บริษัท เวียตเจ็ท จอยท์ สต๊อค จำกัด (Vietjet Aviation Joint Stock Company (HoSE: VJC)) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ของปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงในการดำเนินงานภายในประเทศเวียดนาม พร้อมเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น
เป้าหมายในการให้บริการผู้โดยสารกว่า 200 ล้านคน
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 เวียตเจ็ทให้บริการผู้โดยสารมากกว่า 19.6 ล้านคน ด้วยเที่ยวบินจำนวน 104,000 เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 6 และ 2 ตามลำดับ นอกจากนี้ สายการบินฯ ได้ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศกว่า 2.54 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 9.1
ฝูงบินของเวียตเจ็ทประกอบด้วยเครื่องบินทั้งหมด 85 ลำ โดยมีอัตราการใช้ที่นั่งเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 87 และมีอัตราความน่าเชื่อถือทางเทคนิคสูงถึงร้อยละ 99.7 ปริมาณการขนส่งสินค้ารวมอยู่ที่ 88,964 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 73 โดยเวียตเจ็ทครองส่วนแบ่งตลาดการขนส่งสินค้าของสายการบินในเวียดนามมากกว่าร้อยละ 10 ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 เวียตเจ็ทให้บริการเส้นทางบินรวมทั้งสิ้น 155 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางบินภายในประเทศ 43 เส้นทาง และเส้นทางบินระหว่างประเทศ 112 เส้นทาง
เวียตเจ็ทได้ให้บริการเที่ยวบินตรงสู่ประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย จีน และลาว รวมถึงเส้นทางอื่น ๆ อีกหลายประเทศ นอกจากนี้ สายการบินฯ ได้เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางยอดนิยม เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเส้นทางระหว่างประเทศ เพื่อรองรับเทศกาลคริสต์มาสและตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง
ด้วยเครือข่ายการบินที่ครอบคลุมและการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง เวียตเจ็ทได้ต้อนรับผู้โดยสารคนที่ 200 ล้านในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 ถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงเวียดนามสู่เวทีโลก และนำพานักเดินทางจากทั่วโลกให้ใกล้ชิดกับเวียดนามมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนระหว่างเวียดนามและนานาประเทศ
มุ่งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 เวียตเจ็ทรายงานรายได้จากการขนส่งทางอากาศและรายได้รวมที่ 51.7 ล้านล้านดอง (ประมาณ 2,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 52.2 ล้านล้านดอง (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามลำดับ โดยเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 32 และ 19 ขณะเดียวกัน กำไรสุทธิหลังหักภาษีจากการดำเนินงานและกำไรรวมอยู่ที่ 1.13 ล้านล้านดอง (ประมาณ 44.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 1.4 ล้านล้านดอง (ประมาณ 55.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 884 และ 564
รายงาน ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 สินทรัพย์รวมของเวียตเจ็ทมีมูลค่าเกือบ 94 ล้านล้านดอง (ประมาณ 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.25 และอัตราส่วนสภาพคล่องที่ 1.4 ซึ่งถือเป็นระดับที่ดีในอุตสาหกรรมการบิน
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ยอดเงินสด เงินฝากธนาคาร และเงินสดเทียบเท่ามีมูลค่ารวมเกือบ 3,997 พันล้านดอง (ประมาณ 158 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเสริมสร้างสภาพคล่องให้กับบริษัทเมื่อรวมกับเงินทุนหมุนเวียน เวียตเจ็ทยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อถือได้กับองค์กรชั้นนำระดับโลก
ริเริ่มการใช้เชื้อเพลิงสีเขียว
ในงาน Farnborough International Airshow ประจำปี 2567 เวียตเจ็ทได้ลงนามในสัญญากับแอร์บัสเพื่อซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างรุ่นแอร์บัส A330neo จำนวน 20 ลำ มูลค่ารวม 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สายการบินฯ ยังได้ลงนามในสัญญากับบริษัทการบินอวกาศชั้นนำหลายแห่ง เช่น Rolls-Royce และ Lufthansa Technik เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนในโซลูชันและบริการด้านเทคโนโลยีการบินที่ทันสมัย เพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพสูงสุด
เวียตเจ็ทเป็นผู้นำในการลดการปล่อยมลพิษจากการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย ESG โดยมุ่งเน้นการวิจัยและการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน สายการบินฯ ได้ร่วมมือกับบริษัทที่มีชื่อเสียงและองค์กรระดับนานาชาติเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและให้บริการทางเทคนิคสำหรับฝูงบินรุ่นใหม่ นอกจากนี้ เวียตเจ็ทได้ปรับปรุงการบริการลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ สอดคล้องกับพันธกิจในการทำให้การบินเข้าถึงได้สำหรับผู้คนหลายล้านคน โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้โดยสาร
นอกจากนี้ เวียตเจ็ทได้ยกระดับการบริการลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจในการทำให้การบินเข้าถึงได้สำหรับผู้คนหลายล้านคน โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างความสะดวกสบายและความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้โดยสาร
ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี เวียตเจ็ทจะมุ่งมั่นในการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดส่งท้ายปี พร้อมมุ่งสู่การเป็นสายการบินสีเขียวที่เน้นเทคโนโลยีเป็นหลัก เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม ในเดือนตุลาคม สายการบินได้รับมอบเครื่องบินใหม่จำนวน 3 ลำ และจะมีการรับมอบเครื่องบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมในไตรมาสที่ 4