บรรยากาศแห่งความสุขและมิตรภาพอบอวล ในงานฉลอง 54 ปี ภายใต้ธีม “เคียงข้าง ยั่งยืน มั่นคง เพื่อสังคม” โดยคุณโชติ โสภณพนิช นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูง และคู่ชีวิตตลอดกาล คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นักการเมืองรุ่นใหญ่ เป็นเจ้าภาพในการจัดงานที่เปี่ยมไปด้วยความหมายและเป้าหมายเพื่อสังคมไทย
งานครั้งนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่ทั้งสองท่านต้องการแสดงความขอบคุณต่อแขกผู้มีเกียรติ ซึ่งรวมถึงบุคคลสำคัญจากวงการบ้านเมือง ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ เครืองาม ,คุณอานันท์ ปันยารชุน, คุณชวน หลีกภัย , คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,คุณจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา และบุคคลสำคัญจากหลากหลายวงการ ที่สนับสนุนกันมาอย่างยาวนานในการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดย คุณโชติ ในฐานะแม่ทัพมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย และ คุณหญิงกัลยา ผู้ปลุกปั้นมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ ได้ย้ำถึงความตั้งใจในการมุ่งสร้างสังคมที่ยั่งยืนผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนานโยบายสาธารณะ หรือการปลูกจิตสำนึกในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟื้นฟูป่าไม้ของประเทศไทย
คุณหญิงกัลยาได้กล่าวในช่วงหนึ่งของงานว่า “การตอบแทนคุณแผ่นดินไทยคือเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเรา เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือและความพยายามของทุกคนที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อสังคม จะช่วยสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่ลูกหลานของเราสืบต่อไป”
ความมุ่งมั่นที่สะท้อนผ่านโครงการเพื่อสังคม ทั้งสองท่านได้เน้นย้ำถึงบทบาทของมูลนิธิที่อยู่ในความดูแลผิดชอบ โดยมูลนิธินโยบายสาธารณะไทยของคุณโชติ ได้มุ่งเน้นในการพัฒนานโยบายส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ในขณะที่มูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ของคุณหญิงกัลยา ได้เดินหน้าปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการปลูกป่าและฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ นอกจากนี้ คุณหญิงกัลยายังมีโครงการอื่นๆ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และปลูกฝังความรู้พื้นฐานให้แก่เยาวชน โครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน สนับสนุนการพัฒนาทักษะเกษตรกรรมที่ยั่งยืนสำหรับนักเรียนในโรงเรียน นโยบาย “เปลี่ยน STEM ให้เป็น STEAM” เพื่อเพิ่มมิติศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ในการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก TWAVE คลื่นลูกใหม่ ไทยนิยม ( Thailand Wave : Thai Tech Teen ภายใต้แนวคิด “การสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นคลื่นลูกใหม่แห่งการพัฒนาประเทศ” โดยมุ่งเน้นการบูรณาการ เทคโนโลยี นวัตกรรม และ ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาเยาวชนไทยให้เป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมียังมีอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญ “Unplugged Coding” เป็นก้าวสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมในระบบการศึกษา เราต้องการให้เด็กไทยทุกคนได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยี ไม่เพียงแค่สร้างโอกาสในการเรียนรู้ให้กับเยาวชน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปการศึกษาของประเทศให้ก้าวทันโลกในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
ด้านคุณโชติ บุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการผลักดันความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยผ่านการดำเนินงานของ มูลนิธินโยบายสาธารณะไทย (Thai Public Policy Foundation – TPP) โดยมูลนิธิแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนในการสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศในหลากหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการเรื่อง แผนแม่บทเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในเกาะลันตาใหญ่ จังหวัดกระบี่ มุ่งเน้นการพัฒนาที่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความเจริญทางเศรษฐกิจและการรักษามรดกธรรมชาติและวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต โครงการพัฒนาระบบงานด้วยแนวคิดลีน (Lean) ให้ความช่วยเหลือมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชและคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ทั้งยังได้ขยายขอบเขตการให้ความช่วยเหลือไปสู่โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบกทั้ง 37 แห่งทั่วประเทศ และโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนนอกเขตชลประทานตามแนวพระราชดำริร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำและสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ชนบท โดยใช้ แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง และการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
ความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือ งานครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของทั้งสองท่านเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือระหว่างเครือข่ายต่างๆ ที่ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมไทย สำหรับผู้ที่ได้เข้าร่วมงาน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คืองานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความทรงจำอันงดงาม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของคุณโชติและคุณหญิงกัลยาในการสร้างสังคมที่ดีขึ้นให้แก่ทุกคน
เหนือคำขอบคุณจากหัวใจของคุณโชติและคุณหญิงกัลยาที่ได้ส่งมอบให้กับทุกคนที่ร่วมเดินทางเคียงข้างกันมา ทั้งสองยืนยันว่าจะไม่หยุดยั้งการทำงานเพื่อสังคม และพร้อมที่จะเดินหน้าสานต่อความตั้งใจในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง