ผักกาดหอม
รัฐบาลนี้แปลกครับ…
บอกว่าข้างหน้ามีเหว อย่าเดินไป
จะตกเหวตาย!
กลับก้มหน้าก้มตาเดินลงเหวซะงั้น
ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
เรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ไม่ตรงปก เพราะรัฐบาลทำก่อนคิด จึงทำได้เพียงแจกเป็นเงินสด ในเฟสแรกแจก ๑๔.๕ ล้านคน หมดไป ๑.๔ แสนล้านบาท
พายุลูกแรกหมุนแล้วหรือยัง กระทรวงการคลังไม่คิดจะโชว์ตัวเลขบ้างเลยหรือ
ที่กระจายรายได้ไปต่างประเทศเท่าไหร่
จีนน่าจะไปเยอะครับ
ไหนจะโทรศัพท์มือถือ ซื้อของออนไลน์
มีตัวเลขหรือเปล่าว่า เงินหมื่นหมุนไปจีนเท่าไหร่
เฟส ๒ เฟส ๓ จะตามมาอีก
ทักท้วงกันมาตั้งแต่ผุดนโยบายจนวันนี้ก็ยังต้องทักท้วงกันต่อ ว่ามันไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง มีแต่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ล่าสุดของล่าสุด เตือนอีกแล้วครับ
จากธนาคารแห่งประเทศไทย
แบงก์ชาติส่งหนังสือด่วนที่สุด เพื่อเสนอความเห็นที่เกี่ยวข้องประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งแบงก์ชาติพิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการแจกเงินนี้เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จึงควรดำเนินการให้เกิดประโยชน์มากที่สุดภายใต้งบประมาณที่มีอยู่
มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ดังนี้
๑.ในระยะต่อไป ควรจัดแบ่งงบประมาณเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ไปสู่การลงทุนภาครัฐเพิ่มเติม เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการพัฒนาบุคลากรในสาขาที่ขาดแคลนและจำเป็น ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังจะช่วยวางรากฐาน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
๒.ด้วยเหตุที่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้สร้างภาระทางการคลังสูง จึงควรติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าของโครงการอย่างใกล้ชิด อีกทั้งควรให้ความสำคัญกับการบริหารเครื่องมือในการระดมทุนให้เหมาะสม และเร่งชำระคืนต้นเงินกู้เพื่อรองรับการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพด้านการคลังและลดความเสี่ยงจากต้นทุนการกู้ยืมของภาครัฐและเอกชนที่อาจสูงขึ้นได้
๓.ภาครัฐควรนำประสบการณ์จากการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้ามาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงข้อมูลและยกระดับกลไกการเชื่อมข้อมูลระหว่างฐานข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รวดเร็ว ทันการณ์ และครอบคลุมยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการคลังตรวจสอบคุณสมบัติกลุ่มเป้าหมายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบข้อมูลเงินฝากนั้น ควรกำหนดแนวทางและรายละเอียดของการตรวจสอบคุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว รวมทั้งข้อพิจารณาว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการดังกล่าวข้างต้นได้ตามกฎหมาย เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย
สังคมไทยควรจะเรียกร้องทั้ง ๓ ข้อนี้จากรัฐบาลครับ
การเมินเฉยปล่อยให้รัฐบาลสร้างภาระทางงบประมาณไปเรื่อยๆ แบบนี้ จะมีปัญหาการเงินการคลังตามมาทีหลังได้
แล้วมันจะกระทบกับทุกคน
ทั้งๆ ที่รัฐบาลรู้ว่าจุดอ่อนของงบประมาณอยู่ตรงไหน เรามีงบลงทุนน้อยมาก มันไม่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศให้ก้าวกระโดดได้
แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย
เท่านั้นไม่พอ ยังนำงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลไปใช้กับนโยบายประชานิยม สอดไส้ว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ถามจริงๆ เถอะ พรรคเพื่อไทยบอกว่าต้องใช้นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยด่วน มันด่วนอย่างไร
ด่วนมาจะ ๒ ปีแล้ว
ด่วนตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งปี ๒๕๖๖ หาเสียงกันตั้งแต่ต้นปี
นี่จะเข้าไป ๒๕๖๘ แล้ว ยังด่วนอยู่หรือเปล่า
วานนี้ (๒๖ ธันวาคม) นักข่าวเอาหนังสือด่วนที่สุดของแบงก์ชาติไปถาม นายกฯ โพย ได้รับคำตอบสมกับฉายาอย่างมาก
“เฟส ๒ จะมาแล้ว”
ตอบแค่นั้นจริงๆ
หมายความว่าไม่สนใจอะไรเลย
จะแจกต่อใครจะทำไม
แบงก์ชาติเขาแนะนำว่า รัฐบาลควรนำประสบการณ์จากการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้ามาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพ เพราะมันเห็นแล้วว่ากระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง
ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่ง เที่ยวด้วยกัน ฯลฯ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง โดยเฉพาะระดับรากหญ้า
ที่สำคัญใช้งบประมาณน้อยกว่าแจกเงินหมื่นแบบพร่ำเพรื่อ
รัฐบาลพ่อเลี้ยงบริหารประเทศไป ๓ เดือน มีนโยบายที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงจังบ้างหรือยัง
เตรียมอะไรไว้สำหรับอีก ๓ เดือนข้างหน้า และถัดๆ ไปแล้วหรือยัง
ที่จริงต้องถามว่า “ทักษิณ” คิดจะทำอะไรกับประเทศไทยหลังจากนี้
มันน่าอนาถครับ เลือกตั้งกันมาทั้งที สุดท้ายอำนาจไปอยู่ในมืออดีตนักโทษคดีคอร์รัปชัน ที่ไม่ยอมติดคุกแม้วันเดียว
อนาคตประเทศไทยอยู่ในมือคนแบบนี้!
เศรษฐกิจปีหน้าจะหนักกว่าปีนี้ “พ่อนายกฯ” ที่โอ้อวดว่ามีความเก่งกล้าสามารถทางเศรษฐกิจ เตรียมอะไรไว้รับมือบ้าง
แจกเงินหมื่นเฟส ๒
เปิดกาสิโน
เจรจากับกัมพูชาแบ่งผลประโยชน์คนละครึ่งบนผืนแผ่นน้ำไทย
ศึกษาหาทางจะขึ้นแวต ๑๕ เปอร์เซ็นต์
ที่เห็นเป็นข่าวดังๆ ก็ประมาณนี้
เตรียมตัวครับ อาจจะหนักกว่าช่วงโควิดระบาด
ผนงรจตกม
