่น มีการสั่นไหว
ส่วนผู้ว่าชัชชาติรู้หรือเปล่าว่า ตึกมันเขย่าจนต้องมีการอพยพผู้คนในตึกหลายจุดใน กทม.
ที่รวบรวมกันในโซเชียลมีเยอะครับ
ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร A และ B
ศาลอาญาและศาลยุติธรรม รัชดา
ตึกกองทัพไทย
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ตึกกรมสรรพากร ซอยอารีย์
ตึกประกันสังคม ดินแดง
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พระราม ๙
อาคารสถานีโทรทัศน์ อสมท (ช่อง ๙)
ห้างเซ็นทรัล พระราม ๙
โรงพยาบาลตำรวจ
อาคาร AIA
อาคารระหว่างก่อสร้างที่ถนนแพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ตึกเนชั่น บางนา
ศุลกากร ท่าเรือ
กรมบัญชีกลาง และกระทรวงการคลัง
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ถนนวิภาวดีรังสิต
ผู้คนแตกตื่นไม่ใช่เพราะ ลมพัดทำตึกสั่น แต่มันคือ อาฟเตอร์ช็อก
แล้วก็เหมือนเดิม อาฟเตอร์ช็อก ผ่านไปค่อนวัน ไม่มีข้อความจากศูนย์เตือนภัยเลย
ไร้ระบบอย่างสิ้นเชิง
ตอนสึนามิภาคใต้ น้ำท่วมใหญ่ภาคกลางเถียงกันคอเป็นเอ็นเรื่องระบบเตือนภัย
ถอดบทเรียน ถอดแล้วถอดอีก เพื่อรับมือกับปัญหาภัยธรรมชาติขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
วันนี้ก็อย่างที่เห็น
เริ่มถอดบทเรียนกันอีกครั้งแล้ว
วานนี้ นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ประชุมติดตามและแก้ไขปัญหาการแจ้งเตือนภัย เห็นว่าจะมาเต็มระบบเดือนกรกฎาคม
“… Cell Broadcast (CB) หรือวิธีการส่งข้อความสั้นๆ พร้อมกันไปยังผู้ใช้โทรศัพท์ จะมาในช่วงเดือน ก.ค. ..”
“…เรื่อง SMS ตามที่คุยทั้งหมดถือว่าเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่อ Cell Broadcast มาแล้วดีอย่างไร จะสามารถกระจายข้อความได้ทุกเลขหมายได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อสักครู่ที่ได้ทดลองจะมีเสียงเตือนดังขึ้นเหมือนเบอร์ที่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์น้ำท่วม พายุเข้า จะมีเสียงดังขึ้นที่โทรศัพท์เลย ไม่ว่าจะปิดเสียงอยู่หรือไม่ มันจะดังเตือนขึ้นมา ซึ่งเอาไว้เตือนในเรื่องสำคัญ เช่นแผ่นดินไหวหรือเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้น…”
ระหว่างนี้ตัวใครตัวมันไปก่อน ไว้เดือนกรกฎาคมมาดูกันอีกทีว่า หากเกิดน้ำท่วม พายุพัด จะมีเสียงเตือนผ่านมือถือหรือไม่
แต่ที่ไม่ต้องรอเลยเพราะทำทันทีก็มีครับ
สำหรับรัฐบาลนี้ ไม่มีอะไรชัดเจนเท่า กาสิโน อีกแล้วครับ
วันที่ ๙ เมษายน บรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมสภาฯ เถียงวาระแรกให้จบแล้วตั้งกรรมาธิการ ใช้เวลาช่วงปิดสมัยประชุมพิจารณาในชั้นกรรมาธิการให้เสร็จ
สภาฯ เปิดมาก็เดินเครื่องต่อเลย คาดว่า พ.ร.บ.กาสิโน น่าจะจบเร็ว
อย่าไปห่วงชั้น สว.เลยครับ เพราะฝักถั่วเยอะ
ผ่านแน่นอน!
แล้วประเทศไทยจะมีกฎหมายเปิดกาสิโน ก่อนที่จะมีระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุถล่ม
ย้ำอีกครั้ง…
มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี กันทั่วหน้าครับ
